BERSERK (1) / การ์ตูนที่รัก : นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

การ์ตูนที่รัก

นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

 

BERSERK (1)

 

เบอร์เสิร์ก (BERSERK) เป็นผลงานของ Kentarou Miura (1966-2021) ซึ่งเผยแพร่ครั้งแรกปี 1989 จนกระทั่งผู้เขียนถึงแก่กรรมที่เล่ม 40 โดยที่ยังเขียนไม่จบ ขณะที่เขียนต้นฉบับนี้สาวกเบอร์เสิร์กกำลังรอเล่มที่ 41 ซึ่งจะเป็นลายเส้นชิ้นสุดท้ายของเขา

โดดเด่นที่สุดของเบอร์เสิร์กน่าจะเป็นลายเส้นนั่นเอง การดำเนินเรื่องที่ดำมืด โหดร้าย น่าเกลียดน่ากลัว อุจาดลามก และดุเดือดถึงเลือดถึงเนื้อตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เขาได้วาดรูปขนาดใหญ่ที่มีรายละเอียดมากมายหลายรูป ใช้สปีดไลน์ดั่งห่าฝน และดึงดูดสายตาด้วยมุมมองที่กดดันนักอ่านอย่างน่าระทึก

ลำพังการดูรูปอย่างเดียวโดยไม่ใส่ใจเนื้อหาก็เป็นความอิ่มเอมทางสายตาอย่างเอกอุ และอดที่จะยกย่องงานชิ้นนี้มิได้

ด้านเนื้อเรื่องและเนื้อหามิใช่ธรรมดา เคยเขียนถึงสิบเล่มแรกและรวมเล่มในหนังสือการ์ตูนที่รักของสำนักพิมพ์มติชนไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 คือเมื่อยี่สิบปีก่อน

วันนี้จะเขียนใหม่หลังจากอ่านใหม่ไป 40 เล่ม และอ่านออนไลน์ต่อจากนั้น

 

จากหนังสือ The Name of the Rose หรือ สมัญญาแห่งดอกกุหลาบ ของ Umberto Eco แปลโดยภัควดี วีระภาสพงษ์ โครงการจัดพิมพ์คบไฟ 2541 ภราดาวิลเลียมกล่าวกับเจ้าอาวาสว่า

“ถ้าเช่นนั้น ในหอสมุดนี้ก็มีหนังสือที่บรรจุความเท็จรวมอยู่ด้วย…”

เจ้าอาวาสตอบว่า

“อสูรมีอยู่ก็เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของเจตนาแห่งสวรรค์ และในรูปลักษณ์ชั่วช้าของเหล่ามารอสูรนี้แหละที่พระมหิทธานุภาพของพระผู้รังสฤษฎ์จึงจักไขกระจ่าง และโดยเจตนาแห่งสวรรค์นี้เช่นกัน จึงมีหนังสือที่เขียนโดยพวกพ่อมด หมอผี ตำราลัทธิแคบาลาของพวกยิว นิยายของพวกกวีอนารยะ ถ้อยมดเท็จของเหล่าเดียรถีย์ นี่เป็นหลักการมั่นคงและสูงส่งของเหล่าผู้สถาปนาอารามนี้และธำรงหลักการไว้ตลอดหลายศตวรรษ ว่าแม้แต่ในหนังสือแห่งความเท็จทั้งหลาย เมื่ออยู่ต่อสายตานักอ่านปราดเปรื่อง ย่อมยลเห็นประกายรำไรของเทวปรีชาฉายออกมา”

“หอสมุดจึงเก็บรักษาผลงานประเภทนี้ไว้ด้วย”

 

ภาคหนึ่ง นักรบดำ

ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ กำลังสมสู่กับหญิงสาว หญิงสาวกลายร่างเป็นผีร้ายนอนหงายชันเข่าครวญครางด้วยความสุข ก่อนที่ชายหนุ่มจะยัดปืนเข้าไปในปากแล้วระเบิดหัวมันทิ้ง

