ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 6 - 12 มกราคม 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | การ์ตูนที่รัก |
ผู้เขียน | นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ |
เผยแพร่ |
Night on the Galactic Railroad เป็นหนังการ์ตูนปี 1985 กำกับฯ โดย Gisaburo Sugii จากบทภาพยนตร์ของ Minoru Betsuyaku สร้างจากนวนิยายคลาสสิคของ Kenji Miyazawa (1896-1933) กวีชาวญี่ปุ่นที่ตายด้วยปอดบวมเมื่ออายุ 37 ปีเท่านั้น เป็นอีกคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงหลังจากที่ตายแล้ว
Night on the Galactic Railroad เป็นนวนิยายแฟนตาซีเชิงปรัชญาที่เขียนขึ้นตั้งแต่ปี 1927 ตัวละครในนวนิยายเป็นคน
แต่พอสร้างเป็นหนังได้เปลี่ยนตัวละครทั้งหมดเป็นแมว ยกเว้นในตอนท้ายที่จะมีตัวละครสามคนที่เสียชีวิตจากเรือไททานิคล่มมาปรากฏตัว
ข้อแตกต่างจากนวนิยายอีกข้อหนึ่งคือมีการใช้ภาษาเขียนเอสเปอรันโตในหนังหลายครั้ง
ภาษาเอสเปอรันโต (Esperanto) เป็นภาษาประดิษฐ์ที่คิดค้นขึ้นเมื่อปี 1887 เพื่อใช้ในการสื่อสารสากลโดยเฉพาะ
ปัจจุบันมีผู้ใช้ภาษานี้อยู่ราว 2 ล้านคน โดยเป็นผู้ที่ใช้ตั้งแต่กำเนิดราว 2,000 คน ภาษาเอสเปอรันโตนี้มิได้เป็นภาษาทางการของชาติใดหรือประเทศใด แต่มีผู้ใช้ภาษานี้ในหลายประเทศ มีการประชุมใหญ่สากลทุกปี และกำหนดวันที่ 15 ธันวาคมเป็นวันฉลองภาษาเอสเปอรันโต
ก่อนหน้านี้มีหนังบางเรื่องใช้ภาษาเอสเปอรันโตประกอบบางฉาก เช่น Gattaca, Blade Trinity รวมทั้ง The Great Dictator ของ ชาลี แชปลิน
สำหรับการ์ตูนเรื่องนี้ป้ายต่างๆ ใช้ภาษาเอสเปอรันโตซึ่งเป็นภาษาที่ เคนจิ มิยาซาว่า ให้ความสนใจมาก แม้กระทั่งเพลงประกอบในช่วงไททานิคล่มที่เราคุ้นเคยคือ Nearer, My God, to Thee ก็ร้องเป็นภาษาเอสเปอรันโตด้วย
ข้อเขียนต่อไปนี้เปิดเผยตอนจบ
หนังเล่าเรื่องเด็กผู้ชายชื่อ จิโอวานนี่ (Giovanni) ซึ่งในหนังจะเป็นแมวสีฟ้า จิโอวานนี่ยากจน อาศัยอยู่กับแม่ที่ป่วยอยู่ในบ้านเล็กๆ หลังเลิกเรียนจิโอวานนี่แวะรับจ้างเรียงพิมพ์แผ่นประกาศให้แก่โรงพิมพ์แห่งหนึ่งเพื่อแลกค่าจ้างมาซื้ออาหารให้แม่
ที่โรงเรียน จิโอวานนี่มีเพื่อนสนิทเป็นแมวสีชมพูชื่อคัมปาเนลลา (Campanella) วันหนึ่งครูแมวเรียกจิโอวานนี่ลุกขึ้นตอบคำถามเรื่องทางช้างเผือก จิโอวานนี่นั่งเหม่อลอยตอบไม่ได้ ครั้นครูแมวเรียกคัมปาเนลลาตอบ คัมปาเนลลายืนเฉยไม่ตอบเพื่อรักษาหน้าจิโอวานนี่
ในห้องเรียนมีนักเรียนแมวอีกคนหนึ่งชื่อซาเนลลี่ (Zanelli) ซาเนลลี่ชอบล้อเลียนจิโอวานนี่เรื่องพ่อของเขาเสมอ หาว่าพ่อของจิโอวานนี่หายไปทางเหนือเพราะทำงานผิดกฎหมาย จนป่านนี้ก็ไม่ได้เสื้อขนนากมาฝากจิโอวานนี่เสียที จิโอวานนี่ต้องอดทนต่อคำล้อเลียนของเพื่อนๆ หลายคน
