ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 3 - 9 พฤษภาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | เอกภาพ |
ผู้เขียน | พิชัย แก้ววิชิต |
เผยแพร่ |
เธอ
“ความรักบนรอยราง”
ยี่สิบกว่าปีก่อนหน้านี้ กับความเดิมชีวิตที่ยังไม่ลบเลือนของเด็กสาววัย 18 เรื่องราว “ความรักและความหวัง” ที่ทอดยาวออกไปกับรางรถไฟสายศรีสะเกษ-กรุงเทพฯ ในวันที่เธอตัดสินใจเลือกชะตาให้กับตัวเอง
ราว 18.40 น. ถึงเวลาแล้วกับการเดินทางครั้งสำคัญ สิ้นเสียงระฆังจากชานชาลา ขบวนล้อเหล็กค่อยๆ เคลื่อนขยับออกจากสถานีบ้านเกิดเมืองนอน เธอโดยสารรถไฟชั้น 3 กับเงินที่เหลือติดตัวร้อยกว่าบาท เพียงแค่นี้ก็พอแล้วที่นำพาความหวัง ที่ยังพอจะมีเหลืออยู่บ้างในชีวิต ให้มุ่งหน้าไปยังสถานีปลายทาง ที่มีชื่อว่า “หัวลำโพง” ที่ๆ เป็นจุดนัดพบของชีวิต กับก้าวเล็กๆ ที่จะเดินต่อไปกับคนที่เธอรัก ชายหนุ่มที่จะรอเธออยู่ ณ สถานีปลายทางแห่งความฝัน
เด็กสาวออกเดินทางโดยลำพัง ไปพร้อมกับผู้คนที่ไม่รู้จักอยู่เต็มตู้ขบวน แม้จะกังวลอยู่บ้าง แต่มันคงไม่มีอะไรจะแย่ได้เท่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ กับช่วงชีวิตในก่อนหน้า เบาะนั่งหลังตรง 90 องศา กับเวลาร่วม 9 ชั่วโมง
ทำให้เธอมีเวลามากพอจะคิดทบทวนเรื่องราวที่ยากจะลืมลง
“หัวใจร้าวรานไปกับครอบครัวที่แตกแยก” ครอบครัวอันอบอุ่นพังทลายหายไป ราวกับความฝันที่ไม่เคยมีอยู่จริง เรื่องราวเสียๆ ที่ไม่อาจซ่อม พ่อและแม่ต่างแยกย้ายไปมีครอบครัวใหม่ พี่สาวเพียงคนเดียวก็ตกลงปลงใจแต่งงานแยกไปมีครอบครัวของตัวเองอีกราย คำติฉินนินทาของคนในหมู่บ้านทำให้เธอละทิ้งสังคมที่เคยอยู่
เธอควรจะไปอยู่กับแม่ที่กรุงเทพฯ แต่เธอก็ไม่ค่อยชอบพ่อใหม่สักเท่าไหร่ มันเป็นเรื่องยากที่จะต้องใช้ชีวิตกับครอบครัวใหม่ที่เธอไม่คุ้นชิน เธอจึงเลือกใช้ชีวิตที่เหลือ กับความหวังเล็กๆ ที่แสนจะเลือนราง กับการเป็นที่รักของใครสักคน และสร้างครอบครัวของตัวเองขึ้นมาใหม่ ทดแทนสิ่งที่มันได้พังทลายลงไป
เด็กสาวสู้กับชีวิตด้วยไร้เดียงสา แม้ความรักมักจะมีความเสี่ยง และอาจจะแย่ยิ่งกว่ากับประวัติศาสตร์ที่อาจจะซ้ำรอยเติม และสร้างบาดแผลกับความเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้กับโชคชะตาของเธอ “เด็กสาววัย 18 กับครอบครัวที่หายไป”
สายลมเย็นจากขอบหน้าต่างพัดผ่านใบหน้าของเธอ ราวกับจะช่วยปลอบประโลมให้หายร้อนใจ เสียงแห่งการเดินทางขับเคลื่อนบนรางเหล็กที่ทอดยาวออกไปอย่างเป็นจังหวะ และสม่ำเสมอ ทำลายความเงียบงันในหัวใจ ไปตลอดเส้นทาง
04.10 น. โดยประมาณ ขบวนรถไฟจากสายอีสานใต้ ก็มาถึงสถานรถไฟหัวลำโพง ผู้โดยสารนับร้อยค่อยๆ ทยอยพากันก้าวลงจากขบวน ใครบางคนอุ้มลูกจูงหลาน หลายคนแบกกระสอบข้าวสารและของกินพื้นบ้าน เสบียงยังชีพในเมืองหลวง
เพื่อประหยัดค่าใช่จ่ายให้พ้นพอเดือน
ชายหนุ่มมาตามนัด ชะเง้อมองหาอยู่สักพัก แต่ก็ยังไม่เห็นเธอที่นัดไว้ “หรือไม่ใช่รถไฟขบวนนี้”
ไม่ทันที่จะได้คำตอบ มีใครบางคนสะกิดที่หัวไหล่ข้างซ้ายเบาๆ และเมื่อหันไปหา ก็ได้เห็น “รอยยิ้มกว้างจริงใจกับแววตาที่เป็นประกาย”
นี่ละเธอ! ที่มาพร้อมกับข้าวสารอีกหนึ่งกระสอบ!
เด็กสาวไร้เดียงสากับชายหนุ่มผู้อ่อนต่อโลก ความรักของเขาและเธอ จะยืนระยะกันได้นานแค่ไหน บนโลกที่ไว้ใจไม่ค่อยจะได้นี้ เรื่องเล่าไม่มีตอนต่อให้ตามติด คงมีคำถามอยู่บ้างกับกับชีวิตความเป็นอยู่ที่ผ่านแล้วยี่สิบกว่าปีของเด็กสาววัย 18
ถึงตอนนี้เด็กสาว “โตพอที่จะเป็นผู้ใหญ่” รู้จักกับการ “ให้อภัยกับสิ่งที่ไม่อาจลบเลือน” เธออยู่กับปัจจุบัน ขับเคลื่อนขบวนชีวิตไปกับลูกๆ ทั้งสามและสามีของเธอ ชายหนุ่มคนเดิมกับครอบครัวใหม่ที่ร่วมกันสร้างขึ้น ในวันที่ “ขบวนรถไฟแห่งความรักและความหวังเดินทางมาถึง” พร้อมข้าวสารอีกหนึ่งกระสอบ
ขอบคุณมากมายครับ •
เอกภาพ | พิชัย แก้ววิชิต
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022