‘บิ๊กตู่’ ขอทุกฝ่ายร่วมมือพัฒนาประเทศ ชี้โลกโซเชียลอันตรายสุด ทำให้คนแบ่งแยก

“บิ๊กตู่” ตรวจน้ำท่วมอุบลฯ ขอทุกฝ่ายร่วมมือพัฒนาประเทศ ลั่นให้ใครมาหยุดยั้งขัดขวางไม่ได้ ชี้ โลกโซเชียลอันตรายสุด ทำให้คนแบ่งแยก บอกประชาชนกำลังเดือดร้อน น้ำท่วม มีอะไรสำคัญกว่านี้ไหม อย่ามะรุมมะตุ้มกันเวลานี้

เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่จังหวัดอุบลราชธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย ที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาอุทกภัยของเทศบาล ตำบลบ้านกอก อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ด้วยรถยนต์โตโยต้า อัลฟาร์ด หมายเลขทะเบียน กข 2002 อุบลราชธานี มีนายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้การต้อนรับ และกล่าวรายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัย

จากนั้น นายกฯกล่าวว่า ขอสวัสดีทุกท่าน ตนรู้ว่าทุกคนลำบาก ทุกคนเดือดร้อน ก็เป็นห่วงทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากพายุ ส่วนการซ่อมแซมต้องรอให้น้ำลด รัฐบาลมีความห่วงใย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสถาบันทุกพระองค์มีความห่วงใยและมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานสิ่งของช่วยเหลือ และตนมาวันนี้เพราะเป็นห่วงท่าน ทุกอย่างรัฐบาลดูแลให้ตามขั้นตอน กติกา และมาวันนี้เพื่อดูว่าจะทำอะไรให้เพิ่มเติมอีกหรือไม่ รัฐบาลไม่สามารถบังคับใครได้ หลายคนมาบิดเบือนว่ารัฐบาลบังคับโน่นบังคับนี่ แต่รัฐบาลบังคับใครไม่ได้หรอก ยืนยันรัฐบาลจะใช้เม็ดเงินในการดูแลที่เกิดประโยชน์สูงสุด

นายกฯกล่าวว่า วันนี้โลกในโซเชียลที่เปลี่ยนแปลงอันตรายกับเราที่สุด ทำให้เราแบ่งแยกกัน ทำให้เราไม่รักกัน แล้วเราจะรวมพลังกันได้อย่างไร เหมือนไม้ไผ่เป็นซีกหักได้หมด แต่ถ้ามัดรวมเป็นกำก็หักไม่ได้ รัฐบาลมีหน้าที่รวมแขนงไม้ไผ่ให้เป็นกำ และวันนี้ที่ตนมาเพื่อให้กำลังใจท่าน เพื่อสร้างแนวคิดให้กับท่าน เพื่อให้ท่านมาเจอรัฐบาล ซึ่งทางฝ่ายรัฐบาล ทุกพรรคการเมืองรัฐบาลจะช่วยกัน ส่วนของฝ่ายค้านตนก็รับมา อะไรที่เป็นประโยชน์ ทำได้ก็ทำ เพราะถือว่าทำให้ประชาชน วันนี้ฝ่ายรัฐบาลยืนยันจะทำอย่างเต็มที่ เราหยุดยั้งไม่ได้อีกแล้ว ให้ทุกอย่างมาขัดขวางการพัฒนาประเทศไม่ได้ ประชาชนกำลังเดือดร้อน น้ำกำลังท่วม มันมีอะไรสำคัญกว่านี้ไหม มี แต่ใช้วิธีการอื่นก็ได้ ไม่ใช่ทุกอย่างมะรุมมะตุ้มกันเวลานี้ ตนก็ไม่ทราบว่าทำเพื่ออะไรเหมือนกัน ท่านต้องเข้าใจ สิ่งที่ตนพูดจริงหรือไม่จริง ตนบังคับใครไม่ได้ เพียงอาจจะไม่เข้าใจกันบ้างก็ไม่เป็นไร

นายกฯกล่าวว่า วันนี้ตนมาเพื่อรับผิดชอบ เพื่อให้แนวทางการทำงานกับข้าราชการทุกคน ทั้งการเมือง ทหาร พลเรือน ตำรวจ ต้องทำเพื่อคนไทย มีความโปร่งใส อย่าไปสร้างความเกลียดชังในโซเชียล หรือในการพูดจายุแยงตะแคงรั่วกันนักเลย ดังนั้น คนที่จะแก้ปัญหานี้ได้คือรัฐบาล และใครเป็นรัฐบาล ก็ตน จะมุ่งหวังให้การแก้ไขอย่างที่ตนพูดแก้ได้ แต่ต้องใช้เวลา เพราะการใช้งบประมาณต้องมีระเบียบ ไม่อย่างนั้นพวกตนก็ติดคุกหมด สงสารตนบ้างแล้วกัน ถ้าใช้ไม่ถูกก็ติดคุก สงสารเขาสิ ติดคุกอยู่สงสารเขาไหมล่ะ พร้อมกันนี้ นายกฯได้ถามประชาชนว่า เราต้องรักกันใช่ไหม ต้องไม่ทะเลาะกันใช่ไหม เราต้องฟังคนที่พูดความจริงใช่ไหม โดยประชาชนตอบว่าใช่ นายกฯกล่าวต่ออีกว่า หน่วยราชการต้องช่วยกัน ถ้าบอกทุจริตอย่างเดียวก็คงไม่ต้องทำอะไร

จากนั้นนายกฯแนะนำคณะและทีมโฆษกที่มาจาก 3 พรรคการเมืองแก่ประชาชน ก่อนกล่าวว่า ทีมโฆษกมาจาก 3 พรรค รัฐบาลก็มีหลายพรรค เรื่องพรรคก็พรรคไป แต่รัฐบาลก็ต้องทำงานร่วมกัน ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีในเวลาอันสั้น ก่อนจะถามชาวอุบลฯว่า รักนายกฯบ้างไหม ไม่รักก็ไม่เป็นไร ฉันก็รักเธออยู่แล้ว

จากนั้นนายกฯได้มอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชน จำนวน 1,000 ชุด และเดินตรวจสภาพน้ำท่วมในจุดดังกล่าว โดยมีอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาต้อนรับด้วย อาทิ นายโกวิทย์ ธรรมานุชิต อดีตผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี เขต 2 นายอดุลย์ นิลเปรม อดีตผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี เขต 1