ชั่วโมงนี้ต้องบอกว่าเป็นนักกีฬาไทยที่กำลังร้อนแรงสุดสุดสำหรับ “เทพบิว” ภูริพล บุญสอน นักกรีฑาทีมชาติไทย ดาวรุ่งวัยเพียง 17 ปี หลังจากสร้างผลงานกระหึ่มเวทีระดับเอเชีย ในมหกรรมการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจวเกมส์” ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน

เทพบิว-ภูริพล ประเดิมศึกเอเชี่ยนเกมส์เป็นครั้งแรกของตัวเองในกรีฑา 3 รายการทั้งวิ่ง 100 เมตรชาย, วิ่ง 200 เมตรชาย และวิ่งผลัด 4 x 100 เมตรชาย โดยหนุ่มน้อยรายนี้สามารถกระชากคว้าเหรียญรางวัลมาคล้องได้สำเร็จ จนสปอตไลต์ทุกดวงของเอเชียต่างจับจ้องมาที่ลมกรดดาวรุ่งไทยที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเกินวัยของตัวเอง…

แต่เส้นทางของภูริพลกว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายคนคิด เพราะต้องทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมอย่างหนักตั้งแต่เด็ก และไม่ได้มีเวลาว่างเล่นเหมือนกับเด็กๆ ทั่วไป

แต่เขาทุ่มเทชีวิตให้กับการเล่นกีฬากรีฑาที่ถือเป็นความสุขของเขาที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ จนกลายเป็นความหวังของทัพกรีฑาไทย

 

ชีวิตของ ภูริพล บุญสอน ถือกำเนิดเกิดที่จังหวัดสุรินทร์ แต่มาเติบโตที่จังหวัดสมุทรปราการ ศึกษาที่โรงเรียนเซนต์ราฟาแอล ตั้งแต่สมัยชั้นประถมศึกษาตอนต้น ก่อนเริ่มแข่งขันวิ่งครั้งแรกเมื่ออายุเพียง 10 ปี จนกระทั่งขึ้นสู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ย้ายไปโรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ

ชื่อของภูริพล แจ้งเกิดแบบเต็มตัวในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 ที่จังหวัดศรีสะเกษ ด้วยวัยขณะนั้นเป็นแค่หนุ่ม 16 ปีเท่านั้น แต่กลับสร้างความเซอร์ไพรส์ในกรีฑาระดับชาติ จากการทำลายสถิติประเทศไทย ในรายการวิ่ง 100 เมตร ด้วยเวลา 10.19 วินาที และวิ่ง 200 เมตร ด้วยเวลา 20.58 วินาที

จากผลงานอันร้อนแรงของเด็กหนุ่มรายนี้ ทำให้ *สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ* ไม่ลังเลที่จะเรียกตัวภูริพลเข้ามาติดทีมชาติชุดใหญ่ในทันที

พร้อมกับได้รับโอกาสเข้าร่วมทำศึกมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ซึ่งถือเป็นรายการระดับนานาชาติครั้งแรกของเขา

แม้ว่าจะเป็นเวทีนานาชาติระดับอาเซียนที่มีคู่แข่งแข็งแกร่งขึ้น ก็ไม่สามารถทำให้ “บิว” หวาดหวั่นเกรงกลัวแม้แต่น้อย แต่เขาแปรเปลี่ยนเป็นพลังบวกให้ตัวเองสร้างผลงานกวาด 3 เหรียญทองซีเกมส์ จากรายการวิ่ง 100 เมตร, วิ่ง 200 เมตร และวิ่งผลัด 4 x 100 เมตรชายมาครองแบบยิ่งใหญ่ พร้อมกับทุบสถิติซีเกมส์กระจาย

เวทีของเขาเริ่มใหญ่ขึ้นยิ่งกว่าเดิมจากระดับชาติมาสู่ระดับนานาชาติ มาจนถึงระดับโลก ซึ่งบิวได้เข้าร่วมการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลก 2022 รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ที่ประเทศโคลอมเบีย โดยทำผลงานคว้าอันดับ 4 และแม้ว่าจะไม่มีเหรียญรางวัลกลับมา แต่ทุบสถิติวิ่ง 100 เมตรอีกครั้งด้วยเวลา 10.09 วินาที

และถือเป็นนักวิ่งที่ทำเวลาดีที่สุดของเอเชียในครั้งนั้น

 

อย่างไรก็ตาม เส้นทางบนลู่วิ่งของภูริพลไม่ได้ราบเรียบเสมอไป เมื่อเขาได้เข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา พร้อมกับแบกความคาดหวังจากการเป็นแชมป์เก่าถึง 3 เหรียญทอง แต่ท้ายที่สุดแล้วต้องเจอกับความผิดหวังครั้งใหญ่ของชีวิตนักวิ่ง…

ภูริพลเกิดอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อกระตุกในระหว่างการแข่งขันวิ่ง 200 เมตร ทำให้ชวดป้องกันแชมป์รายการนี้ อีกทั้งเขายังต้องถอนตัวจากการแข่งขันรายการที่เหลือทั้งหมด และไม่มีเหรียญรางวัลกลับบ้านเลย ซึ่งความผิดหวังของเขาไม่ได้แสดงออกทางใบหน้าให้ทุกคนได้เห็น

แต่เขาได้นำความผิดหวังมากลายเป็นพลังปลุกให้ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งยิ่งขึ้น จนสามารถกลับมาคว้าเหรียญในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ด้วยการเป็น 1 ใน 4 นักวิ่งทีมผลัดไทยที่คว้าเหรียญทองวิ่ง 4 x 100 เมตรมาครองได้อย่างน่าประทับใจ

 

ในศึกเอเชี่ยนเกมส์ หางโจว “เทพบิว” ระเบิดฟอร์มกระชากเหรียญเงิน วิ่ง 100 เมตร พร้อมกับทำลายสถิติประเทศไทยของตัวเอง ด้วยเวลา 10.06 วินาที ทุบสถิติของตัวเองอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมสำหรับเด็กวัยเพียง 17 ปี แต่ในภาพรวมแล้วเขาก็ยังมีจุดที่ยังต้องแก้ไขโดยเฉพาะเรื่องการออกตัว

“บิว” ภูริพล ระบุว่า เอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ในรายการวิ่ง 100 เมตร คู่แข่งนักวิ่งเจ้าจีนวิ่ง 9.97 วินาที รู้สึกว่าตัวเองก็ไม่ได้ห่างจากเขามาก มีโอกาสลุ้นสถิติให้ต่ำกว่า 10 วินาทีได้ แต่ผลออกมาก็ไม่เป็นไร ใกล้เคียงที่สุดแล้วดีใจมากๆ ในรอบชิงชนะเลิศออกตัวได้ดีขึ้น แต่ยังถือว่าช้ากว่าคู่แข่ง พอตั้งหลักได้ก็พยายามเร่งขึ้นมา พยายามวิ่งให้เป็นตัวเองที่สุด

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทีมงานสตาฟฟ์โค้ชนำโดย “โค้ชอ๊อด” วัฒนา สุวรรณรักษา ผู้ปลุกปั้นภูริพล ได้พยายามแก้ไขจุดอ่อนเรื่องการออกตัวมาโดยตลอด และในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้เขามีพัฒนาการในการออกตัวที่ดีขึ้น ซึ่งได้มีการแก้ไขไปราว 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ก็ยังเหลืออีกบางจังหวะที่จะทำให้เขาสามารถออกตัวได้ดีกว่าเดิม

เพื่อกดเวลาสถิติการวิ่ง 100 เมตร ให้ต่ำกว่า 10 วินาทีคนแรกของทัพกรีฑาไทย

 

ขณะที่ “แฝดเล็ก” พล.ต.ต.ศุภวณัฏฐ์ อาริยะมงคล หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกรีฑาทีมชาติไทย และเลขาธิการสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึง “บิว” ภูริพล บุญสอน ว่า ยังมีจุดที่ต้องแก้ไขเรื่องการออกสตาร์ต ซึ่งที่ผ่านมาทางทีมงานผู้ฝึกสอนได้พยายามแก้ไขในจุดนี้มาตลอด และในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ได้เห็นพัฒนาที่ดีขึ้นของบิวในการออกสตาร์ต

“เท่าที่ประเมินบิวออกตัวได้ดีขึ้น น่าจะแก้ไขไปได้แล้วราว 80 เปอร์เซ็นต์ บิวอายุยังน้อย เราต้องใจเย็น ค่อยๆ พัฒนา แก้ไข ปรับปรุงทีละด้าน รับรองว่า บิวจะวิ่งได้ต่ำกว่า 10 วินาทีแน่นอน” แฝดเล็กกล่าว

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าด้วยวัยยังเด็กทำให้ภูริพลยังมีเวลาในการพัฒนาให้ทวีคูณความแข็งแกร่งขึ้นไปอีก ซึ่งก็จะต้องค่อยๆ พัฒนาแก้ไขปรับปรุงไปทีละด้าน และหลังจากนี้ยังเหลือระยะเวลาอีกยาวนานให้ได้พัฒนาศักยภาพ

และในอนาคตอีกไม่นานเกินรอเชื่อว่า “เทพบิว” ภูริพล บุญสอน จะสร้างกลายเป็นลมกรดไทยคนแรกที่สร้างสถิติประวัติศาสตร์ ด้วยการวิ่งต่ำกว่า 10 วินาที ที่วงการกรีฑาไทยยังไม่เคยมีมาก่อน

และจะเป็นความหวังสำคัญในโอลิมปิกของทัพไทยได้อย่างแน่นอน… •

 

เขย่าสนาม | เมอร์คิวรี่

[email protected]

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022