เผยแพร่ | |
---|
โกฐจุฬาลัมพา ชื่อวิทยาศาสตร์ Artemisia annua Linn.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Artemisia chamomilla C. Winkl. , Artemisia stewartii C.B. Ckarke., Artemisia wadei Edgedw.
ชื่อวิทย์ Artemisia annua L.
ชื่ออื่นๆ ชิงเฮา, Sweet Wormwood, Sweet Annie, Annual Mugwort
“คําอธิบายตําราพระโอสถพระนารายณ์” ซึ่งเป็นตําราอ้างอิงด้านสมุนไพรที่สมบูรณ์ที่สุดเล่มหนึ่งระบุว่าโกฐจุฬาลัมพา คือส่วนใบและเรือนยอดของ A. annua โดยเป็นสมุนไพรที่มีการนำมาใช้เป็นสมุนไพรอย่างกว้างขวางทั้งการแพทย์แผนไทย และแพทย์แผนจีน
โดยในตำรายาไทยระบุว่า โกฐจุฬาลัมพา หรือโกฐจุฬาลัมพา เป็นเครื่องยาที่มีรสสุขุมหอมร้อนมีสรรพคุณแก้ไข้เจลียง (ไข้จับวันเว้นวัน)ไข้เจรียง (ไข้ทีมีเม็ดผื่นขึ้นตามตัว เช่น เหือดหัด สุกใส ดำแดง รากสาดประดง) แก้ไข้เพื่อเสมหะ แก้หืด แก้ไอเป็นยาขับเหงื่อ ใช้แต่งกลิ่น เป็นยาเจริญอาหาร เป็นยาระบายแก้ไข้จับ เป็นยาเร่งประสาทส่วนกลางเหมือนการบูร ขับลม แก้ตกเลือด ตำพอกแก้ลมแก้ชำใน แก้ปวดเมื่อยรูมาติก แก้บิด แก้ปวดท้องหลังคลอด แก้ระดูมากเกินไป
นอกจากนี้ในบัญชียาจากสมุนไพร ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา ปรากฏการใช้โกฐจุฬาลัมพาในยารักษาอาการโรคในระบบต่างๆของร่างกาย ได้แก่ ยารักษากลุ่มอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต (แก้ลม) ปรากฏตำรับ ”ยาหอมเทพจิตร” และตำรับ ”ยาหอมนวโกฐ” มีส่วนประกอบของโกฐจุฬาลัมพาอยู่ในพิกัดโกฐทั้ง 9 ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณในการแก้ลมวิงเวียน แก้อาการหน้ามืด ตาลาย ใจสั่น คลื่นเหียน อาเจียน แก้ลมจุกแน่นในท้อง ยาแก้ไข้ ปรากฏตำรับ “ยาจันทน์ลีลา” มีส่วนประกอบของส่วนประกอบของโกฐจุฬาลัมพาร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ ใช้บรรเทาอาการไข้ตัวร้อน ไข้เปลี่ยนฤดู ตำรับ “ยาเลือดงาม” มีส่วนประกอบของโกฐจุฬาลัมพาร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ แก้มุตกิด
และโกฐจุฬาลัมพายังเป็นสมุนไพรที่มีการนำมาใช้ในตำรับยาแผนโบราณของไทยหลายตำรับ เช่น มีการนำมาใช้ในเครื่องยาไทย ที่เรียกว่า “พิกัดโกฐ” โดยโกฐจุฬาลัมพาจัดอยู่ใน โกฐทั้งห้า(เบญจโกฐ) โกฐทั้งเจ็ด(สัตตโกฐ) และโกฐทั้งเก้า(เนาวโกฐ) สรรพคุณโดยรวม ของยาที่ใช้ในพิกัดโกฐ คือ แก้ไข้ แก้ไข้ร่วมกับมีเสมหะ แก้หืดไอ แก้หอบ แก้ลมในกองธาตุ ชูกำลัง ขับลม แก้สะอึก บำรุงเลือด บำรุงกระดูก เป็นต้น
ถ้าใครจำได้เมื่อปีที่แล้ว นายแอนดรี ราโจเอลินา ประธานาธิบดี แห่งมาดาร์กัสกาได้ประกาศในประชาชนใช้โกฐจุฬาลัมพา แต่กลับถูกวิจารณ์โดยองค์การอนามัยโลกโดยอ้างว่าเป็นการรณรงค์ยังไม่ได้มีงานวิจัยใด ๆ รองรับ แต่เขายังเดินหน้าเผยแพร่การใช้ยาสมุนไพรโดยไม่สนใจคำเตือน
เราต้องรอให้ต่างประเทศจดสิทธิบัตรก่อนหรือ จึงจะยอมรับว่าความรู้และสมุนไพรจากท้องถิ่นสามารถรับมือกับวิกฤตนี้ได้ ?
