วันที่ 6 ธันวาคม 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ซาราห์ กิลเบิร์ต ศาสตราจารย์ด้านวัคซีนวิทยาของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ผู้พัฒนาวัคซีนแบบไวรัลเวคเตอร์จนกลายเป็นวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า กล่าวว่า การระบาดใหญ่ในอนาคตนั้นอาจรุนแรงน่ากลัวกว่าโควิด-19 บทเรียนที่ได้รับจากการวิกฤตโรคระบาดนี้ จะต้องไม่สูญเปล่า และโลกควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีของไวรัสครั้งต่อไป

ศ.กิลเบิร์ต กล่าวผ่านรายการ Richard Dimbleby Lecture ของบีบีซี ซึ่งเป็นรายการพิเศษประจำปีว่า ความจริงก็คือ การระบาดใหญ่ครั้งต่อไปอาจเลวร้ายกว่านั้น อาจเป็นโรคติดต่อมากขึ้นหรือเป็นอันตรายถึงชีวิตมากขึ้นหรือทั้งสองอย่าง นี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่ไวรัสคุกคามชีวิตและความเป็นอยู่ของเรา

ศ.กิลเบิร์ต กล่าวว่า โลกควรทำให้แน่ใจว่าเตรียมตัวอย่างดีสำหรับไวรัสตัวต่อไปแล้ว

“ความก้าวหน้าที่เราทำและความรู้ที่เราได้รับจะต้องไม่สูญหาย” ศ.กิลเบิร์ต กล่าว

ขณะที่สายพันธุ์โอมิครอนที่พบมากขึ้นเรื่อยๆในหลายประเทศในขณะนี้นั้น ศ.กิลเบิร์ต กล่าวว่า หนามโปรตีนของไวรัสบรรจุส่วนกลายพันธุ์ที่ทำให้เพิ่มความสามารถในการแพร่เชื้อของไวรัสได้

“มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมที่อาจหมายถึงแอนติบอดีที่เกิดจากวัคซีนหรือโดยการติดเชื้อจากสายพันธุ์อื่น ๆ อาจมีประสิทธิภาพน้อยกว่าในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน แต่จนกว่าเราจะรู้มากขึ้นนั้น เราต้องระวังกว่านี้ ยกระดับเพื่อชะลอการระบาดของสายพันธุ์ใหม่นี้