โฟกัสพระเครื่อง / โคมคำ/ เหรียญรุ่น 5 ปี 2515 มงคลพระราชอุทัยกวี วัดทุ่งทุ่งแก้ว อุทัยธานี

พระราชอุทัยกวี (พุฒ สุทัตโต)

โฟกัสพระเครื่อง/ โคมคำ [email protected]

เหรียญรุ่น 5 ปี 2515

มงคลพระราชอุทัยกวี

วัดทุ่งทุ่งแก้ว อุทัยธานี

 

“หลวงพ่อพุฒ สุทัตโต” หรือ “พระราชอุทัยกวี” อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานีและเจ้าอาวาสวัดมณีสถิตกปิฏฐาราม (ทุ่งแก้ว) อ.เมือง จ.อุทัยธานี เป็นพระเถราจารย์แห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง

ในปี พ.ศ.2515 หลวงพ่ออั้น อภิปาโล เจ้าอาวาสวัดธรรมโฆษก (โรงโค) ซึ่งเป็นศิษย์ ได้จัดสร้าง “เหรียญพระราชอุทัยกวี (พุฒ สุทัตโต)” เพื่อแจกเป็นที่ระลึกในงานยกช่อฟ้าศาลาหอประชุมวัดธรรมโฆษก เป็นเหรียญรุ่นที่ 5

ลักษณะคล้ายใบสาเก มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเนื้อทองแดง และทองแดงกะไหล่ทอง

ด้านหน้ามีลายกนกล้อมรอบ ตรงกลางเป็นภาพนูน หลวงพ่อพุฒครึ่งองค์ เหนือขอบเหรียญด้านล่าง มีอักษรไทย เขียนว่า “พระราชอุทัยกวี”

ด้านหลัง ไม่มีขอบและลายกนก ตรงกลางบรรจุยันต์หัวพิรอด ชั้นในสุดมีอักขระขอม นะ มหาอุดŽ ล้อมรอบด้วย อุ อะ ทะ โม ชั้นที่ 2 นะ มะ พะ ทะ และชั้นที่ 3 อะ อุ อะ ทั้งสี่ทิศ เหนือยันต์มีอัษรไทย เขียนว่า “ที่ระลึกในงานยกช่อฟ้าหอประชุมวัดธรรมโฆษก” ใต้ยันต์ด้านล่างของเหรียญ มีอักษรไทย และเลขไทย เขียนว่า “อุทัยธานี ๒๕๑๕”

หลวงพ่อพุฒปลุกเสกเดี่ยวตลอดไตรมาส ไม่เปิดให้เช่าบูชา สร้างไว้แจกประชาชนที่มาร่วมงานยกช่อฟ้าศาลาหอประชุมวัดธรรมโฆษกเท่านั้น

นับเป็นเหรียญที่หายากอีกรุ่น เพราะผู้ที่มีไว้ในครอบครองหวงแหน

เหรียญพระราชอุทัยกวี (หน้า)

 

มีนามเดิมว่า พุฒ แจ้งอิ่ม เกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2439 ณ บ้านหนองเต่า ต.ทุ่งใหญ่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี

ในวัยเยาว์ ท่านต้องช่วยบิดา-มารดา ทำนาและเลี้ยงน้อง แต่ท่านมีความสนใจในการปฏิบัติธรรม คือ ชอบสวดมนต์ก่อนนอน ทำให้สวดมนต์ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย

พ.ศ.2453 บิดานำไปฝากพระสุนทรมุนี (ใจ) เจ้าอาวาสวัดมณีธุดงค์สงฆ์มูลิกาวาส และเข้ารับการศึกษาภาษาไทย ภาษาขอมและวิชาลงรักปิดทอง

พ.ศ.2454 บรรพชา ณ วัดทุ่งแก้ว

วันที่ 6 มีนาคม 2458 อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดทุ่งแก้ว มีพระสุนทรมุนี (ใจ) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า สุทัตโต

พ.ศ.2460 วัดทุ่งแก้ว ส่งไปศึกษาต่อในสำนักเรียนวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ คณะ 18 จังหวัดพระนคร

