วิเคราะห์ : สำรวจธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ช่วงล็อคดาวน์ “ใครไหว-ใครเหนื่อย”

ต้องอยู่บ้านหรือเฝ้าสำนักงาน ไม่ได้เจอผู้คนตลอดเดือนเมษายนที่ผ่านมาเพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

แต่อาศัยเครื่องมือสื่อสารที่มีตั้งแต่โทรศัพท์ ไลน์ เฟซบุ๊ก มาจนกระทั่งล่าสุด Zoom; Meet ที่สามารถใช้ประชุมหลายคน เห็นหน้าค่าตา แสดงเอกสารกันได้ ก็ยังทำให้ได้แชร์ข้อมูล แบ่งปันความคิดเห็นกับผู้คนได้จำนวนมาก ขาดแค่การพบปะสังสรรค์

พอประมวลผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 การล็อกดาวน์เมือง การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกาศเคอร์ฟิว ต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โครงการแนวราบและคอนโดมิเนียมเบื้องต้นได้

ไม่นับรวมผลกระทบที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้าการแพร่ระบาด อาทิ หนี้ครัวเรือน เศรษฐกิจถดถอยกำลังซื้อตกต่ำ มาตรการ LTV อะไรพวกนี้ออกไป

ก็จะพบว่า

 

โครงการแนวราบ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ทาวน์เฮาส์ สามารถใช้คำว่า “ยังพอไปได้” คือคนค้นหาโครงการที่อยู่อาศัยบนออนไลน์เดือนเมษายนภาพรวมไม่ได้ลดลงเลย และยังใช้เวลาในการค้นหานานขึ้นด้วย เพราะมีเวลา

จำนวนการแวะเยี่ยมชมโครงการโดยเฉพาะรอบนอกปริมณฑลของกรุงเทพฯ ยังมีการเยี่ยมชม แม้จะลดลงบ้างก็นิดหน่อย ส่วนยอดจองหลังจากเยี่ยมชมอันนี้แล้วแต่ทำเลและโครงการ บางแห่งยังมีอัตราจองเหมือนเดิม บางแห่งลดลงบ้างแต่ก็ยังมีจอง

ปรากฏการณ์ที่มีการเยี่ยมชมโครงการแนวราบเช่นนี้ มีแนวคิดการวิเคราะห์ 2 แนวคิดด้วยกัน

แนวคิดหนึ่ง รู้สึกดีใจที่โควิด-19 มีผลกระทบกับแนวราบน้อย

แต่อีกแนวคิดหนึ่ง ยังรู้สึกกังวลเพราะที่ลูกค้าแวะเยี่ยมชมและมียอดจองช่วงนี้ เป็นแผนการซื้อที่อยู่อาศัยของกำลังซื้อที่กำหนดไว้แล้วตั้งแต่ก่อนการแพร่ระบาด และยังไม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่เมื่อผลกระทบรุนแรงทางเศรษฐกิจตามมาหลังจบการแพร่ระบาด สถานการณ์อาจไม่เป็นอย่างนี้ก็ได้

 

สําหรับโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่อาศัยแนวสูง ต้องเรียกว่า “โคตรเหนื่อย” เพราะก่อนหน้าการแพร่ระบาดก็เจอปัญหาซัพพลายห้องชุดล้นเกินความต้องการของตลาดอยู่แล้ว บริษัทต่างๆ กำลังเดินหน้าออกโปรโมชั่นแรงๆ เรียกกำลังซื้อกันอยู่ เมื่อโควิด-19 มาถึงมีการล็อกดาวน์เมือง สถานการณ์ยิ่งหนักเข้าไปอีก

โปรโมชั่นจึงยิ่งออกมาแรงกว่าเดิมอีก ขายทุกราคาทุกทำเล แบบไม่เหลือกำไร เพียงขอให้ได้เงินสดกลับมาถือไว้ก่อนเป็นพอ

นอกจากนี้ยังมีแนวการวิเคราะห์ขึ้นมาใหม่อีกแนวหนึ่งว่า การที่ผู้คนต้องเก็บตัวอยู่ในที่พักอาศัยเป็นเดือนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นผลเสียกับคอนโดฯ เพราะตั้งแต่ความรู้สึกไม่ปลอดภัยกับการใช้ลิฟต์ ใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันหลายคนแล้ว

การกักตัวอยู่ในห้องชุดขนาดเล็กตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่ได้ไปไหน มาไหนทำให้คนอึดอัดและเครียด ต่างจากเมื่อก่อนที่มาห้องในคอนโดฯ เพื่อนอน ตื่นเช้าก็ไปทำงาน

จึงทำให้เกิดการโหยหาที่อยู่อาศัยเป็นบ้านแนวราบมากขึ้น

 

แนววิเคราะห์นี้เชื่อว่า เมื่อโควิด-19 สงบ ที่อยู่อาศัยแนวราบ ทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด บ้านเดี่ยว จะขายดีขึ้นกว่าเดิม เหมือนกับเมื่อตอนน้ำท่วมปี 2554 บ้านชานเมืองในปริมณฑลโดนน้ำท่วมมาก หลังน้ำลด คอนโดฯ ในเมืองขายดี บ้านเชียงใหม่ บ้านโคราชขายดี

ทั้งหมดเป็นเพียงการวิเคราะห์ความเป็นไปได้

ที่สำคัญที่สุด ความจริงที่ยังไม่แสดงตัวคือ วิกฤตทางเศรษฐกิจระดับโลกและระดับประเทศที่จะตามมาหลังการระบาดของโควิด-19 จะรุนแรงมากน้อยเพียงพอ คนจะตกงาน ธุรกิจจะเจ๊งมากน้อย เศรษฐกิจจะทรุดนานแค่ไหนและใช้เวลาเท่าไหร่ในการฟื้นตัว

นั้นเป็นคลื่นข้างหน้าที่ยังไม่รู้ขนาด แต่ต้องโต้ให้ผ่าน