4ปีที่ไม่มี“ฉายานักการเมือง” นักข่าวเหงาปาก นักการเมืองเหงาใจ ปี55 เผ็ดขนาดไหน ย้อนดู!

AFP PHOTO / PORNCHAI KITTIWONGSAKUL

เป็นประจำทุกปีที่สื่อมวลชนประจำรัฐสภาจะมีการตั้งฉายาแก่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อสะท้อนถึงการทำงานของผู้แทนปวงชนชาวไทยตลอดทั้งปีที่ผ่านมา

แต่ในปี 2556 รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้มีการประกาศยุบสภา เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 เพื่อเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ทำให้อยู่ในสถานะรัฐบาลรักษาการ เพื่อรอรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งตามหลักปฏิบัติที่ผู้สื่อข่าวทำเนียบฯ กำหนดไว้สืบเนื่องตลอดมา กรณีรัฐบาลรักษาการ รัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหาร หรือในสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่ปกติจะไม่มีการตั้งฉายาในปีนั้น ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบฯ จึงมีมติงดการตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี 2556

กระทั่งวันที่ 22 พ.ค. 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น ได้ทำการรัฐประหารในนามคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงนับเป็นอีกปีหนึ่ง ที่ไม่มีการตั้งฉายานักการเมือง

จากปี 2556 ถึง 2559 เป็น 4 ปี ที่นักข่าวทำเนียบฯ ไม่ได้ตั้งฉายานักการเมือง จนหลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่าบรรยากาศตอนนั้นเป็นอย่าไร “มติชนสุดสัปดาห์” ชวนย้อนดูฝีปากนักข่าวในปี 2555 ว่าจะจัดใหญ่ไฟกะพริบขนาดไหน! ดังต่อไปนี้

Thai Prime Minister Yingluck Shinawatra (front C) poses with members of her cabinet at Government House in Bangkok on August 10, 2011. Thailand's new Prime Minister Yingluck Shinawatra finalised her new cabinet and took the oath of allegiance to the Thai King, leaving out controversial leaders of the "Red Shirt" protest movement which helped propel her to power. AFP PHOTO / PORNCHAI KITTIWONGSAKUL / AFP PHOTO / PORNCHAI KITTIWONGSAKUL
AFP PHOTO / PORNCHAI KITTIWONGSAKUL

ฉายารัฐบาล :
พี่คนแรก

ความหมาย : ล้อคำมาจากนโยบายที่ขึ้นชื่อของรัฐบาล เช่น รถคันแรก บ้านหลังแรก แต่ด้วยความที่รัฐบาลต้องทำงานบริหารประเทศ โดยมีเงาของพี่ชาย พี่สาว พาดผ่านเข้ามา รวมไปถึงปัญหาต่าง ๆ ก็มาจากเรื่องของพี่ ทั้งปัญหาของบ้านเมือง ข้าวของแพง ปัญหาปากท้องของชาวบ้าน ข้อครหาทุจริตไม่ได้รับการแก้ไข หรือ ชี้แจงอย่างชัดเจน เรียกได้ว่า เอะอะอะไรก็พี่ เรื่องของพี่ต้องมาก่อน ต้องมาเป็นอับดับแรก

วาทะแห่งปี 27 พ.ย.55 :
“คำว่าลอยตัวนั้นต่างกับคำว่าไม่รับผิดชอบ”

วาทะดังกล่าว มาจากกรณีที่นายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา หลังถูกกล่าวหาเรื่องการขาดความรับผิดชอบ ลอยตัวเหนือปัญหา ไม่ชี้แจงประเด็นที่ถูกกล่าวหา โดยเฉพาะเรื่องนโยบายรับจำนำข้าว โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ที่ถูกตั้งข้อสังเกตถึงความไม่โปร่งใส และ เอื้อประโยชน์พวกพ้อง

