ยานยนต์ สุดสัปดาห์ / สันติ จิรพรพนิต/ ‘มินิ’ – ‘ฮอนด้า เอชอาร์-วี’ ถึงเวลา ‘ไมเนอร์เชนจ์’

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ / สันติ จิรพรพนิต [email protected]

 

‘มินิ’ – ‘ฮอนด้า เอชอาร์-วี’

ถึงเวลา ‘ไมเนอร์เชนจ์’

 

ปิดฉากไปเรียบร้อยงาน “ฟาสต์ ออโต้ โชว์ ไทยแลนด์ 2018” งานคาร์โชว์กลางปีโดย “พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ” กูรูรถยนต์ชื่อดังของเมืองไทยที่เป็นประธานจัดงาน

จุดเด่นของงานนี้ไม่พ้นรวบรวมรถใหม่หลายค่าย รวมถึงรถมือสองจากเต็นท์ที่มีชื่อเสียงและการันตีคุณภาพมาออกบู๊ธรวมกัน ถือเป็นคาร์โชว์งานแรกของไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะแบบนี้

การจัดงานกลางปีลักษณะนี้ถือว่าทำให้ข่าวสารด้านรถยนต์สะพัดมากขึ้น ต่างจากสมัยก่อนที่มีคาร์โชว์ใหญ่ 2 งานคือ “มอเตอร์โชว์” ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน และ “มอเตอร์ เอ็กซ์โป” ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม

ปัญหาที่เกิดกับนักข่าวสายรถยนต์และผู้บริโภคคือรถใหม่ๆ ทั้งโมเดลเชนจ์ หรือไมเนอร์เชนจ์ ส่วนใหญ่เลือกที่จะเปิดตัวช่วงใกล้ๆ มีงานคาร์โชว์ใหญ่ทั้ง 2 งานนี่แหละครับ

ทำให้ช่วงหลังจบงาน “มอเตอร์โชว์” วงการรถยนต์บ้านเราจะหงอยๆ เหงาๆ สักหน่อย

จึงในช่วงหลังๆ เราจะเห็นว่ามีรถใหม่ๆ เปิดตัวในช่วงกลางปีมากขึ้น

อย่างก่อนงาน “ฟาสต์ ออโต้ โชว์” มีหลายรุ่นทีเดียวที่ถือโอกาสเปิดตัว ไม่ว่าจะเป็น “เอ็มจี 3” หรือนิสสัน อวดโฉม “เอ็กซ์เทรล ลิมิเต็ด อิดิชั่น” ที่เสริมชุดแต่งดุดันมากขึ้น

และอีกรุ่นที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ที่แต่เดิมคาดว่าน่าจะเปิดตัวตั้งแต่ต้นปี แต่ก็มาเปิดตัวก่อนงานนี้ไม่นาน

นั่นคือ “ฮอนด้า เอชอาร์-วี” รุ่นปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์

 

ที่บอกว่าฮอนด้า เอชอาร์-วี ถูกคาดการณ์ว่าจะเปิดตัวช่วงต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากประเมินว่าคงออกมาเตะสกัด “โตโยต้า ซี-เอชอาร์” รถครอสโอเวอร์ในเซ็กเมนต์เดียวกันที่เปิดตัวช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยอวดโฉมครั้งแรกในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ช่วงปลายปี 2560

แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จนก่อนงาน “ฟาสต์ ออโต้ โชว์” นี่แหละ ที่ฮอนด้าถือเป็นจังหวะเปิดตัวและวางขายในงานนี้เป็นครั้งแรกเสียเลย

ที่บอกว่าเป็นงานแรก เพราะแม้จะเปิดตัวแล้วแต่ฮอนด้าจะนำรถลงโชว์ในโชว์รูมทั่วประเทศในวันที่ 8 กรกฎาคมนะครับ เรียกว่าทิ้งช่วงไปนานทีเดียว

ส่วนใครที่ไม่ได้ไปจองในงานนี้ยังมีอีกงานที่จัดตามมาไล่ๆ กันคือ “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ออโตซาลอน 2018” ระหว่างวันที่ 4-8 กรกฎาคม ที่อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ไปจับจองกันได้เช่นกัน

สำหรับ “เอชอาร์-วี” ถือว่าเป็นรถครอสโอเวอร์ หรือเอสยูวีขนาดเล็ก ที่เข้ามาสร้างปรากฏการณ์สำคัญให้เมืองไทยอย่างมาก เพราะสมัยก่อนคนไทยเราคุ้นเคยแต่รถขนาดกลางอย่างฮอนด้า ซีอาร์-วี หรือนิสสัน เอ็กซ์เทรล ฯลฯ

ส่วนเอสยูวีขนาดเล็กแทบไม่เคยมีมาก่อน กระทั่งเอชอาร์-วี นี่แหละ และพลอยทำให้เซ็กเมนต์นี้ในเมืองไทยคึกคักสุดๆ มีรถอีกหลายรุ่นทยอยเข้ามาทำตลาด

แต่เอชอาร์-วี ยังเป็นรถยอดนิยมครองแชมป์ยอดขายสูงสุดในกลุ่มเอสยูวี 3 ปีซ้อน ยอดขายสะสมรวมกว่า 66,000 คัน

เรียกว่าตั้งแต่ปี 2557 ที่เข้ามาทำตลาดก็เปรี้ยงปร้างโดยตลอด

กระทั่งเริ่มมีรถรุ่นใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดมากขึ้น เช่น “เอ็มจี แซดเอส” และรถหลายรุ่นก็ปรับโฉมไปแล้ว เช่น “มาสด้า ซีเอ็กซ์-3” รวมทั้งการมาถึงของโตโยต้า ซี-เอชอาร์

