ยานยนต์ สุดสัปดาห์ / สันติ จิรพรพนิต/Sneak Preview ‘HAVAL H6’ เทคโนโลยีไฮเทคเทียบชั้นรถยุโรป

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

Sneak Preview ‘HAVAL H6’

เทคโนโลยีไฮเทคเทียบชั้นรถยุโรป

 

“ยั่วให้อยากแล้วจากไป”

นอกจากคำนี้ผมนึกคำอื่นไม่ออกแล้วกับการอวดโฉมแบบ “Sneak Preview” ของเอสยูวีน้องใหม่ล่าสุด “HAVAL H6” Hybrid SUV จากเกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) เมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

แม้ GWM จะไม่ได้ใช้คำว่า “Sneak Preview” ตรงๆ ทว่าการเปิดตัวกับสื่อมวลชน พร้อมให้ข้อมูลรถมาพอสมควร แต่ไม่ได้เปิดแบบหมดเปลือก แม้แต่ราคา หรือกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการก็ยังไม่ชี้ชัด

เพียงบอกกว้างๆ ว่าภายในไตรมาส 2 ของปีนี้

จากการประเมินคาดว่าน่าจะเป็นช่วงเดือนมิถุนายน

เรียกว่าเป็นการแนะนำแบบเบาๆ เพื่อให้พอรับรู้ถึงข้อมูลรถ ข้อมูลทางเทคนิคต่างๆ

ถึงแม้ไม่ชัดเจนแต่ก็พอกล้อมแกล้ม โดยเฉพาะกับเทคโนโลยีความปลอดภัยและตัวช่วยต่างๆ จัดหนักจัดเต็มมาพอสมควรกับรถที่เปิดม่านของค่าย GWM ในประเทศไทย

จะว่าไป GWM ให้ความสำคัญกับประเทศไทยในระดับหนึ่ง เพราะ “HAVAL H6” เจเนอเรชั่นที่ 3 นี้ อวดโฉมครั้งแรกในโลกภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ที่ผ่านมานี่เอง

 

จุดเด่นของ “HAVAL H6” Hybrid SUV คงไม่พ้นชื่อชั้นในอดีต เพราะแม้จะเปิดตัวรุ่นแรกเมื่อราวๆ 10 ปีก่อน จากนั้นก็แยกตัวมาเป็นแบรนด์อิสระในปี 2013 ใช้เวลาเพียง 5 ปีผงาดเป็นหนึ่งใน 3 แบรนด์เอสยูวี ระดับโลก

ส่วนยอดขายไม่ต้องพูดถึง “HAVAL” พุ่งพรวดถึงกว่า 6.5 ล้านคันในกว่า 60 ประเทศทั่วโลกที่ส่งออก

ขณะที่ในบ้านเกิดประเทศจีน ครองแชมป์เอสยูวีขายดีที่สุดติดต่อกันถึง 11 ปี

ส่วน “HAVAL H6” ถือเป็นรถธงของแบรนด์ด้วยยอดขายสะสมกว่า 3 ล้านคัน หรือมีส่วนแบ่งเกือบครึ่งหนึ่งของแบรนด์ทั้งหมด และเป็นรุ่นที่ครองแชมป์ต่อเนื่องถึง 8 ปี

“HAVAL H6” เจเนอเรชั่นที่ 3 มี “ฟิล ซิมมอนส์” รองประธาน และหัวหน้าทีมออกแบบ เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งไม่แปลกที่รูปลักษณ์จะเน้นไปทางรถยุโรป เพราะรองประธานนายนี้ทำงานกับแบรนด์ยุโรปมายาวนาน

กระจังหน้าขนาดใหญ่พร้อมลายไขว้กันไปมาสีเงิน ไฟหน้า LED อัจฉริยะ Intelligent LED headlamp พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าและเปิดไฟสูงอัตโนมัติ

แถบไฟท้ายแบบ LED พาดยาวจากซ้ายจรดขวา LED taillight strip

หลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่

ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว

ส่วนตัวถังถือว่าบิ๊กเบิ้มสุดๆ ด้วยมิติ (กว้าง x ยาว x สูง) 1886 x 4653 x 1724 ม.ม. ระยะฐานล้อ 2,738 ม.ม.

ภายในเน้นความเรียบหรูแต่มีอารมณ์สปอร์ตแฝงอยู่ในที ใช้สีทูโทน ผสมกับสีโรสโกลด์ สีแกรนด์เปียโนแบล็ก ที่เข้ากับโครเมียมและไฟ ambience light

พวงมาลัยไฟฟ้าแบบ Multi-Function เกียร์ไฟฟ้า Electronic shifter

Multi-Display แผงหน้าปัดแบบลอยตัว พร้อมจอ Infotainment ขนาดใหญ่ และจอแสดงผลแบบ Head Up Display (HUD) แสดงภาพข้อมูลการขับขี่ครบครัน

เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบคู่ พร้อมตัวกรอง CN95 และช่องแอร์ด้านหลัง

เบาะคู่หน้าไฟฟ้า

 

ขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร พร้อมเทอร์โบซูเปอร์ชาร์จเจอร์ (VGT) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 243 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 530 นิวตัน-เมตร

เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดของเกรท วอลล์ มอเตอร์

ใช้เพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบ Multi-mode DHT รองรับการขับขี่ตามความต้องการ ช่วยประหยัดน้ำมัน

ระบบเกียร์ไฮบริดรุ่นแรกที่มี 2 เกียร์ที่ด้านเครื่องยนต์และอีก 1 เกียร์ที่ด้านมอเตอร์ขับเคลื่อน เพื่อรองรับการขับเคลื่อนที่หลากหลาย

โหมดการขับขี่ 4 แบบ ได้แก่ โหมดมาตรฐาน โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด และโหมดสภาพถนนลื่น

ที่สุดๆ ต้องยกให้เทคโนโลยีตัวช่วยต่างๆ ที่ต้องบอกว่าไฮเทคเทียบชั้นเอสยูวีหรูของค่ายยุโรป แถมบางอย่างยังให้มามากกว่าด้วยซ้ำ

เรียกว่าเป็นมิติใหม่ของคอมแพ็กต์เอสยูวีในเมืองไทยเลยก็ว่าได้

ที่เด่นๆ เช่น กล้อง 360 องศา ติดตั้งรอบคันถึง 6 ตัว แถมความละเอียดจัดเต็มถึง 4 ล้านพิกเซล ถือว่าเป็นที่สุดของเซ็กเมนต์แล้ว

นอกจากนี้ ติดตั้งเซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิกรอบคันมากถึง 14 จุด

เซ็นเซอร์ทั้งหมดจะทำงานร่วมกับตัวช่วยอื่นๆ อาทิ ระบบช่วยจอดรถยนต์อัตโนมัติ 3 รูปแบบ หรือ Integration Auto Parking (IAP) สามารถค้นหาที่จอดรถ ตรวจจับสิ่งกีดขวาง ค้นหาพื้นที่ว่างสำหรับจอดรถยนต์ คำนวณพื้นที่สำหรับจอดรถได้อย่างแม่นยำ

ช่วยจอดได้ทั้งในรูปแบบการถอยเข้าช่องจอด การจอดขนานเส้นทางเดินรถ และการจอดตามแนวเฉียง

 

ระบบช่วยจอดนี้ถือว่าเลอเลิศมากๆ เพราะแม้แต่เอสยูวีค่ายยุโรปบางรุ่นยังมีแค่ 2 รูปแบบคือถอยเข้าช่องจอด และจอดขนานเส้นทางเดินรถเท่านั้น

เด็ดกว่านั้นคือมีระบบช่วยถอยออกจากช่องจอดด้วย โดยระบบจะจดจำการเข้าจอดของรถและถอยกลับออกมาตามเส้นทางเดิม ที่ความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง และระยะทางไม่เกิน 50 เมตร

เชื่อว่าผู้ขับขี่ทั่วๆ ไปคงไม่มีใครใช้ความเร็วมากกว่า 30 กิโลเมตร/ชั่วโมงในการเข้าจอดแน่

ระบบช่วยถอยออกจากช่องจอด เป็นเทคโนโลยีเทียบเท่ากับที่ติดตั้งใน “บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์-7” กันเลยทีเดียว

นอกจากนี้ มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC) ประสานการทำงานของระบบเบรกและระบบควบคุมเครื่องยนต์ เพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าตามที่กำหนดไว้ ซึ่งให้มาถึงจุดหยุดนิ่งและออกตัว (stop-and-go)

คนในเมืองที่การจราจรติดขัดคงชอบระบบนี้ เพราะไม่ต้องใช้เท้าควบคุมคันเร่งและเบรกให้เมื่อย เวลาขับรถช่วงเช้าและเย็น

ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง Wisdom Dodge System (WDS) ระบบช่วยตรวจจับรถบรรทุกและรถขนาดใหญ่ เพื่อควบคุมให้รถยนต์รักษาระยะห่างจากรถบรรทุก โดยหลังจากวิ่งผ่านรถบรรทุกแล้ว รถยนต์จะกลับเข้าสู่กลางเลนตามปกติ

อื่นๆ เช่น ระบบโต้ตอบด้วยเสียง (Voice Interaction) ระบบอินเตอร์เน็ตอัจฉริยะ (Intelligent Internet) รวมไปถึงระบบหน้าจออัจฉริยะ ที่ช่วยให้เชื่อมต่อและค้นหาข้อมูลการเดินทางได้ละเอียด ฯลฯ

ส่วนเรื่องสนนราคาต้องลุ้นกันว่าจะเปิดออกมาได้เร้าใจขนาดไหน

เพราะหากมองถึงรูปร่างหน้าตา เครื่องยนต์ และระบบไฮเทคต่างๆ

ต้องถือว่า “HAVAL H6” เป็นคอมแพ็กต์เอสยูวีที่ครบเครื่องที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดเมืองไทยก็ว่าได้