คืนนั้น หลังจากเลิกเรียน ไปทำงาน และดูแลแม่แล้ว ในขณะที่ใครๆ ไปเที่ยวงานเทศกาลประดับไฟ จิโอวานนี่นอนเล่นดูทางช้างเผือกอยู่บนเนินเขา มีรถไฟขบวนหนึ่งแล่นมาจอดตรงหน้า เขาขึ้นรถไฟ โดยมีคัมปาเนลลาตามขึ้นมาในเวลาไม่นาน ที่ไหล่ของคัมปาเนลลาดูเหมือนจะมีหยดน้ำติดมาด้วย
นี่คือตอนต้นเรื่องซึ่งคนดูจะยังไม่รู้ว่าเป็นหยดน้ำคืออะไรจนกว่าจะถึงตอนจบ
รถไฟขบวนนี้จะไปสถานีเซาเทิร์นครอสส์ (Southern Cross) โดยจะแวะหลายสถานีระหว่างทาง ที่ซึ่งจิโอวานนี่และคัมปาเนลลาจะได้พบผู้คนแปลกๆ กิจกรรมแปลกๆ และภูมิทัศน์แปลกๆ ไปตลอดทาง
สถานีแรกเด็กชายแมวทั้งสองพบนักโบราณคดีกำลังขุดค้นลูกวัลนัตโบราณอายุล้านปี ภูมิประเทศทั่วไปดูคล้ายโครงกระดูกไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ที่บางส่วนอยู่ใต้ทรายและบางส่วนอยู่ใต้น้ำ เช่นเดียวกับหยดน้ำบนเสื้อผ้าคัมปาเนลลาที่คนดูจะยังไม่รู้ว่าหนังพยายามจะบอกอะไร แต่พอจะเข้าใจได้เมื่อดูจบว่าหนังกำลังเล่าเรื่องความตาย
สถานีแรกนี้คือความตายเมื่อล้านปีที่แล้ว
มีสถานีหนึ่งที่เด็กชายแมวทั้งสองได้พบนักจับนก นักจับนกลงสถานีข้างหน้าเพื่อจับนกเฮรอน (Heron) นกชนิดหนึ่งคล้ายนกกระสา เพื่อเอามาทำลูกกวาด ฉากที่นักจับนกลงมือคว้านกทีละตัวจากฝูงลงถุงประกอบดนตรีอลังการกึ่งสยองขวัญ
จะเห็นว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับความตายอยู่ดี
หนังดำเนินไปเรื่อยๆ ช้าๆ จนถึงช้ามาก จนกระทั่งใกล้สถานีเซาเทิร์นครอสส์ที่เด็กหนุ่มหนึ่งคน เด็กสาวหนึ่งคน และเด็กชายหนึ่งคนเดินเหมือนอยู่ในภวังค์ขึ้นมาบนรถไฟ เด็กหนุ่มเล่าว่าพวกเขามาจากเรือโดยสารที่ชนภูเขาน้ำแข็งในคืนหนึ่ง
ถึงตอนนี้คนดูเริ่มเข้าใจแล้วว่านี่คือขบวนรถไฟที่พาชีวิตหลังความตายไปส่งปลายทาง และที่ปลายทางนั้นเองมีไม้กางเขนใหญ่ตั้งอยู่ ผู้โดยสารลงจากรถทั้งขบวนยกเว้นจิโอวานนี่และคัมปาเนลลาที่สัญญาว่าจะไม่ทิ้งกันตลอดไป
แต่คัมปาเนลลาเดินจากจิโอวานนี่ไปท้ายขบวน ก่อนจะหันมาอำลาจิโอวานนี่แล้วลอยลงจากรถไฟไป
จิโอวานนี่ตื่นมาที่เนินเขาที่รถไฟมารับเขาในตอนแรก เขาวิ่งกลับไปที่เมืองด้วยรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับคัมปาเนลลา ที่แท้คัมปาเนลลาลงน้ำไปช่วยชีวิตซาเนลลี่แต่ตนเองกลับจมน้ำหายไป ตอนนี้ใครๆ รวมทั้งพ่อของคัมปาเนลลาและหน่วยกู้ภัยพากันไปรวมตัวกันที่ริมน้ำ
โปรดติดตามตอนจบ
หนังสร้างตั้งแต่ปี 1985 ก็จริง แต่เพิ่งจะมีแผ่นดีวีดีปี 2015 และบลูเรย์ปี 2016 นี้เอง
หนังบูรณะแล้วสีสวยงาม ดนตรีไพเราะ งานด้านภาพทำได้ยอดเยี่ยม รถไฟและสภาพบ้านเมืองแบบยุโรปดูแปลกตา
หนังแบ่งเป็นบทๆ ตามหนังสือช่วยให้ดูง่ายขึ้นแม้ว่ายังยาก
หากไม่ได้แผ่นคุณภาพดีน่าจะดูแล้วหลับโดยง่าย
เข้าใจว่าหนังกำลังเล่าเรื่องความตายและการเสียสละ