ฉายารัฐมนตรี

AFP PHOTO / PORNCHAI KITTIWONGSAKUL
AFP PHOTO / PORNCHAI KITTIWONGSAKUL

1. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ได้ฉายา “ปูกรรเชียง”

ความหมาย : ล้อจากชื่อเล่นของนายกฯ คือ “ปู” ซึ่งลักษณะของปู คือ เดินเซไปเซมา ไม่ตรงทาง ในการบริหารงานของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ต้องแบกภาระ และใบสั่งจากพี่ชายชื่อทักษิณ พี่สาว (เจ๊ ด.) แม้แต่คนรอบข้างก็คอยลากไปลากมา ทำงานไม่เห็นผลงานที่เป็นรูปธรรม ได้แต่เดินโชว์ไปโชว์มา เมื่อมีปัญหาทางการเมือง ก็มักจะตีกรรเชียง ลอยตัวหนีปัญหา

Chalerm Yoobamrung, chairman of the Puea Thai party speaks during the debate of no-confidence motion at Parliament in Bangkok on March 19, 2009. Thai premier Abhisit Vejjajiva faced the first concerted bid to topple his fledgling government March 19 as lawmakers debated an opposition no-confidence motion against him and five ministers. AFP PHOTO/PORNCHAI KITTIWONGSAKUL / AFP PHOTO / PORNCHAI KITTIWONGSAKUL
AFP PHOTO / PORNCHAI KITTIWONGSAKUL

2. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี
ได้ฉายา “กันชนตระกูลชิน”

ความหมาย : บอดี้การ์ดคอยปกป้องนายกฯ และ นายใหญ่ โดยเฉพาะคนตระกูลชินวัตร ทุกรูปแบบทั้งงานในสภา และม๊อบต้านรัฐบาล เดินหน้าท้าชนทุกเรื่อง แต่กลัวการลงไปแก้ปัญหาภาคใต้ ผลงานโดดเด่น คือการปราบปรามยาเสพติด

AFP PHOTO / PORNCHAI KITTIWONGSAKUL
AFP PHOTO / PORNCHAI KITTIWONGSAKUL

3. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ได้ฉายา “ลูกไก่ไวท์ไล”

ความหมาย : เป็นถึงรองนายกฯ ที่กำกับดูแลงานด้านเศรษฐกิจของประเทศ แต่กลับดิสเครดิตตัวเองจากกรณี โกหกสีขาว คือ การตั้งเป้าทางเศรษฐกิจเกินจริง จนถึงถูกตราหน้าว่า ขี้โกหก เหมือนเด็กเลี้ยงแกะส่วนคำว่าลูกไก่ ล้อจากชื่อเล่น “โต้ง” แต่เนื่องจากผลงาน และประสบการณ์ ทางการเมืองยังไม่เด่นชัด และเก่งกาจตามที่ถูกคาดหวัง จึงเป็นได้เพียงลูกไก่ ไม่ใช่ไก่โต้ง

5-19

4. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ได้ฉายา “ตามล่าหน้าหล่อ”

ความหมาย : ตำแหน่งใหญ่โตแต่กลับไม่มีผลงานโดดเด่นด้านความมั่นคง ผลงานเป็นที่ประจักษ์เพียงอย่างเดียว คือ การไล่ล่า อดีตนายกฯ หน้าหล่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อถอดยศ กรณีหนีการเกณฑ์ทหาร นอกจากนี้ ยัง ถูกหลานโอ๊ค “พานทองแท้ ชินวัตร” โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุค สั่งสอน ข่าวลอบทำร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งๆ ที่ พานทองแท้ เป็นเพียงเด็ก ที่ผ่านการเรียน ร.ด.มาเท่านั้น แต่สามารถสั่งสอนคนระดับนายพลได้

S1

5. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
ได้ฉายา “ไพร่เทียม”

ความหมาย : เป็นโควต้าหนึ่งเดียวของ นปช. คนเสื้อแดง ที่ได้เป็น รัฐมนตรี แม้ในการปรับ คณะรัฐมนตรีล่าสุด ก็ยังคงเป็นได้เป็นรัฐมนตรี ส่งผลให้ นายจตุพร พรหมพันธ์ 1 ในแกนนำ นปช. ที่ได้รับการคาดหมาย จะได้รับตำแหน่งต้องพลาดหวัง ขณะที่ผลงานไม่เด่นชัด มีชัดเจนเพียงการพูดเก่ง ดีแต่ปาก ขณะที่เมื่อมาเป็นรัฐมนตรี กลับใช้ชีวิต และการทำงาน ลักษณะอำมาตย์ ไม่ต่างจากคำว่าไพร่เทียม

260930

6. นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ได้ฉายา “บุญทรุด”

ความหมาย : รัฐนตรีที่รับผิดชอบนโยบายหลักของรัฐบาล คือ รับจำนำข้าว การแก้ปัญหา สินค้า ราคาแพง แต่กลับถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ โดยเฉพาะเรื่องการรับจำนำข้าว แทนที่จะเป็นผลงาน กลับกลายเป็นจุดอ่อน ให้ถูกโจมตี ข้อกล่าวหาต่าง ๆไม่สามารถชี้แจงได้ อาทิ สัญญาซื้อขายข้าว แบบ จีทูจี ขณะเดียวกันกลับถูกมองว่า ที่ยัสามารถเป็นรัฐมนตรีอยู่ได้เพราะเป็นเด็กเจ๊ ด.

13520801521352080577l

7. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ได้ฉายา “ด.ดันดี”

ความหมาย : เด็กเจ๊แดง ผลงานไม่เป็นที่ปรากฎ แต่ไม่เคยถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรี ยึดเก้าอี้ได้เหนียวแน่น แถมล่าสุด ยังไต่ระดับ ขึ้นมาเป็น รัฐมนตรีว่าการเลยทีเดียว เชื่อว่ามีแรงดันดีจากเจ๊ด.อีกคน

8. นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ได้ฉายา “โฟร์แมนสแตนด์บาย”

ความหมาย : เป็นรัฐมนตรีน้องใหม่ และเป็นที่คาดหวังของรัฐมนตรีน้ำดี ซึ่งถูกมอบหมายให้ทำงานสารพัด ไฟแรง เป็นคนเก่ง ประกาศไม่ขอยุ่งการเมือง เร่งผลักดันงานด้านคมนาคม รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าต่างๆ เป็นคนที่มีหุ่นล่ำทรมานใจสาวๆ

14301123721430112412l

9. นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี
ได้ฉายา “ปั้นน้ำเป็นทุน”

ความหมาย : ผลงานโดดเด่น คือรับผิดชอบการแก้ปัญหาน้ำท่วม และ เนื่องจากปีนี้น้ำไม่ท่วม มั่นใจว่าเป็นฝีมือของตนเอง จึงคุยโม้ และ แอคอ๊าท โดยเฉพาะเมื่อได้รับการเลื่อนขั้นจากรัฐมนตรี ขึ้นเป็นรองนายกฯ ที่ได้ดูแลโปรเจ็คน้ำมูลค่ากว่า 3.5 แสนล้าน

10. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ได้ฉายา “สิงห์สำรอง”

ความหมาย : สัญลักษณ์ของกระทรวงมหาดไทย คือสิงห์ แต่เส้นทางการเข้ามาทำหน้าที่ของนายจารุพงษ์ ทั้งตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถูกมองว่า เป็นเพียงหุ่นเชิด ไม่ใช่ตัวจริง แกทั้งเป็นการเดินตามรอยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่เจอวิกฤติการเมืองจนต้องลาออกไป จึงถูกมองว่าเป็นได้เพียงสิงห์สำรองเท่านั้น

ถ้าทุกอย่างจะเป็นไปตามโรดแมป คือมีการเลือกตั้งในปี 2560 เราจะได้เห็นฝีปากนักข่าวทำเนียบฯ กันอีกครั้ง ในเร็ววันนี้…