เปิดคำสั่งไล่ออก “บิ๊กจุ๋ม” พ้นรองเลขาฯ พระราชวัง ปรากฏตัวที่กองปราบฯ รับข้อหารุกป่าทับลาน

กลายเป็นข่าวใหญ่ครึกโครม และเป็นที่สนใจในสังคมอย่างกว้างขวาง

สำหรับคำสั่งไล่ออก พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย หรือบิ๊กจุ๋ม รองเลขาธิการสำนักพระราชวัง ฝ่ายความมั่นคงและกิจกรรมพิเศษ ให้พ้นจากตำแหน่ง

โดยในหนังสือระบุสาเหตุที่มาของคำสั่งว่าเกิดจากพฤติกรรมใช้ตำแหน่งหน้าที่ราชการไปในทางที่ไม่ถูกต้อง

แสวงหาประโยชน์ให้กับตัวเอง

ฝักใฝ่เรื่องการเมืองเป็นอันตรายต่อความมั่นคง ไม่เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย

ผิดวินัยร้ายแรง

พร้อมกับควบคุมตัวส่งกองปราบปราม เพื่อดำเนินคดีในข้อหารุกป่าทับลาน 13 ไร่


สั่งไล่ออก พล.ต.อ.จุมพล

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ มีการเผยแพร่เอกสารคำสั่งสำนักพระราชวัง ที่ 183/2560 เรื่อง ลงโทษไล่ข้าราชการออกจากราชการ โดยระบุว่า ด้วย พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ข้าราชการพลเรือนในพระองค์ ตำแหน่งรองเลขาธิการสำนักพระราชวัง ฝ่ายความมั่นคงและกิจกรรมพิเศษ ตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เลขที่ตำแหน่ง 4 สังกัดราชการบริหารส่วนกลาง อัตราเงินเดือน 76,800 บาท ได้กระทำผิดวินัยฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ชิดติดพระองค์ ใช้ตำแหน่งหน้าที่ราชการไปในทางที่ไม่ถูกต้อง แสวงหาประโยชน์ให้กับตัวเอง ฝักใฝ่ในเรื่องการเมืองเป็นอันตรายต่อความมั่นคง ไม่เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย พฤติกรรมดังกล่าว จึงเป็นความผิดวินัยร้ายแรง สมควรรับโทษไล่ออกจากราชการ

สำนักพระราชวังพิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย เป็นความผิดวินัยฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง อันเป็นความผิดตามมาตรา 85(4) แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 จึงเห็นควรลงโทษไล่ออกจากราชการ

ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 97 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 และมาตรา 11 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนในพระองค์ พ.ศ.2552 ลงโทษไล่ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ออกจากราชการ

อนึ่ง การอุทธรณ์คำสั่งลงโทษนี้ให้อุทธรณ์ต่อ อ.ก.พ. กระทรวง ของสำนักพระราชวังใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560

ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

เป็นผลให้ พล.ต.อ.จุมพล ต้องพ้นจากราชการทันที

พร้อมนำตัวส่งกองปราบปราม เพื่อแจ้งข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนฯ


จ่อฟันคดีรุกป่าทับลาน

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ท.สิริรัฐ หนองแสง ร.ต.จำรูญ ปาธิสุทธิ์ ชุดรักษาความสงบเรียบร้อยประจำ อ.วังน้ำเขียว สังกัดกองพันทหารราบ มทบ.21 นายเสกสรรค์ เที่ยงพลับ นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ หัวหน้าเขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 2 (สวนห้อม)

ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปอท.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้ำเขียว เข้าร่วมตรวจสอบพื้นที่บ้านพักตากอากาศ เลขที่ 163 หมู่บ้านสุขสมบูรณ์ หมู่ที่ 2 ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

หลังจากพบว่าบ้านหลังดังกล่าวปลูกอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน โดยมี นางติ๋ม อุทัศน์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 242 บ้านน้ำซับ หมู่ที่ 11 ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา รับจ้างดูแลทำความสะอาดบ้านพักดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้เปิดบ้านให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

ผลการตรวจสอบพบว่าบ้านพักหลังดังกล่าวอยู่ติดลำรางสาธารณะ มีรั้วรอบพื้นที่ มีทางเข้าติดกับถนนสาธารณะ ภายในมีสิ่งปลูกสร้างเป็นอาคารที่พักและอาคารอื่นๆ จำนวน 6 หลัง โดยนางติ๋ม ให้การว่ารับจ้างดูแลบ้านหลังดังกล่าวตั้งแต่ปี 2548 โดยบ้านดังกล่าวเป็นของ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ที่สร้างไว้เป็นที่พักผ่อน นานๆ ครั้งถึงจะมาสักครั้ง

ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าที่ดินผืนนี้ได้มาจาก พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบช.ภาค 5 และ นางชญานิศฐ์ พิศิษฐวานิช ภรรยาที่เป็นปลัด อบต.ไทยสามัคคี เป็นผู้ขายให้เมื่อปี 2554 โดยขณะนั้น พล.ต.ต.พงษ์เดช ดำรงยศ พ.ต.ท. ตำแหน่ง รอง ผกก. หัวหน้า สภ.วังน้ำเขียว