ลำดับการศึกษา

พ.ศ.2462 สอบได้นักธรรมชั้นโท

พ.ศ.2463 สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค

พ.ศ.2464 สอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค

พ.ศ.2465 สอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค

ระหว่างศึกษาอยู่ที่สำนักเรียนวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ได้รับความเมตตาจากสมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) อบรมสั่งสอน และมีโอกาสปฏิบัติรับใช้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นชาวจังหวัดอุทัยธานีเหมือนกัน ประกอบกับท่านเป็นผู้มีความวิริยะอุตสาหะ มีศีลาจารวัตรงดงาม เป็นที่ชื่นชอบของสมเด็จพระวันรัต (เฮง) เป็นอย่างยิ่ง

นับว่าท่านเป็นศิษย์ที่สมเด็จพระวันรัต (เฮง) ให้ความเมตตาและไว้วางใจมากที่สุด

เหรียญพระราชอุทัยกวี (หลัง)

 

ลําดับงานด้านการศึกษา

พ.ศ.2464 เป็นครูสอนบาลีไวยากรณ์ สำนักเรียนวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ จ.พระนคร

พ.ศ.2466 เป็นครูสอนธรรมวินัยและบาลี สำนักเรียนวัดหนองขุนชาติ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี

พ.ศ.2469 เป็นครูสอนธรรมวินัยและบาลี สำนักเรียนวัดทุ่งแก้ว อ.เมือง จ.อุทัยธานี

พ.ศ.2478 เป็นเจ้าสำนักเรียนคณะจังหวัดอุทัยธานี

นอกจากการศึกษาด้านพระปริยัติธรรมแล้ว ท่านยังมีความสนใจด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน ในปี พ.ศ.2496 ได้ไปศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานกับพระภัททันตะ อาสภเถระ พระชาวพม่า ที่ได้นำความรู้มาอบรมสั่งสอนให้แก่ลูกศิษย์ โดยเริ่มทำการสอนตั้งแต่ พ.ศ.2497 เป็นต้นมา

รวมทั้งได้จัดตั้งวิปัสสนามูลนิธิ วัดมณีสถิตกปิฏฐาราม

 

ลําดับงานปกครองคณะสงฆ์

พ.ศ.2469 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดทุ่งแก้ว

พ.ศ.2471 เป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งแก้ว

พ.ศ.2476 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี และเป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ.2477 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี

พ.ศ.2478 เป็นเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี

ลำดับสมณศักดิ์

พ.ศ.2476 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษในราชทินนามพระครูศรีรัตนาภิรม

พ.ศ.2478 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระสุนทรมุนี

พ.ศ.2500 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชอุทัยกวี

พระราชอุทัยกวี (พุฒ) ยังสนใจศึกษาด้านพุทธาคม ท่านได้แสวงหาและศึกษาจากผู้มีวิทยาคุณหลายท่าน อาทิ พระธรรมไตรโลกาจารย์ (ยอด) วัดเขาแก้ว, หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ, หลวงพ่อเคน วัดดงเศรษฐี, หลวงพ่อสิน วัดหนองเต่า, หลวงพ่อพลอย วัดห้วยขานาง, หลวงพ่อจิ๋ว วัดโนนเหล็ก, พระวิบูลวชิรธรรม วัดท่าพุทรา, หลวงพ่อจ้อย วัดอมฤต และพระอุดมธรรมภาณ (สม) วัดทัพทัน เป็นต้น

พระราชอุทัยกวี (พุฒ) มีสภาพร่างกายโดยทั่วไป สุขภาพอนามัยดี ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บประจำตัว โดยปกติท่านจะใช้เวลาปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานในกุฏิเสมอ

บางครั้งจะปฏิบัติติดต่อกันเป็นเวลานาน 1-2 วัน โดยไม่ออกมาฉันภัตตาหารเลย วันที่ 24 เมษายน 2533 เมื่อท่านฉันภัตตาหารเช้าแล้วก็เข้ากุฏิปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน

จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น. พระราชอุทัยกวี มรณภาพอย่างสงบภายในกุฏิสุนทรประมุข สิริอายุ 95 ปี พรรษา 75

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2534 ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุลอย บริเวณหน้าโรงเรียนปริยัติธรรม “อุทัยธรรมสภา”