โกฐจุฬาลัมพา ในอดีตมีการเข้าใจกันว่าเป็นเครื่องยาที่ได้จากพืชในวงค์ COMPOSITAE เช่น A.pallens , A.vulgaris , A.argyi ซึ่งเป็นคนละชนิดกันกับ Artemisia annua ตามการวิจัยนี้
ต้นโกฐจุฬาลัมพามีทั้งพันธุ์ดอกสีขาวและดอกสีแดงมีสรรพคุณทางยาเหมือนกัน สามารถนำมาใช้แทนกันได้ นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ดอกสีเหลืองชนิดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Artemisia princeps Pamp ด้วย แต่พันธุ์นี้จะมีพิษ ถ้าใช้เกินขนาดก็อาจทำให้เสียชีวิตได้
การใช้ยา ไม่ควรใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ควรใช้ตามคำแนะนำของหมอพื้นบ้าน และแพทย์แผนไทย เพราะอาจส่งผลกระทบต่อตับไต หญิงตั้งครรภ์ หรือไข้เลือดออก
สำหรัับลักษณะทั่วไป
ไม้ล้มลุก มีอายุปีเดียว แตกกิ่งมาก ทั้งต้นมีกลิ่นแรง มีขนขึ้นประปราย หลุดร่วงได้ง่าย ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ ช่อดอกเป็นแบบช่อแยกแขนง ช่อย่อยแบบช่อกระจุกแน่น มีสีเหลืองถึงสีเหลืองเข้ม ผลเป็นผลแบบผลแห้ง เมล็ดล่อนรูปไข่แกมรี มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน ในประเทศจีนนั้นมักขึ้นทั่วไปตามเนินเขา ตามข้างทาง ตามที่รกร้าง หรือตามชายป่าทั่วไป
การขยายพันธุ์ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดโกฐจุฬาลัมพา
คนจีนมักปลูกสมุนไพรชนิดนี้ไว้หน้าบ้านเป็นสิริมงคล เป็นพืชมงคลสำคัญที่สุดสำหรับพี่น้องชาวจีน เปรียบได้เสมือนกับส้มป่อยที่เป็นพืชมงคลของพี่น้องล้านนา จะเห็นได้ว่าพี่น้องชาวจีนที่อยู่ในแถบจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอพยพมาจากประเทศจีน มาตั้งบ้านเรือนอยู่ในบริเวณนั้นจะมีโกฐจุฬาลัมพาปลูกอยู่แทบทุกบ้าน เพราะเป็นไม้ที่ขาดไม่ได้ในพิธีต่างๆ โดยใช้ทั้งต้น กิ่ง ใบ ราก ในวันพระใช้บูชาพระ ด้วยการเผาไฟ เอาต้นแห้งวางด้านล่าง แล้วเอาต้นสดใส่ไว้ด้านบน จุดไฟเผาอธิษฐานส่งผลบุญให้กับสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่ล้มตายจากเราไป ไม่ว่าจะด้วยเรื่องใดๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ใช้จุดบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือจุดเพื่ออุทิศบุญส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว นอกจากจะเป็นพืชมงคลแล้ว โกฐจุฬาลัมพายังเป็นยาสามัญประจำบ้านใช้รักษาอาการต่างๆ เช่น เจ็บท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ เลือดกำเดาไหล ใช้ไล่ยุง ไล่แมลง ใช้เข้ายาอบประคบแก้ปวดเมื่อย เป็นต้น ส่วนคนจีนจะใช้ในทางแก้ปวด
จากผลการศึกษา พบว่า น้ำมันหอมระเหยของโกฐจุฬาลัมพาที่สกัดด้วยเฮกเซนจากใบ มีฤทธิ์ในการไล่ยุง และยับยั้งการวางไข่ของยุง อีกทั้งยังลดอัตราการฟักไข่ของยุง และถูกใช้เป็นยาต้านมาลาเรีย สำหรับสัตว์เลี้ยงสัตว์ใหญ่ เช่น วัว ควาย ก็มีโอกาสป่วยไข้ได้เหมือนกัน เพราะอยู่ข้างนอกบ้านโดนแดด โดนฝน บางตัวอาจปวดเมื่อยตามร่างกาย จะลุกเดินไม่ไหว ให้เอาต้นโกฐจุฬาลัมพาทั้งต้นไปสุมไฟจนอุ่นๆ แล้วนำมาโปะลงหลังหรือเอว สักพักอาการจะดีขึ้น ถ้าเป็นไข้เล็กน้อยหรือปวดเมื่อย ใช้เป็นผักสดต้มกินก็ได้
ตำรับยา
ยาแก้ปวดท้อง แก้ไข้ทั้งมวล เอารากโกฐจุฬาลัมพามาต้มดื่ม
ยาแก้ปวดท้องร่วง เอาใบลนไฟ บดแล้วคั้นน้ำดื่ม
ยาแก้อาการเจ็บท้อง ไอ หรือหายใจไม่คล่อง เอาใบ 3 ใบ ใส่แก้ว ใส่เกลือนิดหน่อย เติมน้ำร้อน ดื่มสักพักจะดีขึ้น
ยาแก้เด็กร้องไห้งอแง แช่น้ำ หรือต้มน้ำอุ่นอาบ
ยากันยุง ใช้โกฐจุฬาลัมพา ตากแห้ง บดผงผสมกับใบหมี่เหม็น จะช่วยให้ติดก้านธูปได้ดี
ยากันยุง โดยนำใบโกฐจุฬาลัมพาแห้ง มาเผาไฟเพื่อให้เกิดควัน ใช้ไล่ยุง
ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร