วาสนาภินิหาร โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่12 / สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

——————–

วาสนาภินิหาร

—————–

จะเป็นเรื่อง อภิหารทางกฎหมาย

หรือไม่ ไม่ทราบ

ที่หยิบเรื่องต่อไปนี้มานำเสนอ

ก็เพื่อแสดงความ”ยินดี”

หรือเว้าซื่อๆ อิจฉากับเหล่าผู้มี”วาสนาสูง”นี้นั้นแหละ

ยินดีแรก

-ยินดีกับ “แรมโบ้อีสาน” นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ

ที่หลุดคดีก่อความวุ่นวายระหว่างประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่พัทยา เมื่อปี 2552

ด้วยเหตุผลอันเหลือเชื่อ–คดีขาดอายุความ!

ยินดีสอง

ยินดีกับ นางกรุณา ชิดชอบ ที่พ้นความผิด สมัยดำรงตำแหน่งนายก อบจ.บุรีรัมย์ ไปเบิกจ่ายเงิน 59,727,500 บาท ให้สมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์

เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายพาประชาชนไปเชียร์สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

เมื่อ ป.ป.ช. ชี้ว่าไร้ผิดทั้งทุจริตหรือผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ

ไร้มลทินทั้งอาญาและแพ่ง

ส่วนเงิน 59,727,500 บาทให้จังหวัดไปไล่ฟ้องคืนเอาเอง

ยินดีสาม

ยินดีกับ 9 ส.ส. ที่รอดข้อหกล่าวหาถือครองหุ้นสื่อ

ส่วน 32 ส.ส.แม้จะต้องถูกไต่สวนต่อไป แต่ก็คงโล่งอกที่ไม่ถูกพักงาน

ไม่ต้องเผชิญชะตากรรมเช่นเดียวกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

ต่างคนต่างวาสนาจริงๆ

ยินดีที่สี่้

ยินดีกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายวิษณุ เครืองาม เจ้าของศัพท์บัญญัติ”อภิหารแห่งกฎหมาย” และคณะกรรมการสรรหาวุฒิสมาชิก ที่แสนลึกลับ

เมื่อ วิปรัฐบาล มีมติ ตีตก ญัตติ ของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ขอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษา ตรวจสอบ การได้มาซึ่ง ส.ว.

โดยอ้างว่า ส.ส.ไม่มีอำนาจเข้าไปก้าวก่ายวุฒิสภา

เป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลม

ทำให้พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธานกรรมการสรรหา และ นายวิษณุ คีย์แมนสำคัญในเรื่องนี้

ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยไปหา อภินิหารมาช่วย

ยินดี จากนี้ ต่อไป มอบให้เป็นการเฉพาะกับ พล.อ.ประวิตรเป็นการเฉพาะ

เรื่องแรก พล.อ.ประวิตร คงต้องขอบคุณ คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ(กตช.) ที่มีมติ ปลดชื่อ ‘บิ๊กโจ๊ก’พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ ‘บิ๊กโจ๊ก’

ให้พ้นจาก คณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจ (อนุฯ ก.ตร.) เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบ ทันควัน

หลังจาก พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธาน กตช. ไปเซ็นแต่งตั้ง เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน

ทำให้ สึนามิต่อต้าน ก่อตัวอย่างรวดเร็ว

เนื่องจากมีกระแสข่าวทำนองว่า จะเกิดอภินิหาร ที่ทำให้บิ๊กโจ๊กหวนกลับสู่วงการตำรวจอีกครั้งหนึ่ง หลังถูกพิษหัวหน้า คสช.และมาตรา 44 ให้พ้นจากการเป็นตำรวจเมื่อวันที่ 9 เมษายน

โดยมีตำแหน่ง อนุฯ ก.ตร. เป็นเครื่องกรุยทาง

ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น ทำให้ ก.ตร.ชิงปลดบิ๊กโจ๊ก

ทำให้เผือกร้อนพ้นจากมือพล.อ.ประวิตร หวุดหวิด

นอกจากนี้แล้ว ที่พล.อ.ประวิตร ต้องขอบคุณ

คือ ป.ป.ช.ที่ต้องออกมา กำหนด บรรทัดฐาน “การยืมของเพื่อน”

ที่ทิ่มแทงหัวใจพล.อ.ประวิตร มาตลอด

ทำให้ ตำบลกระสุนตกเบี่ยงไปที่ป.ป.ช.แทน

โดยเฉพาะข้อนิยาม เรื่อง “ยืมใช้สิ้นเปลือง” และ”ยืมใช้คงรูป”

ทำให้ต่อไปมีช่องไม่ต้องยื่นแสดงทรัพย์สิน”ที่ยืม”จากเพื่อนก็ได้

ที่”รอ” ยินดีอยู่อันหนึ่ง

คือยินดีกับการยืนหยัดของ พล.อ.ประวิตร

คือการเดินหน้าโครงการมอบคืนโฉนดที่ดิน และทรัพย์สิน คืนความสุขให้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม

ที่แม้จะถูกนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ จากประชาธิปัตย์ ตามกระทุ้งหนักหน่วงว่า”ลวง”โลก”

แต่เชื่อว่างานนี้แม้จะน่าเกลียดถูกหา ว่าหาเสียงบนโฉนดที่ดินคนจน

แต่ที่สุดคนมี”วาสนาดี”คง สนธิกับ “อภินิหาร”เป็น “วาสนาภิหาร”

รอดในที่สุด

อ้อ ฝากถึงเหล่าผู้มากมี “วาสนาภิหาร”

จะแบ่งบุญวาสนา และอภิหารไปช่วย “จ่านิว”

ที่ถูกคนใจอำมหิตรุมกระทืบ

ให้พ้นเจ็บ พ้นพิการ บ้างก็ไม่ว่ากัน

——————