Inu-Oh

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

สนุกมาก ดีมาก เพลงเพราะมากๆ

อะไรที่เขียนวันนี้ได้จากการดูหนังรอบที่หนึ่ง และเขียนด้วยความประทับใจเป็นที่ตั้ง รู้เรื่องเท่าที่ดูโดยที่ยังมิได้ค้นคว้าอะไรเพิ่มเติม สำหรับคนมิใช่ญี่ปุ่นน่าจะมีบางอย่างที่ขาดหายไป

หนังเปิดฉากด้วยเสียงของโทโมนะผมยาว เขาดีดพิณบิวะ (Biwa) เล่าเรื่องราวก่อนหน้าที่ละครโนะ (Noh) จะเล่า หนังแพนภาพจากปัจจุบันย้อนกลับไปอดีตอันไกลโพ้น เวลานั้นมีเพียงการละครที่เรียกว่า Sarugaku ผู้เล่นตั้งเวทีกลางแจ้ง ผู้ชมนั่งชมกลางสนาม มีโชกุนอยู่ 2 ตระกูลที่หวังจะเป็นเจ้าแผ่นดินแต่ผู้เดียว ว่ากันว่าใครได้ของวิเศษเพียงหนึ่งในสามชิ้นก็จะเป็นหนึ่งในใต้หล้า

โทโมนะขับขานบทเพลงต่อไป ภาพตัดไปที่ชายผู้หนึ่งซึ่งอยากเป็นนักแสดงละครอันดับหนึ่งของแผ่นดิน เขาเปิดกล่องวิเศษพบหน้ากากปีศาจที่ให้อำนาจนั้นได้ เขาจะกลายเป็นต้นตระกูลของนักแสดงละครที่ยิ่งใหญ่

แต่ที่ปีศาจขอคือลูกชายคนที่สามของเขา หนังฉายภาพคืนที่ลูกชายของเขาถือกำเนิด มันมิใช่คน หนังฉายภาพผู้เป็นพ่อเดินจากแม่ลูกไปอย่างไม่ไยดี

ขอเพียงเป็นได้อันดับหนึ่ง ทุกอย่างล้วนจ่ายได้

หนังดูยากตอนเริ่มต้น ด้วยผู้กำกับฯ เล่าหลายเรื่องพร้อมกัน อันที่จริงจะง่ายกว่าหากเล่าว่ากองทัพของโชกุนทั้งสองคือเกนจิ (Genji) และไฮเค (Heike) รบกันเมื่อหลายร้อยปีก่อน เรื่องราวของการรบครั้งนั้นเป็นที่เล่าขานกันมานานสองร้อยปี จนกระทั่งนักบวชกลุ่มหนึ่งเรียบเรียงเรื่องเล่าที่แตกฉานซ่านเซ็นนั้นเป็นหนึ่งเดียวแล้วขับขานต่อกันมาตั้งแต่เมื่อเมื่อ 600 ปีก่อน

โทโมนะเคยเป็นหนึ่งในนักบวชนั้น เขาร้องเพลงต่อไปว่า “แต่มีเรื่องหนึ่งได้หายไป” ไม่เป็นที่รับรู้ของคนทั่วไป เป็นเรื่องราวยิ่งใหญ่ อลังการ โศกเศร้า คลั่งแค้น

ในตอนต้นของหนัง ผู้เล่าเรื่องคือโทโมนะ เขาร้องเพลงแบบละครโนะ เสียงพิณและการเคาะจังหวะกังวานไพเราะจับใจ หนังฉายภาพยุทธนาวีที่ดันโนะอูระ (Dan-no-ura) กองเรือนับร้อยจมทะเลพร้อมซากศพทหารมากมาย เวลาผ่านไป เด็กชายตัวเปล่าเปลือยคนหนึ่งดำน้ำลงไปสำรวจซากเรือและเศษซากการรบที่หลงเหลือ เขาพบแผ่นกระดานใหญ่ที่ตนเองยกไม่ขึ้น เมื่อหมดลมจึงขึ้นผิวน้ำกลับไปหาพ่อ

เป็นหมู่บ้านประมงชายทะเล มีซามูไรสองคนกำลังคุยกับพ่อ พวกเขาวางเงินกองใหญ่จ้างพ่อหาสมบัติโบราณชิ้นหนึ่ง พ่อปฏิเสธแต่พลันเห็นหน้าโทโมนะพยักหน้าจึงตอบรับ

เด็กชายนั้นคือโทโมนะยามเด็ก เขาพาพ่อและซามูไรทั้งสองออกเรือ ระหว่างทางพบปูปีศาจหน้าเป็นคน ขาสองข้างชี้บนเสมือนมีก้ามสี่ก้าม พวกมันเหมือนโกรธเกรี้ยวสิ่งใดอยู่ช้านาน ซามูไรเห็นปูนั้นก็ให้สยองขวัญน่าพรั่นพรึง

โทโมนะดำน้ำพร้อมพ่อลงไปยกแผ่นกระดานแล้วนำสมบัติล้ำค่าขึ้นมา พ่อเขาเปิดดูสมบัติโดยไม่ฟังคำทัดทานของซามูไรทั้งสอง มันเป็นอาวุธชนิดหนึ่ง เมื่อพ่อชักออกมา รอยกรีดหน้าท้องเป็นทางยาวตายในทันที

