‘ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม’ ทีมไร้พ่ายที่เหนือกว่า ‘อาร์เซนอล’

ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม ทีมในลีกมาเลเซีย กลายเป็นทีมที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากสื่อทั่วโลก หลังจากการที่เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศที่เหมา 4 แชมป์ ได้ 2 ฤดูกาลติดต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย ซูเปอร์ลีก, มาเลเซีย เอฟเอคัพ, มาเลเซีย คัพ และแชริตี้ ชิลด์ เรียกได้ว่าไม่แบ่งให้ทีมไหนได้แชมป์เลย

ยะโฮร์ได้แชมป์ลีกมาแล้ว 10 ฤดูกาลติดต่อกัน ที่สำคัญ 2 ซีซั่นหลังสุด พวกเขายังไม่แพ้ใครในเกมลีก ตลอด 47 นัดในลีก ชนะ 41 เกม เสมอ 6 เกม ฤดูกาล 2022 ลงเล่น 22 เกม ชนะ 17 เสมอ 5 ส่วนซีซั่นนี้ลงเล่น 25 นัด ชนะ 24 เสมอ 1 เหลือเกมลีกนัดปิดฤดูกาลกับปีนัง ในสุดสัปดาห์นี้

ถ้าไม่แพ้ก็จะกลายเป็นสโมสรที่ไร้พ่ายได้ 2 ซีซั่นติดทีมแรกของประเทศ

เมื่อเทียบกับอาร์เซนอลที่เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แบบไร้พ่าย 38 เกม เมื่อฤดูกาล 2003-2004 มาตรฐานอาจจะต่างกัน แต่ตัวเลขของยะโฮร์ดูหรูหรากว่า

 

หนึ่งในกำลังสำคัญของยะโฮร์ใน 3 ฤดูกาลหลังสุด คือ หง หว่าน มิดฟิลด์ตัวรับวัย 23 ปี ลูกครึ่งจีน-มาเลเซีย ที่ไปเกิดและเติบโตที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก่อนจะเลือกกลับมาเล่นฟุตบอลที่แผ่นเกิดของแม่ เมื่อปี 2021

หงเคยเป็นเด็กฝึกในอคาเดมีของชาร์ลตัน แอธเลติก, เยโอวิล ทาวน์ และวูล์ฟแฮมป์ตัน ก่อนจะถูกดันขึ้นชุดใหญ่ของทีมหมาป่า แต่การต้องนั่งรอโอกาสลงเล่นในพรีเมียร์ลีกที่ยากมากๆ ทำให้ตัดสินใจจะไปลุยลีกมาเลเซีย

หงบอกว่าแทบไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับฟุตบอลมาเลเซียเลย แค่รู้ว่ายะโฮร์เป็นทีมที่ได้มาแล้วทุกแชมป์ในประเทศ เมื่อได้มาสัมผัสจริงๆ จะรู้ว่าลูกหนังมาเลย์เต็มไปด้วยคุณภาพ จึงต้องปรับตัวให้เร็วที่สุด

การมีทีมอย่างยะโฮร์ช่วยให้สร้างนักเตะที่มีศักยภาพสูงขึ้นมาได้

และช่วยให้อันดับโลกของทีมชาติมาเลเซียเริ่มขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ

 

นับตั้งแต่ที่ ตุนกู อิสมาอิล อิดริส มกุฎราชกุมารแห่งรัฐยะโฮร์ มาเป็นเจ้าของทีมในปี 2016 ก็ได้มีการยกระดับสาธารณูปโภคต่างๆ ของสโมสรให้ทันสมัยมากขึ้น สร้างสนามเหย้าความจุ 40,000 ที่นั่ง ปิดใช้ครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2020 เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ผลงานในสนามก็ต้องหรูหราเช่นกัน

หงบอกว่า เจ้าของสโมสรให้ทุกอย่างที่นักเตะต้องการ แต่ผลงานในสนามก็ต้องดีมากด้วย เขาไม่เคยพอใจกับการชนะ 1-0 หรือ 2-0 ถึงแม้ว่าปีนี้จะชนะขาดลอยมาหลายนัด แต่ประธานก็ยังต้องการมากกว่านั้น

หลังผ่านไป 25 นัดของเกมลีก ยะโฮร์ยิงไป 92 ประตู เสีย 7 ประตูเท่านั้น ประตูบวกถล่มทลายถึง 85 ลูก

อย่างไรก็ตาม อดีตแข้งวูล์ฟบอกว่า ถึงจะสนุกกับการชนะแบบขาดลอย 4-5 ประตู แต่ก็ไม่มีใครจะชอบดูฟุตบอลที่มีแต่ทีมเดียวได้แชมป์ หลายทีมยอมแพ้ก่อนจะลงเตะกับยะโฮร์ด้วยซ้ำ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าอายเล็กๆ เพราะถ้าอยากให้ลีกพัฒนา ทุกคนก็ต้องช่วยกันทำให้เกมสูสีมากขึ้น

และเพื่อทำให้คุ้นชินกับการต้องไปเจอมาตรฐานที่สูงของเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกด้วย

 

หงทิ้งท้ายว่า นักเตะอังกฤษมักจะจดจ้องไปกับการเล่นฟุตบอลในอังกฤษเท่านั้น แต่อย่าลืมว่าโอกาสยังมีอยู่ในทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะในยุโรป เอเชียหรืออเมริกา การมีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย จะเป็นข้อได้เปรียบในการเล่นฟุตบอลอาชีพ ซึ่งตัวเองได้ลิ้มลองแล้ว และรู้สึกมีความสุขไปกับมัน

ความกระหายชัยชนะของยะโฮร์ อาจจะทำให้เราได้เห็นทีมฟุตบอลจากอาเซียนคว้าแชมป์เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ก็เป็นได้

เมื่อถึงเวลานั้นไม่ใช่ช่วงเวลาที่วงการฟุตบอลไทยจะมามัวอิจฉา แต่ต้องถามตัวเองว่า ทำอย่างไรถ้าอยากจะไปจุดนั้นได้บ้าง •

 

Technical Time-Out | จริงตนาการ

[email protected]