ชุดว่ายน้ำแด่ ‘ลูกสาว’ | ท้อฟฟี่ แบรดชอว์

ท้อฟฟี่ แบรดชอว์https://www.facebook.com/toffybradshawwriter

1

Ruby เป็นเด็กสาว Transgender อายุ 12 ปี ที่ครอบครัวใน Toronto เลี้ยงดูด้วยความรัก

เธอรู้ตัวตั้งแต่เด็กว่าตัวตนของเธอไม่ตรงกับกายภาพ ซึ่งครอบครัวของเธอและโรงเรียนได้ร่วมมือกันในการช่วยให้ Ruby เข้าสู่กระบวนการค้นพบตัวเองและยืนยันตัวตนตามหลักที่ถูกต้อง

จนกระทั่งเกรด 3 Ruby ยืนยันว่า เธอไม่ใช่ผู้ชายตามเพศกำเนิด

ครอบครัวของ Ruby ชอบไปเที่ยวทะเลเป็นปกติ จนกระทั่งตอนที่ Ruby เรียนชั้นเกรด 12 และเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น มีบางอย่างในการไปทะเลที่ทำให้ Rubies ไม่มีความสุข

นั่นคือการใส่ชุดว่ายน้ำ

2

สำหรับเด็ก Transgender การว่ายน้ำเป็นเรื่องน่ากังวลมาก

เพราะรู้สึกไม่มั่นใจที่บางส่วนของร่างกายดูผิดสังเกตภายใต้ชุดว่ายน้ำ

ผู้คนจะมองมาที่พวกเธอ ล้อเลียนบ้าง หรือแค่จ้องมองก็น่าอึดอัดพอแล้ว

วันหนึ่งเมื่อเธอโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ เธอจะเลือกเข้าสู่กระบวนการผ่าตัดหรือไม่ก็ตามแต่

แต่กว่าจะถึงวันนั้น เธอแค่อยากไปว่ายน้ำด้วยความรู้สึกเป็นปกติแบบเด็กคนอื่นๆ

ครอบครัวของ Ruby พยายามตามหาชุดว่ายน้ำที่เอื้อต่อสรีระของ Ruby บางแบรนด์บอกว่าออกแบบมาเพื่อเด็ก Transgender ก็จริง แต่ Ruby ใส่แล้วรู้สึกไม่สบาย

เมื่อเห็น Rubies ไม่มีความสุข Jamie Alexander พ่อของ Rubies คิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง

ถ้าไม่มีคนทำให้ลูกสาวมีความสุขได้

เดี๋ยวพ่อทำให้เอง

3

ประเทศสหรัฐอเมริกามีเด็กที่เป็น Transgender แบบ Ruby ราวๆ 4 แสนคน

เด็กๆ เหล่านั้นคงมีปัญหาแบบเดียวกับ Ruby และคงไม่มีความสุข

Jamie จึงตั้งใจเปิดแบรนด์ชุดว่ายน้ำสำหรับเด็ก Transgender

แบรนด์นี้ชื่อ “Rubies”

ชุดว่ายน้ำแด่ลูกสาว และลูกสาวทุกคนที่เป็นเหมือน Ruby

ชุดว่ายน้ำที่ทำเพื่อเด็กสาว Transgender โดยเฉพาะ รองรับสรีระที่ช่วยให้พวกเธอมีความมั่นใจขึ้น

และทำให้พวกเธอได้ใช้ชีวิตอย่างเด็กธรรมดาๆ

4

Jamie ไม่ได้มีพื้นฐานด้านแฟชั่น แต่ทำงานใน Tech start up เขาจึงจับมือกับ DMZ ซึ่งเป็น Incubator และช่วยเชื่อมโยง Jamie กับวิศวกรด้านสิ่งทอกับผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่น

บวกกับความมุ่งมั่นที่อยากจะช่วยแก้ปัญหาให้ครอบครัว Transgender ที่เป็นจุดเริ่มต้นของ Jamie ทำให้มีผู้เชี่ยวชาญด้านอื่นๆ มารวมตัวกันเพื่อช่วยให้ธุรกิจนี้เติบโตอย่างยั่งยืนให้ได้

