วิกฤตศรัทธา “เรือเหล็ก” ชนหินโสโครก น่าผิดหวัง/ลึกแต่ไม่ลับ จรัญ พงษ์จีน

ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน

 

โฟกัสไปที่สถานการณ์ของรัฐนาวา “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ในช่วงนี้ พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก พระอาทิตย์ซ้อน เผชิญกับ “วิกฤตศรัทธา” อย่างหนัก “เรือเหล็ก” ชนหินโสโครกหลายกระทอก ทำท่าจะแปลงสภาพเป็นเศษเหล็กบุโรทั่ง

ปฐมเหตุสำคัญเกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบที่ 3 การบริหารจัดการรับมือกับโรคร้ายล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ใช้คำว่า “น่าผิดหวัง” ดูจะเบาไป ต้องพูดว่า “ห่วยแตก” ดูจะกลมกลืนกันมากกว่า

ประชาชนคนไทยไม่ว่าอยู่ข้างไหน สีอะไร ต่างพากันก่นด่ากันเป็นเสียงเดียว เพราะการแพร่ระบาดของ “โควิด-19” รอบที่ 3 มีการติดเชื้อลามอย่างรวดเร็ว ห้องเครื่องมาจากคลัสเตอร์ย่านทองหล่อ จุดเริ่มต้นร้านคริสตัลคลับ และเอมเมอรัลด์ แล้วต่อจิ๊กซอว์กันเป็นทอดๆ จากนักเที่ยวสู่พนักงานบริการ นัวเนียไปยังนักดนตรี และอาชีพอื่น นักธุรกิจ นักการเมือง นำไปสู่การแพร่ระบาดกับครอบครัว ญาติพี่น้อง กระจัดกระจายเป็นวงกว้าง

ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งรายวัน ทำนิวไฮ ทุบสถิติวันละ 2-3 พันกว่าราย ยอดรวมโดยสรุป เฉพาะจากวันที่ 1 เมษายน-4 พฤษภาคม ร้อนแรงมาก ทำให้สถานการณ์โดยรวม มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ปาเข้าใกล้หลัก 7 หมื่นคนเข้าให้แล้ว

เหนือสิ่งอื่นใดคือ มีผู้คนล้มป่วย ตายอย่างน่าเวทนา เกิดความหายนะทางเศรษฐกิจ ชนิดประเมินค่าความเสียหายไม่ได้ แต่รัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่รู้เหนือรู้ใต้ แก้ไขปัญหา ทำอะไรไม่เป็นเลย ปราศจากความรับผิดชอบ ไม่สำนึกผิด

“กรุงเทพมหานคร” กำลังเผชิญกับวิบากกรรมใหญ่ ผลพวงจากคลัสเตอร์ทองหล่อ รุกฆาตสู่จุดสำคัญคือคลัสเตอร์คลองเตย ชุมชนใหญ่ และขยายตัวไปทั่ว กทม. ระบาดในชุมชนเต็มทุกพื้นที่เขต

ขณะเดียวกัน “สถานการณ์การเมือง” ที่ก่อตัวอยู่เงียบๆ หมกเม็ดอยู่ภายในรัฐบาล “บิ๊กตู่” มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่กลับแคนนอนกระทบชิ่งมาจาก “โควิด-19” ระหว่าง “บิ๊กตู่” กับ “ภูมิใจไทย” ก็ทำท่าจะเป็น “อจินไตย” คิดไม่ได้ มองไม่เห็น ไม่มีที่สิ้นสุด มิทราบว่าจะ “เอวัง” ลงเมื่อไหร่ รุนแรงขนาดไหน

บอกได้เลยว่า ศึกประชาธิปัตย์ที่ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรค ลุกขึ้นมาเอะอะโวยวาย ไม่พอใจเกี่ยวกับการเกลี่ยงานให้รัฐมนตรีรับผิดชอบ กำกับดูแลพื้นที่จังหวัด

ในสัดส่วนประชาธิปัตย์ เสนาบดีถูกสลับฟันปลา เตะโด่งจากงานกำกับดูแลภาคใต้ ไปคุมโซนอีสาน แล้วดัน “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์ มาคุมโซนสำคัญ อันเป็นฐานใหญ่ของประชาธิปัตย์

เป็นแค่ปัญหา “จิ๊บ-จิ๊บ” ระดับขอกันกิน เกลี่ยกันเสร็จเรียบร้อย “จบไปแล้ว” โดยไม่ต้องออกแรง

 

แต่รอยร้าวระหว่าง “พล.อ.ประยุทธ์” กับ “ภูมิใจไทย” ทำท่าว่าจะโกบิ๊ก เป็นไฟต์บังคับให้ศึกต้องดำเนินต่อไป ไม่รู้ว่า ต้องถึงที่สุด หยุดกลางคัน จบกันกลางกระดานก่อนได้หรือไม่

แผลเก่า รอยร้าวที่เกิดจากปมสัมปทานสายสีเขียว-สายสีส้ม ที่ยังหาทางลงเอยไม่ได้ ไม่รู้ออกหัวออกก้อย งูกินหาง “คมนาคม” กับ “มหาดไทย-กรุงเทพมหานคร” นัวเนียมาถึงตึกไทยคู่ฟ้า