“เอชอาร์-วี” จึงถึงเวลาปรับโฉมครั้งใหญ่เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด

 

ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ ปรับภายนอกเล็กน้อย ที่เห็นชัดๆ คือกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ชนหน้า-หลังใหม่ ไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED

ส่วนภายในเพิ่มความสปอร์ตด้วยเบาะนั่งดีไซน์ใหม่ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ

ที่เติมเข้ามาได้น่าสนใจเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัย เช่น ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda Lane Watch) ระบบเตือนและช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ (City Brake Active System) และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมตอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)

ส่วนอื่นๆ ยังมีครบ ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Hold ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) กล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมอง 3 ระดับ

นอกจากนี้ยังมีรุ่นพิเศษ RS แต่งหล่อสไตล์สปอร์ต กระจังหน้าดีไซน์ใหม่โครเมียมรมดำแบบสปอร์ต ชายกันกระแทกด้านข้างสีดำแบบสปอร์ต มือจับเปิดประตูด้านหน้าแบบโครเมียมรมดำ กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ต

แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้วแบบสปอร์ต และสัญลักษณ์ RS บนฝากระโปรงท้าย

ขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที มาพร้อมกับระบบเกียร์ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม รองรับพลังงานทางเลือก E85

รวมทั้งส่งสีใหม่ “แดงแพสชั่น” (มุก) เพิ่มเติมให้เลือก ต้องบอกว่าแดงดีสีไม่ตกจริงๆ

มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น E ราคา 949,000 บาท รุ่น EL ราคา 1,059,000 บาท และรุ่น RS ราคา 1,119,000 บาท

 

นอกจากการเปิดตัวรถซีเอช-อาร์แล้ว ก่อนหน้านี้ที่ปรับโฉมเช่นกัน เป็นรถยอดนิยมของเศรษฐีวัยรุ่นเมืองไทย

นั่นคือ “มินิ”

คราวนี้ปรับโฉม 2 รุ่นใหม่เลยทั้ง “มินิ แฮทช์” ที่มี 3 รุ่นย่อยคือมินิ แฮทช์ 3 ประตู มินิ แฮทช์ 5 ประตู มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ แฮทช์ 3 ประตู และ “มินิ คอนเวิร์ตทิเบิล” หรือรุ่นเปิดประทุน

จุดเด่นไม่พ้นโคมไฟหน้าแบบฮาโลเจนในรุ่นคูเปอร์ และคูเปอร์ ดี ที่เน้นรายละเอียดด้วยพาเนลสีดำด้านในโคมไฟ และการปรับโฉมไฟหน้าแบบวงแหวนเต็มวงในดีไซน์ใหม่ ไฟต่ำและไฟสูงด้วยไฟหน้า LED พร้อมด้วยไฟ LED Daytime Running Light และฟังก์ชั่นไฟเลี้ยวภายในวงแหวนเดียวกัน โดยไฟจะเปลี่ยนสีจาก “ขาว” เป็น “ส้ม” ขณะเปิดไฟเลี้ยว

เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Adaptive LED Headlights ปรับความสว่างของไฟหน้าแบบอัตโนมัติตามสภาพเส้นทาง และปรับองศาไฟขณะเข้าโค้ง มาพร้อมกับเทคโนโลยี Matrix light เปิด-ปิดระบบไฟส่องสว่างโดยอัตโนมัติ

ไฟท้ายโดดเด่นด้วยรูปทรงและเส้นไฟ LED ลายธงยูเนี่ยน แจ๊ก แห่งสหราชอาณาจักร ไฟเบรกใช้เส้นแนวตั้ง ส่วนไฟเลี้ยวจะเป็นเส้นแนวนอนกึ่งกลาง และไฟท้ายจะเปิดเป็นเส้นแนวทะแยง เมื่อไฟหน้าเปิดอยู่ ทำให้ภาพรวมของท้ายรถรุ่นปรับโฉมใหม่นี้มีความสวยงามมากขึ้น

รุ่นมินิ คอนเวิร์ตทิเบิล ภายในเพิ่มตัวเลือกของสีเบาะนั่งและห้องโดยสารทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ Leather Chester, Leather Malt Brown, Leather Cross Punch Carbon Black และล่าสุดกับ Leather Lounge Satellite Grey

 

เครื่องยนต์และเกียร์ปรับใหม่

รุ่นมินิ แฮทช์ มาพร้อมกับขุมพลังเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo โดยมีให้เลือกสรรทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ในรุ่นคูเปอร์ และคูเปอร์ ดี

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2 ลิตรในรุ่นคูเปอร์ เอส ที่ให้พละกำลังได้สูงสุดถึง 192 แรงม้า ควบคู่กับแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร

ระบบเกียร์รุ่นคูเปอร์และคูเปอร์ เอส ใช้เกียร์อัตโนมัติ Steptronic 7 สปีด คลัตช์คู่

ส่วนจอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ แฮทช์ เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ตอบสนองรวดเร็วในสไตล์รถแข่ง

สีภายนอกเพิ่มใหม่อีก 3 สี คือ สีเทา Emerald Grey Metallic สีน้ำเงิน Starlight Blue Metallic และสีส้ม Solaris Orange Metallic

สนใจรุ่นไหนแวะไปเยี่ยมๆ มองๆ กันได้