เขาคือ “กัส” บุรุษชุดดำถือดาบขนาดยักษ์เท่าร่างกายตนเองเป็นอาวุธ มีมือข้างหนึ่งเป็นมือเหล็กพร้อมปืนในตัว เหตุเกิดในยุโรปยุคมืดที่กินเวลายาวนานหนึ่งพันปีนั้น

กัสฝันถึงปีศาจที่มีรูปร่างเหมือนตัวอ่อนมนุษย์ในครรภ์มารดาคลานกระดึ๊บๆ น่าขยะแขยงเข้ามาหาเขา บนร่างของกัสมี “รอยตีตรา” ซึ่งจะร่ำร้องปีศาจมาจากทั่วทุกหัวระแหง นับจากนี้ไม่ว่าเขาจะเยื้องกรายไปทางใดก็จะมีปีศาจตามรังควาญเขาเสมอๆ เขากำลังนอนรอเวลาที่อัศวินหน้ากากงูจะมาคิดบัญชี

เมื่อหน้ากากงูสู้กัสไม่ได้จึงคืนร่างเป็นปีศาจงูก่อนที่จะถูกดาบยักษ์ฟันคอขาดกระเด็นไป กัสเค้นเอาความจริงจากหัวงู “ก๊อดแฮนด์ทั้งห้าอยู่ที่ไหน” เมื่อไม่ได้รับคำตอบจึงยิงกระสุนเป็นห่าฝนเข้าใส่หัวงูแล้วเผาทิ้ง

ท่านเคาต์ร่างอ้วนกลมกำลังนั่งดูการประหารชีวิตแม่มดกลางตลาด กัสคว้าศีรษะหญิงสาวที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดขึ้นมาจากพื้น โยนมันไปที่ตรงหน้าท่านเคาต์

“จะประกาศสงครามกับข้างั้นรึ” ท่านเคาต์หัวเราะขณะบีบศีรษะของหญิงสาวลูกตาทะลักลิ้นจุกปาก แล้วสั่งกองทหารให้ติดตามกัสไป การต่อสู้อันโหดเหี้ยมเริ่มขึ้นอีกครั้ง กัสเอาชนะซอนดาร์กนายกองร่างยักษ์ได้อย่างสะบักสะบอม

มันชื่อบัลกัส เคยเป็นหมอประจำตัวท่านเคาต์ บัลกัสให้เขาดู “ไข่แห่งจักรพรรดิ” ของประหลาดที่มีลักษณะเหมือนไข่แต่มีหูตาจมูกปากวางบนตำแหน่งต่างๆ ผิดรูปผิดร่างชวนคลื่นเหียน บัลกัสเล่าว่าท่านเคาต์เคยเป็นคนปกติมาก่อน เมื่อได้ไข่แห่งจักรพรรดิมาจึงเปลี่ยนไป ชำแหละคนทั้งเป็น ฉีกทิ้ง ข่มขืนแล้วก็กิน ท่านเคาต์กินบุตรภรรยาของบัลกัสไปด้วย ไข่แห่งจักรพรรดิคือกุญแจที่จะนำกัสไปพบกับก๊อดแฮนด์ทั้งห้า

กัสคว้า “ดาบยักษ์” ต่อสู้กับซอนดาร์กอีกรอบ ฉากต่อสู้อันน่าสะอิดสะเอียนผ่านไปหลายหน้ากว่ากัสจะเอาชนะได้ ต่อไปเขาต้องเผชิญกับท่านเคาต์ ฉากท่านเคาต์คืนร่างเป็นอสุรกายและต่อสู้กับกัสนั้นกินเนื้อที่อีกหลายหน้าและเต็มไปด้วยภาพอุจาดลามกมากมาย กัสสับท่านเคาต์เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยต่อหน้าลูกสาวซึ่งกำลังช็อกกับร่างแท้ของบิดา เศษเนื้อแหลกเหลวของท่านเคาต์ร้องเรียกไข่แห่งจักรพรรดิเปิดประตูนรกให้ก๊อดแฮนด์ทั้งห้าปรากฏกาย

