หนังสือเรียนสำหรับเด็ก เล่มใหม่ (๙๔.๕)/บทความพิเศษ ฟ้า พูลวรลักษณ์

ฟ้า พูลวรลักษณ์

บทความพิเศษ

ฟ้า พูลวรลักษณ์

 

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก เล่มใหม่ (๙๔.๕)

 

วันหนึ่งฉันอ่านนิยายเรื่อง World Without End ของ Ken Follett เรื่องราวของตัวละครสี่คน ในศตวรรษที่สิบสี่

๑ ขโมย

๒ อันธพาล

๓ อัจฉริยะ

๔ หมอ

คนที่หนึ่ง และคนที่สี่ เป็นผู้หญิง

คนที่สองและคนที่สาม เป็นผู้ชาย

คนที่สำคัญที่สุดคือ หมอ เพราะ Highlight ในนิยายเรื่องนี้ คือการเกิดกาฬโรคระบาด ซึ่งทำให้ชาวยุโรปล้มตายถึงหนึ่งในสาม

คนที่สำคัญที่สองคือ อัจฉริยะ เขาเป็นสถาปนิก เป็นคนชอบคิด มีความริเริ่ม

คนที่สำคัญที่สามคือ อันธพาล ที่กล้าหาญ แต่หยาบช้า ต่อมาเขาได้เป็นอัศวิน ได้เป็นขุนนาง

ส่วนคนที่สำคัญสุดท้ายคือ ขโมย เป็นเพียงใครคนหนึ่งที่ดิ้นรนเอาชีวิตรอดไปวันๆ ในโลกที่โหดร้าย

ขโมยหน้าตาขี้ริ้ว ทะเยอทะยานน้อยที่สุด เพราะสิ่งที่เธอต้องการคือการมีบ้านสักหลัง มีที่ดินทำกิน มีอาหาร มีสามีที่ตัวเองรักสักคน และอยากให้สังคมมีความยุติธรรมกับเธอบ้าง เธอเป็นขโมยตั้งแต่อายุหกขวบ เพราะถูกพ่อบังคับ หากทำไม่ได้ ก็จะถูกเฆี่ยน

อันธพาล หน้าตาหล่อเหลา สง่างาม เห็นแก่ตัว เก่งในการต่อสู้ แต่ใจร้าย เห็นแก่ตัว อยากให้โลกนี้มีสงคราม เพราะเขาจะได้ใช้ปมเด่นของตัวเอง เขาจะได้ในสิ่งที่ตัวเองอยากได้ ได้ฆ่า ได้ข่มขืนแบบไม่ผิดกฎหมาย

อัจฉริยะ หน้าตาปานกลาง แต่เขาเป็นพระเอก เพราะโลกนี้อัจฉริยะมีน้อย สิ่งที่มีน้อยจะมีคุณค่า

หมอ หน้าตาปานกลาง ตัวเล็ก ดวงตาสวยงาม แต่เด็ดเดี่ยว เป็นคนมีอุดมคติ กล้าคิดกล้าฝัน

 

เวลาอ่าน ฉันชอบขโมยมากที่สุด เพราะเป็นชีวิตที่กว้างใหญ่สุด เพราะเธอต้องดิ้นรนเอาตัวรอดตั้งแต่เด็ก เธอมีพ่อ-แม่ที่ชั่วร้าย พอเธออายุได้ ๑๘ ปี พ่อของเธอก็แลกเธอกับวัวตัวหนึ่ง วันนั้นในตลาด ผู้ชายที่เอาวัวมาแลกกับเธอ เอาเชือกคล้องคอของเธอ แล้วลากเธอออกไปจากเมือง ไม่มีใครจะขัดขวางได้ เพราะในสมัยนั้น พ่อเป็นใหญ่ จะทำกับเธอยังไงก็ได้

แต่ที่น่ารันทดคือ ผู้ชายคนนั้นไม่ได้แลกเอาเธอไปเป็นเมีย

หากแต่จะเอาเธอไปเป็นกะหรี่ บริการกลุ่มโจรในป่า

ในชีวิต เธอต้องการความยุติธรรม แต่ความยุติธรรมไม่มีจริงในโลก มันมีอยู่ ตราบเท่าที่มันมีประโยชน์สำหรับชนชั้นปกครอง นั่นคือระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในยุคนั้น

วันใดที่กษัตริย์อยากทำอะไร ก็ทำได้ แต่ทว่าในยามสงบ ประเทศจำเป็นต้องมีความยุติธรรม ต้องมีกฎหมายบ้านเมือง มิฉะนั้น ประเทศจะตกอยู่ในกลียุค ประเทศที่ปกครองไม่ได้ ภาษีจะเก็บจากที่ไหน

ดังนั้น ในยามสงบ สังคมจึงต้องมีความยุติธรรมพอประมาณ หากแต่ในยามสงคราม มันไม่มีค่าอะไรเลย

 

นิยายเรื่องนี้สนุก เพราะเขียนได้สมจริง ทั้งเรื่องราวและฉาก เขียนได้ละเอียดอ่อน

แต่ที่ดีสุด คือผู้ร้ายแต่ละตัว เขียนได้ดีมาก แต่ละคนชั่วร้าย ลึกซึ้ง เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม จิตใจดั่งปีศาจ อ่านแล้วแทบจะคลั่งใจตาย