เขาอยากทำชุดว่ายน้ำสำหรับเด็กสาว Transgender ที่ดูเป็นชุดว่ายน้ำธรรมดา ไม่แปลกแยก แต่เนื้อผ้าและการออกแบบช่วยรองรับสรีระของเด็กๆ ที่ยังมีอวัยวะแบบผู้ชายอยู่

เขาทำการสัมภาษณ์ครอบครัวของเด็ก Transgender 50-60 ครอบครัว เพื่อค้นหาความต้องการที่แท้จริง

เขาอยากทำเพื่อลูกสาวของตัวเอง และลูกสาวของคนอีกมากมาย

5

Rubies กลายเป็นแบรนด์ชุดว่ายน้ำที่ขายดี เพราะมีความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน และมีนวัตกรรมที่แก้ปัญหาที่ลูกค้าต้องการแก้ไขได้สำเร็จ

บวกกับเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่อยากทำให้ “ลูกสาว” มีความสุข

ต่อมา Jamie พบว่า เด็กๆ พากันใส่ชุดว่ายน้ำ Rubies ไว้ข้างในแทนชุดชั้นใน จึงต่อยอดจากการทำชุดว่ายน้ำมาเป็นชุดชั้นในเพื่อเด็ก Transgender ด้วย

ตามมาด้วยแคมเปญ “Every girl deserves to shine” ที่ช่วยส่งบิกินีไปให้เด็กๆ Transgender ทั่วโลกที่ไม่มีเงินซื้อชุดชั้นในหรือชุดว่ายน้ำ

และเมื่อมีโอกาส ครอบครัวของ Ruby จะไปเจอกับครอบครัวของลูกค้า

การได้รู้ว่าสิ่งที่พวกเขาทำช่วยทำให้เด็กๆ มีวันธรรมดาๆ ที่สดใสเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขายิ่งอยากทำงานนี้ต่อ

พวกเขาไม่ใช่แค่ทำชุดว่ายน้ำขึ้นมาขาย แต่กำลังส่งต่อความรักและความเข้าใจที่มีต่อ Transgender

แบบเดียวกับที่ Ruby ได้รับมา

 

6

ไม่เพียงแต่การเติบโตทางธุรกิจ แต่ Rubies ยังทำให้ Ruby เติบโตขึ้นไปด้วย

Ruby กลายเป็นคนที่มุ่งมั่นจะเปลี่ยนแปลงสังคม และสร้างความเข้าใจต่อ Transgender ให้เกิดขึ้น

เธอจะคอยเขียนโปสต์การ์ดด้วยลายมือขอบคุณเด็กๆ ที่มาซื้อผลิตภัณฑ์ของ Rubies

ในโปสต์การ์ดฉบับหนึ่ง เธอเขียนว่า

“ฉันหวังว่าเธอจะมีวันที่ดีนะ ขอให้รู้ว่าเธอเป็นที่รักของฉันและชาว Rainbow club ที่โรงเรียน เธอเข้มแข็ง กล้าหาญ และมีความสำคัญมาก เป็นตัวของตัวเองไว้นะ และอย่าให้ใครมาทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า ฉันเองก็เป็น Transgender เหมือนกัน และฉันเข้าใจเธอ xx”

Rubies จึงเป็นธุรกิจที่เริ่มต้นจากพ่อที่อยากทำให้ลูกสาวของตัวเองมีความสุข

และอยากทำให้ลูกสาวคนอื่นๆ มีความสุขไปด้วย

จนทำให้มีผู้คนอยากมาร่วมกันทำความฝันนี้ให้เป็นจริง

ซึ่งในเวลาต่อมา ไปไกลถึงการส่งต่อทัศนคติที่ดีและขับเคลื่อนสังคม

ทั้ง Jamie และ Ruby เพียงต้องการให้วันธรรมดาๆ ของเด็ก Transgender ได้เป็นวันธรรมดาๆ ที่มีความสุขกับการเป็นตัวของตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น

ชุดว่ายน้ำแด่ “ลูกสาว” มีความหมายแบบนั้น