หนึ่งในนั้นคือ “กรีฟีส”

 

เคนทาโร มิยูระ เล่าเรื่องราวเหล่านี้ด้วยภาพขาวดำและลายเส้นที่สื่อถึงความรุนแรง การฆ่าฟัน โลหิต เศษเนื้อ เศษกระดูก การฉีกขาดขององคาพยพส่วนต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีภาพปีศาจ ผีร้าย อสุรกายแต่ละตนรวมทั้งก๊อดแฮนด์ต่างส่อนัยทางเพศ ซ้ำเติมด้วยภาพเปลือยด้านหน้าของตัวละคร ภาพการสมสู่ทั้งแบบคู่และแบบหมู่ ทั้งระหว่างมนุษย์ ระหว่างปีศาจและระหว่างมนุษย์กับปีศาจ

ระหว่างการเดินทางของกัสในสามเล่มแรก เขาได้ฆ่า “พ่อ” ถึงสามครั้ง

ครั้งแรกเมื่อฆ่าอัศวินหน้ากากงู ในนาทีที่อัศวินหน้ากากงูกลายร่างเป็นปีศาจงู หัวงูกลายเป็นสัญลักษณ์ของอวัยวะเพศชายและถูกกัสฟันขาดไปในทันที

ครั้งที่สองเมื่อฆ่าซอนดาร์ก ในนาทีที่ซอนดาร์กแผ่ระโยงระยางของปีศาจออกมาจากทุกรูเปิดของร่างกาย ระโยงระยางน่าคลื่นไส้เหล่านั้นแสดงภาพลักษณ์ของอวัยวะเพศชายอย่างชัดเจน จึงถูกกัสตัดขาดและฟาดจนแหลกเหลว

ครั้งที่สามเมื่อเผชิญหน้ากับร่างปีศาจของท่านเคาต์ ท่านเคาต์เป็นตัวละครที่มีภาพลักษณ์ของบิดาตั้งแต่ต้นเรื่อง นับตั้งแต่ครั้งที่เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีมาจนถึงยุคสมัยที่คิดรวบหัวรวบหางบุตรสาวของตนเอง ลายเส้นส่อนัยถึงอวัยวะเพศชายตั้งแต่แรกซ้ำเติมด้วยฉาก “สอดใส่” น้ำเชื้อปีศาจเข้าปากซอนดาร์ก

แล้วลงเอยด้วยร่างปีศาจที่อุจาดลามกเป็นที่สุด

 

เมื่อกัสสับท่านเคาต์เป็นชิ้นๆ แสดงถึงภาวะ “ไม่รู้จักตนเอง” ของกัส หลังจากการฆ่าพ่อคนนี้แล้วเขายังจะต้องฆ่าอีกเท่าไรกว่าจะถึงตัวกรีฟีส หายนะอีกมากเท่าไรที่จะเกิดขึ้นต่อไปตราบเท่าที่เขาไขปริศนาของตนเองไม่ได้

นอกจากการกระทำเสมือนหนึ่งปิตุฆาตแล้ว กัสยังต้องเผชิญกับมารดาหลายครั้งเช่นเดียวกับที่อิดิปัสเผชิญหน้ากับสฟิงซ์ ก่อนที่จะได้พบกับมารดาที่แท้จริงและหายนะที่จริงแท้ในที่สุด สามครั้งที่เขาเผชิญหน้ากับ “สฟิงซ์” เป็นโอกาสที่เขาจะได้ไขปริศนาเพื่อรู้เท่าทันตนเอง แต่เขาก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ

ครั้งที่หนึ่งเมื่อเขาฝันถึงตัวอ่อนในครรภ์มารดา

ครั้งที่สองเมื่อตัวอ่อนนั้นขยายขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อสกัดกั้นให้เขาหยุด