ตัวละครทุกตัวมีจุดอ่อน แต่การขับเคลื่อนของจิตใจคนชั่วร้าย เหมือนมีมนต์สะกด ชวนติดตาม น่าคร่ำครวญ น่าตื่นตะลึง

คนชั่วเหล่านี้ตายยากมาก เพราะหากตาย นิยายเรื่องนี้ก็หมดสนุก

ในปี 2021 นี้ โลกของเราก็ยังมีขโมย อันธพาล อัจฉริยะ และหมอ สังคมเปลี่ยนไป แต่ตัวละครเหล่านี้ยังอยู่ ภัยพิบัติยังเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ยังมีโรคระบาด มีสงคราม มีความฉิบหาย

ความยุติธรรมก็ยังเหมือนเดิม มีอยู่ เมื่อชนชั้นปกครองคิดว่า มันมีประโยชน์กับพวกเขา

และไม่มีอยู่ หากพวกเขาคิดว่าไม่จำเป็น

เรายังมีความยุติธรรมที่ปุปะ ขาดวิ่น ยังไม่มีความยุติธรรมที่แท้จริง ไม่รู้จะมีได้อย่างไร มันย้อนแย้งกับอำนาจ อำนาจมีพลัง ดึงดูดใจ ตรงที่มันไม่มีความยุติธรรม หากมีความยุติธรรมเสียแล้ว อำนาจจะมีความหมายใด

หากเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วต้องเข้าคิวเหมือนคนอื่น แล้วจะเป็นนายกรัฐมนตรีไปทำไม

 

วันที่เกิดโควิด ฉันรู้สึกตัวทันทีว่าเราทุกคนต้องสูญเสีย มันเป็นบรรทัดแรก มากน้อยแตกต่างกัน เพราะมนุษย์เรา ไม่เหมือนกัน เราต้องยอมรับความสูญเสียนั้น

เช่น บางคนอาจสูญเสียแค่ 20-30% ด้วยเพราะเขาไม่ได้ทำการค้าใหญ่ หรืออาจไม่ได้ทำการค้าเลย เขายังอยู่ได้ เรียกได้ว่าเขาโชคดี

บางคนอาจสูญเสีย 50-60% เรียกได้ว่าปานกลาง แต่เขาก็ยังอยู่ได้

แต่ก็ยังมีคนที่สูญเสียมากกว่านั้น จนถึงคนที่หมดตัว สูญเสีย 100% อันนี้อาจจะลำบากหน่อย

แต่ชีวิตไม่ตายง่ายๆ หากเขาต่อสู้เหมือนขโมย ที่ต้องสู้ด้วยไหวพริบ ความขยัน เธอไม่ได้เก่งกล้ามากนัก ไม่ได้มีปัญญาลึกซึ้ง ไม่ได้เฉลียวฉลาดนัก อีกทั้งไม่ได้มีอุดมการณ์ใหญ่โตอะไร แต่เธอก็รอดได้ ด้วยการปากกัดตีนถีบ

๑๐

แต่สิ่งที่ฉันเห็นคือ คนส่วนใหญ่ไม่ยอมสูญเสียอะไรเลย ทุกคนจะพร่ำบ่น คร่ำครวญ แหกปาก มันเป็นเช่นนี้ด้วยกันหมด ไม่ว่าเขาจะอยู่ในกลุ่มไหนก็ตาม จะสูญเสียแค่ 10% หรือ 100% ก็แหกปากคร่ำครวญเหมือนกันหมด เหมือนชีวิตนี้จะสูญเสียอะไรไม่ได้เลย แม้แต่นิดเดียวก็ไม่ยอม จุดนี้เองที่ฉันรู้สึกผิดปกติ

๑๑

ชีวิตที่ยอมรับการสูญเสีย คือชีวิตที่มีความนิ่ง มีวินัย

คุณอาจเป็นตัวละครตัวใดตัวหนึ่งในสี่คนนี้

แต่ผู้ร้ายตัวจริง กลับนอกเหนือจากสี่คนนี้ เป็นคนอื่น ผู้ร้ายจริงๆ ชั่วร้ายราวปีศาจ มันอาจเป็นพระ เป็นนักการเมือง เป็นคุณป้า เป็นพี่เขย เป็นน้องสาว เป็นใครก็ได้ ที่จิตใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย

เพราะพวกเขาเป็นใครก็ได้ พวกเขาจึงอยู่ที่ไหนก็ได้ รอบตัวเรา

ศัตรูที่แท้จริงของมนุษย์จึงไม่ใช่ไวรัส ต่อให้มันร้ายแค่ไหน มันก็แค่หมาบ้า ก็แค่นั้น มันไม่มีจิต ไม่มีเจตนา ที่ร้ายจริงคือชีวิตที่มีจิต มีเจตนา

๑๒

น่าประหลาด มันคือใครก็ได้ รวมทั้งตัวคุณเอง หากคุณขาดสติ ไร้ความละอาย

๑๓

โรคระบาดร้ายกาจ แต่ไม่มีความชั่วร้าย เพราะมันไม่มีจิต

ความชั่วร้ายเกิดจากจิต มันจึงเกิดจากความคิดของตัวเรา แล้วแสดงออกในการกระทำต่างๆ

เริ่มต้นเลย ด้วยการไม่ยอมสูญเสียอะไรเลย