ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 26 สิงหาคม - 1 กันยายน 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | Technical Time-Out |
เผยแพร่ |
Technical Time-out
จริงตนาการ
‘อาร์เซนอล’ คืนฟอร์ม
หรือแค่ของปลอมให้แฟนดีใจ!
อาร์เซนอล กลายเป็นทีมเดียวในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ ที่สามารถคว้าชัยชนะใน 3 เกมแรกได้ แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 12 เดือนที่แล้ว ในช่วงเวลานี้ ทีมปืนใหญ่ของ มิเกล อาร์เตต้า อยู่ท้ายตารางด้วยการแพ้ 3 นัดแรกของซีซั่น
ตอนนั้นอาร์เซนอลยิงประตูไม่ได้เลยใน 3 เกม แถมเกมที่ 3 โดนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถล่ม 5-0 ตกไปอยู่อันดับ 20 ของตาราง
ส่วน 3 เกมแรก อาร์เซนอลยิง 9 ประตู เสีย 2 ประตู กลายเป็นคนละทีมกับก่อนหน้านี้ มีหลายปัจจัยที่ทำให้ปืนใหญ่กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง
อย่างแรกคือการมาของ กาเบรียล เชซุส กองหน้าจากทีมเรือใบสีฟ้า ที่ต้องการออกจากร่มเงาของสตาร์ดังหลายๆ คน มาสร้างตำนานของตัวเองที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
เชซุสเริ่มต้นได้ดีตั้งแต่ช่วงพรีซีซั่น และยืนระยะมาจนถึงต้นฤดูกาล จาก 3 นัดที่ผ่านมาของพรีเมียร์ลีก เขายิงไป 2 และแอสซิสต์ 3
อีก 2 คนที่ย้ายเข้ามาแล้วช่วยเติมเต็มเกมรับให้แน่นขึ้น คือ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ กองหลังจากแมนฯ ซิตี้ วิลเลียม ซาลิบา กองหลังที่กลับมาจากยืมตัวกับมาร์เซย ทั้งสองคนช่วยให้รักษาคลีนชีตได้ 2 จาก 3 เกม อาร์เซนอลเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดอันดับ 2 ใน 3 นัดแรก ที่ 2 ประตู มีเพียงไบรท์ตันเท่านั้นที่เสียน้อยกว่า ที่ 1 ประตู
ถ้าเอา 11 ตัวจริงในวันที่แพ้แมนฯ ซิตี้ 0-5 เมื่อ 1 ปีที่แล้ว เทียบกับแมตช์ที่อาร์เซนอลถล่มบอร์นมัธ 3-0 มีเพียง 3 คนเท่านั้นที่มีชื่อทั้งสองเกม บูกาโย่ ซาก้า, กรานิต ชาก้า และมาร์ติน โอเดการ์ด
นอกจากการเสริมทีมที่ลงตัวแล้ว อาร์เตต้ายังรวมใจลูกทีมให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ เขาใช้ช่วงเวลาในการเดินทางไปพรีซีซั่นที่สหรัฐอเมริกา สร้างความสนิทใจให้กับทุกคน
การได้นักเตะใหม่มาอยู่กับทีมตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้ทุกคนมีเวลาอยู่ด้วยกัน มีการปาร์ตี้บาร์บีคิวกันอย่างสนุกสนาน หลังจากกลับมาถึงอังกฤษ ก็ให้นักเตะทั้งชาย-หญิง ทีมงาน เจ้าหน้าที่สโมสร มาสังสรรค์ก่อนเปิดซีซั่น
เมื่อผลงานดี แฟนบอลก็มีความสุขและพร้อมให้การสนับสนุนนักเตะกันอย่างเต็มที่
ในแมตช์กับเลสเตอร์ ซาลิบาทำเข้าประตูตัวเอง แต่แฟนบอลก็ยังส่งเสียงให้กำลังใจ หรือในเกมกับบอร์นมัธ เดอะกันเนอร์สตะโกนเรียกชื่อซาก้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ได้เห็นกันมานานแล้ว
อาร์เตต้ายอมรับว่า ความรู้สึกวันนี้กับเมื่อปีที่แล้วต่างกันอย่างมาก เพราะเมื่อทีมแพ้ก็มีจะมีผลต่อความรู้สึกของทุกคน แต่เมื่อทีมชนะ ทุกคนมีความสุข เราจึงต้องรักษาความสุขแบบนี้ต่อไป ถ่อมตัวและพัฒนาตัวเอง เพราะมันผ่านไปแค่ 3 เกมเท่านั้น ซึ่งไม่มีความหมายอะไรเลย
พรีเมียร์ลีกยังเหลือเกมเตะอีก 35 แมตช์ ฟุตบอลถ้วยอีก 3 รายการที่อาร์เซนอลยังต้องฝ่าฟัน ถือว่าเส้นทางในการลุ้นพื้นที่ยุโรปหรือมองไกลไปถึงแชมป์นั้นยังอีกยาวไกลมากๆ
ถ้ามองย้อนไปในฤดูกาลที่แล้ว ทีมปืนใหญ่เคยไม่แพ้ 8 เกมรวด ในช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคม ชนะ 6 เสมอ 2 หรือเมื่อ 10 ปีก่อน เคยชนะ 10 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการ ในวันที่ อูไน เอเมอรี่ ยังคุมทีมอยู่
ถึงจะมีผลงานที่ดี แต่อย่าลืมว่าทีมปืนใหญ่ไม่ได้ไปเตะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกมาแล้ว 5 ฤดูกาลติดต่อกัน ต่างจากวันที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ยังคุมทีม พวกเขาได้ไปเตะถ้วยใหญ่ยุโรป 19 ซีซั่นติดต่อกัน
3 นัดกับคริสตัล พาเลซ, เลสเตอร์, บอร์นมัธ ยังไม่ใช่เกมยากของอาร์เตต้า ในเดือนกันยายน-ตุลาคม มีเกมใหญ่รออยู่อีกเพียบ
ถึงวันนั้นถ้ายังรักษาฟอร์มเก่งได้ และเกาะหัวตารางได้อย่างที่เห็นกันตอนนี้ ถึงจะบอกได้ว่า อาร์เซนอลกลับเข้าสู่ช่วงเวลาที่แฟนบอลรอคอยแล้วจริงๆ •
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022