และครั้งที่สามเมื่อบัลกัสกลับมาหาเขาในร่างของตัวอ่อน แต่ละครั้งเป็นโอกาสที่เขาจะได้หยุดไตร่ตรองถึงชีวิตวัยเยาว์ของตนเอง เพื่อที่จะได้เข้าใจแรงผลักดันของตนเอง เพื่อที่จะได้ให้อภัยกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เพราะเขาทำไม่สำเร็จ

เขาจึงถือดาบยักษ์เล่มนั้นฟาดฟันทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้าด้วยความไฟแค้นที่มอดไหม้ตัวเขาเองอย่างรุนแรงชั่วนาตาปี

 

จากนี้หนังสือย้อนไปที่เรื่องราวตอนเริ่มต้น กัสเกิดจากครรภ์ของหญิงที่ถูกแขวนคอตายในสงคราม กัสหลุดไหลออกจากครรภ์และตกลงสู่พื้นทันที

ภรรยาของกัลวีโนเก็บเขาขึ้นมาจากกองเลือดและน้ำเหลืองไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม

หล่อนตายด้วยฝีดาษในขณะที่กัสอายุไม่น่าจะเกินห้าขวบ

กัลวีโนเป็นคนเลี้ยงกัสต่อมาแต่เขาเพียงให้น้ำและอาหารเท่านั้น ไม่มีความรักและการดูแลใดๆ มีแต่การด่าทอ ใช้แรงงานและฝึกดาบ

กัลวีโนเป็นทหารรับจ้าง กัสเติบโตท่ามกลางหมู่นักรบกักขฬะ หัดใช้ดาบตั้งแต่เล็กและเข้าสงครามเมื่อวิ่งได้

วันหนึ่งกัลวีโนโยนยาใส่แผลให้เขาหลังการรบอันเป็นครั้งแรกที่เขาได้รับความรักจากพ่อ

แต่ก็เป็นเพียงครั้งเดียวเพราะหลังจากนั้นกัลวีโนขายเขาให้เพื่อนทหาร “ข่มขืน”ในคืนวันหนึ่ง

กัสไม่รู้ว่าเป็นพ่อเขาเองที่ขายเขาในคืนนั้น เขาจึงยังคงรักและหวังในความรักจากพ่อเสมอมา

เมื่อกัลวีโนขาขาดในการรบเขาจึงเป็นผู้ดูแลตลอดทั้งคืน รวมทั้งแสดงฝีมือในการรบเก่งกล้าขึ้นแทนพ่อได้ทุกวัน

แต่แล้ววันหนึ่งกัลวีโนโพล่งเรื่องที่เคยขายเขาออกไป

ทั้งสองต่อสู้กันและกัสพลั้งมือฟันคอกัลวีโนถึงตาย

เด็กๆ ควรผ่านปมอิดิปัสไปได้ด้วยการฆ่าบิดาในจิตใต้สำนึกแต่กัสแตกต่าง เขาไม่สามารถสร้างสัมพันธ์กับใครได้อีกเลยนอกจากการใช้ความรุนแรง

กัสหนีออกจากค่ายพร้อม “ดาบใหญ่” เล่มหนึ่งและระเหเร่ร่อนไปในสมรภูมิก่อนที่จะมาพบกับกองพันเหยี่ยวภายใต้การนำของกรีฟีสหนุ่มรูปงาม

เขาพบว่าการอยู่ใกล้กรีฟีสนั้นให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ใกล้มารดา

กรีฟีสมีใบหน้าและร่างงามเหมือนสตรี แต่ขณะเดียวกันเขาไม่สบายใจเลยที่อยู่ใกล้กรีฟีส

กรีฟีสเป็นบุรุษ เป็นผู้นำ ฝีมือดาบเป็นยอด และเป็นเป้าหมายที่เขาต้องเอาชนะ •