ขอบคุณข้อมูลจาก | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
วันที่ 10 ก.ค. เอเอฟพี รายงานถึง กระแสเลือดรักชาติของชาวจีนจากเหตุการณ์เที่ยวบินพิเศษของเซียะเหมิน แอร์ไลนส์ อพยพพลเมืองจีนออกจากอัฟกานิสถานโดยเที่ยวบินเช่าเหมาลำฉุกเฉินได้สำเร็จ 210 คน
กัปตันเครื่องบินโพสต์ว่า “เส้นทางนี้ไม่ง่ายสำหรับการบินแม้แต่ครั้งเดียว แต่เราไม่อาจทิ้งผู้รักชาติไว้ข้างหลังแม้แต่คนเดียว”
โพสต์ดังกล่าวติดเทรนด์แฮชแท็กจนมียอดวิวมากกว่า 300 ล้านวิวในโซเชียลเว่ยป๋อ หลังเที่ยวบินดังกล่าวเดินทางจากกรุงคาบูลมายังเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย เมื่อวันที่ 8 ก.ค. จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจติดเชื้อโควิด พบว่ามีผู้ติดเชื้อ 22 ราย
จีนอพยพพลเรือนออกมาในจังหวะที่สหรัฐอเมริกาถอนกำลังออกจากสมรภูมินี้ จนเกิดความหวาดหวั่นด้านความปลอดภัยไปทั่ว โดยเฉพาะเมื่อกองกำลังกลุ่มตาลิบันบุกยึดครองพื้นที่ของอัฟกานิสถานได้ร้อยละ 85 แล้ว
สองเมืองล่าสุด ได้แก่ อิสลามกาลา และตอร์กุนดี พื้นที่พรมแดนสำคัญขนาดใหญ่ทางภาคเหนือ ติดกับประเทศอิหร่านและเติร์กเมนิสถาน เหล่านักรบยังปลดธงชาติอัฟกานิสถานออกจากด่านศุลกากร
ทางการจีนยังแถลงตำหนิสหรัฐที่ถอนกำลังออกมา ทิ้งให้ชาวอัฟกันตกอยู่ในความวุ่นวายและสงคราม
แต่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐแถลงยืนยันก่อนหน้านั้นว่า สหรัฐจะยุติภารกิจตามกำหนดวันที่ 31 ส.ค. และจะไม่ส่งทหารอีกรุ่นไปทำสงครามในอัฟกานิสถานอีก
สำหรับอนาคตของอัฟกานิสถาน นายไบเดนกล่าวว่า ต้องใช้ชาวอัฟกันตัดสินเอง แม้ตนไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร คิดว่าเป็นไปได้สูงที่จะต้องจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันกับตาลิบัน
สหรัฐเคยยกทัพใหญ่มาก่อสงครามอัฟกานิสถาน ในยุครัฐบาลจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ตั้งแต่ปี 2544 เพื่อโค่นอำนาจรัฐบาลตาลิบันในขณะนั้น ด้วยข้อกล่าวหาว่าให้ที่พักพิงและร่วมกับเครือข่ายอัลไคด้าของนายโอซามา บิน ลาเดน ก่อการร้ายถึงในแผ่นดินสหรัฐ ในเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยาฯ 2544
แม้สหรัฐจะทำศึกโค่นตาลิบันได้อย่างรวดเร็ว แต่สงครามกลับยืดเยื้อและตกค้างมาจนปัจจุบัน ชาวอัฟกัน ตกเป็นเหยื่อก่อการร้ายทั้งจากตาลิบัน อัลไคด้า และไอเอส
ยอดผู้เสียชีวิตนับจากปี 2544 ถึงปัจจุบัน สูงกว่า 212,191 ราย ในจำนวนนี้เป็นชาวบ้านมากกว่า 47,000 ราย
หลังสหรัฐถอนตัวออกไป จีนแสดงท่าทีที่จะเข้ามามีบทบาทแทน โดยนายหวัง อี้ รมว.การต่างประเทศจะหารือเรื่องนี้กับชาติพันธมิตร รัสเซีย พร้อมด้วย อินเดีย ปากีสถานและชาติอเมริกากลาง ในการประชุมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ในสัปดาห์หน้า