แสงจ้าเปล่งประกายทำโทโมนะตาบอด ส่วนซามูไรทั้งสองหายไป

โทโมนะตาบอดแล้ว เมื่อฟื้นตัวเขาคว้าไม้เท้าออกเดินทาง พลันได้ยินเสียงขับขานเล่าเรื่องความพ่ายแพ้ของไฮเคที่การรบทางทะเลนั้น ที่แท้เป็นนักบวชชราตาบอดนั่งดีดพิณร้องเพลง โทโมนะแนะนำตัวด้วยการยื่นแผ่นไม้ชื่อตัวเองให้แก่นักบวชชรา นักบวชชราคลำแผ่นไม้นั้นแล้วเอ่ยชื่อโทโมนะ โทโมนะคลำแผ่นไม้ของนักบวชแล้วเอ่ยชื่อทานิอิจิ สร้างความแปลกใจว่าเด็กชายตาบอดคนนี้อ่านหนังสือได้

โทโมนะเรียนพิณบิวะกับนักบวชชรา สองตาหลานออกเดินทางด้วยกันไปตามท้องทุ่งและป่าเขา โทโมนะบอกว่ามีบางเรื่องที่ขาดหายไป เขาตั้งใจออกตามหาเรื่องที่หายไปนั้น เวลาผ่านไปสองปีพวกเขามาถึงเกียวโต โทโมนะต้องการโกนหัวเป็นนักบวช แต่เขาต้องเปลี่ยนชื่อเป็นโทมิอิจิ ตามสกุลปรมาจารย์ผู้ก่อตั้ง

วิญญาณของคลั่งแค้นของพ่อปรากฏตัวห้ามเขาเปลี่ยนชื่อ “มิเช่นนั้นพ่อจะหาลูกไม่เจออีก”

แต่โทโมนะไม่ฟัง เขาจึงโกนผมเป็นนักบวชบิวะชื่อโทมิอิจิ เขาได้ยินเรื่องเล่าว่าใครที่รู้เรื่องการรบทางทะเลที่หายไปในครั้งนั้นล้วนถูกปีศาจสังหารสิ้นแล้ว

ที่เกียวโตนี้เอง ผู้เป็นพ่อกำลังเคี่ยวกรำลูกชายคนโตสองคนให้เต้นได้จังหวะ แต่ลูกชายสองคนไม่ได้เรื่องเอาเลย

ที่ใต้ถุนบ้านมีตัวอะไรสักตัวที่ดูเหมือนหมา หรือไม่ก็ลิง มันมีขากุดสองข้าง แขนกุดหนึ่งข้าง แขนยาวเป็นเปรตอีกหนึ่งข้าง มันสวมหน้ากากที่เจาะรูลูกตาตามแนวตั้งสองรู รูหนึ่งเป็นวงรีขนานกับพื้น อีกรูหนึ่งเป็นวงรีตั้งฉากกับพื้น ขนาดของรูก็ไม่เท่ากัน มันกินข้าวในชามร่วมกับหมา

มันคือเด็กปีศาจที่ผู้เป็นพ่อขายวิญญาณแลกมานั่นเอง

มันชื่ออินุโอะ มันแอบดูพ่อด่าพี่ชายทั้งสอง มันวิ่งเหมือนหมาปนลิงไปเต้นรำเข้าจังหวะอยู่คนเดียว

เราจะเห็นดวงไฟสีแดงวนรอบขาของมันแล้วขาทั้งสองก็ยืดขึ้นเหมือนคนปกติ (ตรงนี้คนดูจะรู้ทีหลังว่าดวงไฟสีแดงมากมายนั้นคือวิญญาณของทหารไฮเคที่ตายในการรบ)

ที่แท้อินุโอะมีผีปีศาจรายรอบตัวนับพันดวง

อินุโอะได้ขาใหม่ มันวิ่งเข้าเมือง ผู้คนแตกตื่น มันเปิดหน้ากากให้คนดู ผู้คนหวาดกลัวแตกกระเจิง (แต่จนแล้วจนรอดคนดูก็จะไม่ได้เห็นใบหน้าใต้หน้ากากนั้นเสียที) บัดนี้อินุโอะมีขาแล้ว มันเหลือแต่แขนกุดกับแขนเปรตและใบหน้า มีวิญญาณที่ไม่ไปผุดไปเกิดมากมายรายล้อม วิญญาณทุกดวงนั้นมีเรื่องเล่า เรื่องเล่าที่ไม่เคยมีโอกาสได้เล่า ใครรู้เรื่องล้วนตายหมดสิ้นไปแล้ว

บัดนี้ชะตาของเด็กหนุ่มทั้งสอง คนหนึ่งเป็นพระ คนหนึ่งเป็นปีศาจ ใกล้จะได้พบกันแล้วสร้างบทเพลงขับขานเรื่องราวที่ไม่มีใครเคยรู้

ครึ่งหลังของหนัง มันระยับจริงๆ •

 

 

การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์