ซึ่ง พล.ต.อ.จุมพล ได้มาก่อสร้างบ้าน โดยสมัยนั้นดำรงตำแหน่ง ผบช.ภาค 3

ตรวจค้นในบ้านพักพบภาพถ่าย พล.ต.อ.จุมพล คู่กับภรรยาอยู่ภายในบ้านหลายจุด จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้ จากการตรวจวัดพื้นที่ดังกล่าวโดยใช้เครื่องมือตรวจพิกัดจากสัญญาณดาวเทียมจำนวน 6 จุด พบว่าพื้นที่ก่อสร้างบ้านพักดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 13 ไร่ 1 งาน 75 ตารางวา เมื่อเทียบกับแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกาพบว่าตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน

เจ้าหน้าที่จึงร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลทั้ง 3 ต่อ สภ.วังน้ำเขียว ในความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507

และคุมตัว พล.ต.อ.จุมพล แจ้งข้อหาที่กองปราบปราม และนำส่งศาลเพื่อฝากขังต่อไป


รอง ผบก. ถูกให้ออกด้วย

ขณะที่ พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ที่ปรึกษา (สบ10) ลงนามแทน ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2560 ในคำสั่งที่ 87/2560 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน

ระบุว่าด้วย พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบช.ภาค 5 (อดีต ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา) ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยร้ายแรง และต้องหาคดีอาญา ตามคดีที่ 43/60 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 กรณีบุกรุกสร้างบ้านในอุทยานแห่งชาติทับลาน อ.วังน้ำเขียว คดีเดียวกับ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย

ถูกกล่าวหากระทำความผิดฐาน

1. ก่อสร้างหรือทำด้วยประการใดอันเป็นการทำลายป่า หรือยึดครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติมาตราก่อนให้สันนิษฐานว่าบุคคลนั้นแผ้วถางป่านั้น ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484

2. ยึดหรือครอบครองที่ดิน รวมตลอดถึงก่นสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า, ทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือทำให้เสื่อมสภาพแก่ดิน หิน กรวด หรือทราย ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ

3. กระทำด้วยประการใดๆ โดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการทำลายหรือทำให้สูญหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นของรัฐ หรือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐ ตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไปนั้น ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535

4. ยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่นสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่า ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 เหตุเกิดบริเวณป่าบ้านสุขสมบูรณ์ หมู่ที่ 2 ตำบลไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ระหว่าง วันที่ 17 ธันวาคม 2546 ถึง 6 กุมภาพันธ์ 2560 ต่อเนื่องกัน

อาศัยอำนาจตามมาตรา 95 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 ให้ พล.ต.ต.พงษ์เดช ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย

โดนคดีไปอีกคน


เปิดประวัติเส้นทางสีกากี

สําหรับประวัติของ พล.ต.อ.จุมพล เกิดวันที่ 23 กันยายน 2493 อายุ 66 ปี จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รุ่นที่ 82 โรงเรียนตำรวจนครบาลรุ่น 34 โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานรุ่นที่ 26 รุ่นเดียวกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

จากนั้นศึกษาเพิ่มเติมสาขาพัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) หลักสูตรบริหารงานตำรวจชั้นสูง รุ่นที่ 15 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 4212

เริ่มรับราชการเป็นตำรวจตระเวนชายแดน ที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ย้ายเข้ารับราชการใน บช.น. ตำแหน่งสารวัตรปราบปราม สน.บางซื่อ ย้ายไปอยู่กองปราบปราม

ขึ้นยศ พล.ต.ต. ในตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เป็นผู้ช่วย ผบช.ภาค 1 จากนั้นเป็น ผบช.ภาค 3 ติดยศ พล.ต.ท. แล้วจึงมาเป็น ผบช.ส. คุมด้านงานสืบสวนทั่วประเทศ

จากนั้นรับตำแหน่ง ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ คนที่ 12 เมื่อเกิดรัฐประหารปี 2549 ก็ถูกโยกเข้ามารับตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ และได้รับตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.

พล.ต.อ.จุมพลได้รับการจับตาอย่างยิ่ง ว่าจะได้รับการเสนอชื่อเป็น ผบ.ตร. ต่อจาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ แต่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ในขณะนั้นสนับสนุน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ แต่แล้วก็มีปัญหาในการประชุม กตช. เมื่อนายอภิสิทธิ์เสนอชื่อ พล.ต.อ.ปทีป แต่กลับไม่ได้รับความเห็นชอบ

ทำให้นายอภิสิทธิ์ สั่งตั้ง พล.ต.อ.ปทีป เป็นรักษาราชการแทน ผบ.ตร. จนกระทั่งเกษียณอายุราชการพร้อม พล.ต.อ.จุมพลในปี 2553

ต่อมาปี 2554 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ พล.ต.อ.จุมพล ดำรงตำแหน่งประจำสำนักพระราชวังพิเศษ ประเภทบริหารระดับสูง จากนั้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2559 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสำนักพระราชวัง ฝ่ายความมั่นคงและกิจการพิเศษ

ก่อนถูกไล่ออกจากราชการในเวลาต่อมา