ถุงยางอนามัยกับโอลิมปิก ที่โตเกียว/คลุกวงใน พิศณุ นิลกลัด

พิศณุ นิลกลัด

คลุกวงใน

พิศณุ นิลกลัด

Facebook : @Pitsanuofficial

 

ถุงยางอนามัยกับโอลิมปิก ที่โตเกียว

 

โตเกียว โอลิมปิก 2020 ที่เลื่อนจัดการแข่งขันมาเป็นวันที่ 23 กรกฎาคม ถึง 8 สิงหาคมที่จะถึงนี้ จะมีการแจกถุงยางอนามัย 150,000 ชิ้นให้กับนักกีฬา 11,000 คน จาก 206 ประเทศเข้าร่วมแข่งขันและพักที่หมู่บ้านนักกีฬา

ซึ่งนับว่าน้อยเมื่อเทียบกับโอลิมปิกที่ผ่านมาพิ

ในการแข่งขันโอลิมปิก ที่นครริโอ ประเทศบราซิล เมื่อปี 2016 มีการแจกจ่ายถุงยางให้กับนักกีฬา 11,238 คนในหมู่บ้านนักกีฬาจำนวน 450,000 ชิ้น โดยแยกเป็นถุงยางสำหรับหมู่บ้านนักกีฬาผู้ชาย 350,000 ชิ้น หมู่บ้านนักกีฬาผู้หญิง 100,000 ชิ้น

โอลิมปิกคราวนี้แม้จะแจกถุงยาง แต่นักกีฬาในหมู่บ้านนักกีฬาทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎเข้มที่เขียนไว้ชัดเจนใน The Playbook เวอร์ชั่น 2 ความยาว 60 หน้า ที่เพิ่งออกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา คือ…

“Keep two meters’ distance from athletes.”

“รักษาระยะห่าง 2 เมตรจากนักกีฬา”

จะใช้ถุงยาง แต่ต้องรักษาระยะห่าง 2 เมตร ทำยังไง?

ทาง The Playbook ไม่ได้บอกไว้ นักกีฬาโอลิมปิกต้องหาวิธีใช้ถุงยางกันเอง หรืออาจจะเอาไปใช้กับคนที่ไม่ใช่นักกีฬาโอลิมปิก

The Playbook ของโตเกียว โอลิมปิก 2020

วิกฤตโควิด-19 ตอนนี้ ทำให้ยอดขายสินค้ามากมายตกฮวบ แต่ยอดขายถุงยางอนามัยปีนี้ในหลายประเทศกลับสูงขึ้นเมื่อกับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว

ที่ประเทศจีน, อเมริกา และทวีปยุโรป ยอดผู้ติดเชื้อโควิดลดลงเพราะได้รับการฉีดวัคซีนกันแล้ว ผ่อนคลายมาตรการ Social distancing และความกลัวโควิดลดลง ทำให้ความอยาก “กุ๊กกิ๊ก” กลับมา ส่งผลให้ยอดขายถุงยางอนามัยสูงขึ้น

ที่อเมริกา ยอดขายถุงยางอนามัยในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนที่ผ่านมา สูงขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้วถึง 23.4%

นักการตลาดวิเคราะห์ว่า เหตุผลที่ยอดขายถุงยางอนามัยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นเพราะวัยรุ่นอายุ 18-24 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนกันแล้ว และต้องการกลับมาใช้ชีวิต สนุกสนานเหมือนเดิม

ฟาอุสติโน่ อัสปริย่า กับถุงยางอนามัยยี่ห้อ Tino

ในวงการกีฬามีอดีตนักฟุตบอลทีมนิวคาสเซิล ชื่อ ฟาอุสติโน่ อัสปริย่า (Faustino Asprilla) ชาวโคลอมเบีย วัย 51 ปี ผลิตถุงยางขายภายใต้ชื่อเล่นของตัวเอง ยี่ห้อติโน่ (Tino) ที่เมื่อเดือนมีนาคม ปีที่แล้ว ออกมาลดราคาถุงยาง ทำโปรโมชั่น Two-for-one หรือได้สองแต่จ่ายหนึ่ง

เพราะตอนนั้นกลัวโควิดระบาด ทำให้บริษัทของธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องเป็นปิดโรงงานเป็นการชั่วคราวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไปมากกว่านี้ และธุรกิจการผลิตถุงยางก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

อย่างเช่น คาเร็กซ์ บีเอชดี (Karex Bhd) บริษัทผลิตถุงยางของมาเลเซียที่ผลิตถุงยางมากถึง 1 ใน 5 ที่ใช้กันทั่วโลก แต่ช่วงโควิดเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว คาเร็กซ์ บีเอชดี ปิดโรงงาน ทำให้ถุงยางขาดตลาด

ฟาอุสติโน่ อัสปริย่า จึงเสนอตัวเข้าช่วย ด้วยการขายถุงยางอนามัยติโน่ของเขาในราคาพิเศษ โดยตอนนั้นเขามีอยู่ในสต๊อก 3.5 ล้านชิ้น

 

ฟาอุสติโน่เริ่มผลิตถุงยางขายในปี 2014 หลายคนสงสัยว่า ฟาอุสติโน่มีไอเดียผลิตถุงยางขายได้อย่างไร

เขาเล่าว่าเมื่อปี 1993 ในการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรกับทีมชาติชิลี ช่างภาพจับภาพตอนฟาอุสติโน่วิ่ง แล้วน้องชายโผล่ออกมาจากขากางเกงบอล เป็นภาพดังฮือฮาไปทั่วโลก ทำให้เขากลายเป็น Sex Symbol ในโคลอมเบียภายในพริบตา ถึงกับได้รับเชิญให้เป็นพระเอกหนังโป๊ แต่เขาปฏิเสธ

ด้วยความที่ฟาอุสติโน่เป็น Sex Symbol ในโคลอมเบีย เขาจึงเกิดไอเดียผลิตถุงยางขาย

จุดเด่นของถุงยางยี่ห้อติโน่ ฟาอุสติโน่บอกว่ามีหลายรสชาติ เช่น รสช็อกโกแลต รสสตรอว์เบอร์รี่

รสที่เขาภูมิใจและชอบที่สุดคือ รสฝรั่ง เพราะตอนเด็กที่บ้านปลูกต้นฝรั่ง ซึ่งฟาอุสติโน่บอกว่ามีรสและกลิ่นหอมหวนเหมาะต่อกิจกรรมกุ๊กกิ๊ก

ฟาอุสติโน่บอกว่าจุดประสงค์หลักของการทำถุงยางติโน่ขาย คือป้องกันการมีลูกก่อนกว่าวัยของวัยรุ่นในโคลอมเบีย และป้องกันโรคเอดส์