เผยแพร่ |
---|
สังคมไทยก้าวเข้าสู่เดือนตุลาคมด้วยความคาดหวังในทางความคิดในทางการเมืองอันแตกต่างออกไป
ไม่เพียงแตกต่างจากเมื่อปี 2516 และเมื่อปี 2519
หากเป็นความแตกต่างเมื่อผ่านสถานการณ์รัฐประหารในเดือน ตุลาคม 2520 สถานการณ์รัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2534 สถานการณ์รัฐประหารในเดือนกันยายน 2549
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
อันสร้างปรากฏการณ์”ใหม่”ในทางการเมืองมากมาย
เป็นปรากฎการณ์ที่ก่อเกิด”พรรคอนาคตใหม่”ในสถานการณ์ แห่งการต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกันกับที่พรรคไทยรักไทยประสบ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2550
ชะตากรรมเดียวกันกับที่พรรคพลังประชาชนประสบเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2551
ผลก็คือเกิด”แฟล็ชม็อบ”ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563
แม้สถานการณ์”แฟล็ชม็อบ”จะต้องยุติลงเนื่องจากสถานการณ์การ แพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ประสานเข้ากับพรก.การบริหารราช การในสถานการณ์ฉุกเฉินในเดือนมีนาคม
แต่จากเดือนมีนาคม เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน ในที่สุดใน เดือนกรกฎาคมสถานการณ์”แฟล็ชม็อบ”ก็หวนกลับมาอีก
ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อตอนค่ำของวันที่ 18 กรกฎาคม อาจมีคนที่เพิ่มขึ้นจากเรือนร้อยกลายเป็นเรือนพันกระทั่งสามารถลงไปบนถนนราชดำเนินได้เป็นครั้งแรก
จากนั้น การชุมนุม ณ ลานพญานาค ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม จำนวนก็แตะเป็น”เรือนหมื่น” และกลายเป็นเรือนหลายหมื่นในวันที่ 16 สิงหาคม ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
พลันที่ประกาศ”19 กันยา ทวงอำนาจ คืนราษฎร” จำนวนก็ทะยานเข้าสู่”หลักแสน”ด้วยความคึกคัก ณ ท้องสนามหลวง
ถึงกับมั่นใจจะชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 14 ตุลาคม
วาระแห่ง 44 ปี วีรชน 6 ตุลาคม วาระแห่ง 47 ปี วีรชน 14 ตุลาคม จึงถือได้ว่าเป็นวาระอันมีลักษณะพิเศษในทางความคิด และในทาง การเมือง
เพราะไม่เพียงแต่มีรากฐานจากเมื่อ 47 และ 44 ปีก่อนหากประ สานเข้ากับ”คนเสื้อแดง”ในเดือนพฤษภาคม 2553
ลักษณะพิเศษนี้จึงทำให้”เดือนตุลาคม”มีความเป็นพิเศษ
เพราะเท่ากับประสานกับสถานการณ์เมื่อ 47 ปีก่อนเข้ากับความเป็นจริงของ”เยาวชนปลดแอก”ในปัจจุบัน