ขนมผสมน้ำยา เมื่อปรากฏว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบที่ 3 การจัดการแก้ปัญหาของกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การกำกับดูแลของ “หมอหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” ในฐานะรองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ไม่เข้าเป้า ตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มรายวัน

กอปรกับคลัสเตอร์ทองหล่อ บังเอิญว่า “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดันไปติดโควิด-19 ถูกขาเมาธ์ป่าวประกาศว่า เพราะไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านทองหล่อ แม้เจ้าตัวจะยืนยันเสียงแข็งว่า ติดมาจากคนใกล้ชิดไปเที่ยวทองหล่อมาอีกทอด

ส่งผลให้ “บิ๊กตู่” ที่ขีดความอดทนมีอยู่จำกัดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ฉุนขาด เลยสบช่องได้โอกาส “ยึดอำนาจ”

“ปฏิวัติเงียบ” ไม่โฉ่งฉ่างเหมือนตอนรัฐประหารปี 2557 ง่ายดุจพลิกฝ่ามือ

“บิ๊กตู่” เล่นไม่ยาก อาศัยอำนาจนายกฯ ประกาศจัดแถว ออกพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อตั้ง “ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19” หรือ “ศบค.”

แต่งตั้ง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ให้ดำรงตำแหน่ง “ผู้อำนวยการศูนย์ ศบค.” เป็นรายการชงเอง ชิมเอง พร้อมกับปรับโครงสร้าง แผนบริหารจัดการใหม่ เป็นการยึดอำนาจจาก “เสี่ยหนู” รองนายกฯ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไปโดยปริยาย

และล่าสุด “พล.อ.ประยุทธ์” อาศัยอำนาจผู้อำนวยการศูนย์ ศบค. แต่งตั้ง “บิ๊กตู่” เป็น ผอ.ศบค.กรุงเทพมหานครอีกตำแหน่ง

ต่อไปคาดว่า ถ้าโควิด-19 ยังไม่หยุดระบาด “พล.อ.ประยุทธ์” ผอ.ศบค.กทม. จะต้องประกาศแต่งตั้ง “บิ๊กตู่” เป็น ผอ.ศบค.เขตอีกตำแหน่ง ยิบย่อยร้อยเปอร์เซ็นต์

อย่างไรก็ตาม มีข่าวคลุกวงในระบุว่า การที่ “บิ๊กตู่” แต่งตั้ง “พล.อ.ประยุทธ์” และสลับฟันปลาให้ “พล.อ.ประยุทธ์” แต่งตั้ง “บิ๊กตู่” ดำรงตำแหน่งสารพัด เป็นเทวดามือเดียวค้ำฟ้าดังกล่าว

ไม่ได้บริหารจัดการแต่เพียงผู้เดียว แต่ “ลุงตู่” อาศัยทีมงาน “ทหารหนุ่ม” ทั้งระดับ พล.ท.-พล.ต.-พ.อ. ที่อยู่รอบเป็นหัวกะทิ คอยเสริมแกร่ง

นอกจากยึดอำนาจจาก “หมอหนู” มาอยู่ในอาณัติแล้ว ก็มีข่าวว่า “พล.อ.ประยุทธ์” กับพี่น้อง 3 ป. โดยเฉพาะ “ป.คลองหลอด” ก็อยากจะโหนกระแสช่วงชุลมุนชุลเกกับ “โควิด-19” รอบที่ 3

ซึ่ง “ภูมิใจไทย” ไปเหยียบเปลือกกล้วยหกล้มเอง ทั้ง “หัวหน้า-เลขาฯ พรรค”

รวมทั้งแกนนำพรรคพลังประชารัฐ แกนนำในการฟอร์มรัฐบาล “บิ๊กตู่” อีกหลายมุ้ง หลายก๊วน และหลายก๊ก ที่มีความหมั่นไส้ แค้นหัวเณรเรือง พรรคภูมิใจไทยที่หัสเดิมอยู่ในลำดับพรรคร่วมเบอร์ 3

เขี้ยวลากดิน พลิกเกมมาอยู่ลำดับ 2 อำนาจต่อรองมีพลังไฮเพาเวอร์ ขี่เมฆบังคับให้เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาได้ เพราะมีจุดลงตัว สามารถยืนยืดอกอยู่ในตำแหน่งทำเลทองได้

เลือกตั้งใหญ่ในสมัยหน้า เชื่อว่า “ภูมิใจไทย” ที่มีความพร้อมทั้งตัวบุคคล และกระสุนดินดำ อาจจะเข้าป้ายลำดับ 1

โอกาสเดียวกันนี้ มีมือดีสะกิดสีข้างให้ “บิ๊กตู่” เตะสกัดขัดขาภูมิใจไทย “ปฏิวัติเงียบ” กระทรวงคมนาคม ต่อจากสาธารณสุข

ได้หรือไม่ได้ โปรดจับตาดูกันต่อไป