ส.โรงแรมอวดอัตราเข้าพักพุ่งแตะ 48% รับเปิดประเทศ-ต่างชาติฟื้น

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า ผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่พักแรม ประจำเดือนสิงหาคม 2565 พบว่า อัตราการเข้าพักอยู่ที่ 48% เพิ่มขึ้นจาก 45% ของเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่ทยอยเพิ่มขึ้น หลังมีการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ และขยายสิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ส่งผลให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์อัตราการเข้าพักในเดือนกันยายนนี้ อยู่ที่ 40-45% ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มเข้ามาต่อเนื่อง อาจทำให้อัตราการเข้าพักดีกว่าที่คาดการณ์ แต่ผู้ประกอบการโรงแรมส่วนใหญ่ยังกังวลต่อกำลังซื้อที่อาจลดลงจากเงินเฟ้อ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาอาจน้อยกว่าคาด

นางมาริสา กล่าวว่า สำหรับลูกค้าของโรงแรมส่วนใหญ่ยังคงเป็นลูกค้าชาวไทย แต่มีลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นสะท้อนจากโรงแรมที่มีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติมากกว่า 50% ทยอยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังมีการผ่อนคลายมาตรการเปิดประเทศตั้งแต่กลางปี 2565 ซึ่งกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่เข้าพักส่วนใหญ่มาจากเอเชียและตะวันออกกลาง รองลงมาเป็นยุโรปตะวันตก โดยผู้ประกอบการมีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงกดดันกำลังซื้อถึง 62% และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาน้อยกว่าคาด 61% เป็นประเด็นที่ผู้ประกอบการกังวลมากที่สุด

รองลงมาคือ การขาดแคลนแรงงาน 43% และโควิดระลอกใหม่ที่อาจกระทบกิจกรรมนอกบ้านให้ลดลง 40% ซึ่งอาจกระทบการฟื้นตัวของธุรกิจในระยะข้างหน้า ขณะที่ความกังวลต่อการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงค่อนข้างต่ำ เนื่องจากมีแนวโน้มติดได้ยากกว่า และจำนวนผู้ติดเชื้อในไทยยังน้อย เช่นเดียวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีน-ไต้หวัน เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวเข้ามาในประเทศ

นางมาริสา กล่าวว่า ส่วนมาตรการช่วยเหลือที่โรงแรมส่วนใหญ่ต้องการจากภาครัฐ คือ มาตรการช่วยเหลือทางการเงิน อาทิ ขยายเวลาการพักชำระหนี้เดิม ขยายวงเงินสินเชื่อฟื้นฟู และเร่งรัดเงินสินเชื่อเดิม เพื่อกลับมาลงทุนต่อจากที่หยุดก่อสร้างในช่วงโควิด มาตรการช่วยเหลือด้านต้นทุน อาทิ ค่าสาธารณูปโภค (ไฟฟ้า-ประปา) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และค่าธรรมเนียม โดยเฉพาะธุรกิจรายย่อยที่มีต้นทุนในการประกอบธุรกิจปรับตัวสูงขึ้น 20-30% มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว ผ่านการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวเชิงพื้นที่ใหม่ๆ เพื่อกระจายรายได้และนักท่องเที่ยวอย่างทั่วถึง และสนับสนุนให้ไทยเป็นเวิร์กเคชั่น

หรือทำงานด้วยเที่ยวด้วย ควบคู่ไปกับการเร่งพัฒนาทักษะพนักงาน การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำหน้าที่หลากหลายขึ้นในโรงแรม เพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลน รวมถึงเร่งรัดโครงการก่อสร้าง จัดระเบียบร้านค้า รถโดยสารในแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างทัศนียภาพที่ดี ขณะที่มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว อาทิ เพิ่มวันหยุดยาว และสัมมนาในประเทศยังมีความจำเป็น