‘ดร.นันทนา’ จัดอันดับการสื่อสารปี 65 ‘ชัชชาติ’ยอดเยี่ยม-‘ประยุทธ์’ยอดแย่-ปากทองคำ ให้ ‘โน้ส อุดม’

ช่วงส่งท้ายปีเก่า 2565 ต้อนรับปีใหม่ 2566 “รายการเอื้อย Talk” ของมติชนทีวี ไม่พลาดที่จะสัมภาษณ์พิเศษ “รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส” คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก ในการจัดอันดับ “การสื่อสารทางการเมืองยอดเยี่ยม VS ยอดแย่ ประจำปี 2565” ในฐานะผู้มีความเชี่ยวชาญทางการสื่อสารการเมืองมาอย่างยาวนาน

เริ่มจาก “การสื่อสารทางการเมืองยอดเยี่ยมปี 2565”

อันดับที่ 1 ตกเป็นของ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯ กทม.

โดย รศ.ดร.นันทนาให้เหตุผลว่า ผู้ว่าฯ ชัชชาติเป็นคนที่สื่อสารแล้วได้ใจประชาชน จนชนะเลือกตั้งมาแบบแลนด์สไลด์

เป็นผู้ว่าฯ ที่มีบุคลิกภาพในการสื่อสารแล้วทำให้คนมีความรู้สึกอยากใกล้ชิด อยากจะไปชนหมัดถ่ายรูปด้วย

มีความเป็นกันเอง สื่อสารรู้เรื่อง พูดแล้วชาวบ้านเข้าใจ ทำงานไม่เคยหยุด ไหนจะมีการไลฟ์บอกชาวบ้านว่าแต่ละวันจะไปแก้ปัญหาตรงไหน มีการนำระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์ มาช่วยแก้ปัญหา ทำให้การสื่อสารระหว่างคนกรุงเทพฯ กับ กทม. ใกล้ชิดกันมากขึ้น

ปัญหาฝนตก-น้ำท่วม ถ้าเป็นผู้ว่าฯ คนอื่นก็คงโดนชยันโตไปแล้ว แต่ผู้ว่าฯ ชัชชาติอาจมีเสียงตำหนิเล็กๆ น้อยๆ แต่ส่วนใหญ่เข้าใจและสนับสนุนให้เป็นต่อ แล้วรอดูว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร

ถือว่าประสบความสำเร็จในการสื่อสารเป็นอย่างมาก

อันดับ 2 “ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในบทบาทของการเป็น ส.ส. ทาง รศ.ดร.นันทนามองว่าสื่อสารในสภาได้ชัดเจน ตรงประเด็น

และที่สำคัญความมั่นคงในอุดมการณ์เห็นได้โดยตลอด แม้จะจบมาจากต่างประเทศแต่พูดภาษาไทยชัดเจน มีลีลา

ลักษณะของการอภิปรายที่ทำให้คนมีความรู้สึกว่าเร้าใจ ไม่ก้าวร้าวและได้สาระ

ทุกประเด็นที่หยิบขึ้นมาอภิปราย คนฟังมีความรู้สึกว่าทำการบ้านมามีข้อมูล สื่อสารแล้วประชาชนได้ประโยชน์

อันดับ 3 “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” หน้าใหม่ในวงการการเมือง แต่ในด้านการสื่อสาร รศ.ดร.นันทนามองว่าทำได้ดีจนได้ใจประชาชนไปเต็มๆ

ถ้าประชุมพรรคเพื่อไทย เราจะเห็นคุณอุ๊งอิ๊งสื่อสารด้วยเนื้อหาที่หนักแน่น ทำให้เห็นว่านี่คือผู้นำที่จะนำพาการประชุมไปได้

ขณะที่พอลงพื้นที่ก็จะเห็นคุณอุ๊งอิ๊งเล่น พูดคุยกับชาวบ้านออดอ้อนขอคะแนนนิยม เหมือนกับเคยเป็นนักการเมืองมาก่อน ทั้งๆ ที่ใหม่มาก ทำให้คนไม่รู้จักประดักประเดิดกับการที่ต้องมาเจอนักการเมืองหน้าใหม่ ถือว่าสื่อสารได้ดีในระดับที่เปิดตัวออกมาแล้วไม่ผิดหวัง

ยิ่งพอประกาศนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 คนส่วนใหญ่ตอบรับ รออยากให้พรรคนี้คนนี้มาเป็นนายกฯ เพื่อที่จะผลักดันตรงนี้ การสื่อสารสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ดีเลย

 

อันดับ 4 “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” โดย รศ.ดร.นันทนามองว่าเป็นนักการเมืองที่สื่อสารสร้างสรรค์และมีความกล้าหาญชัดเจนลีลาการอภิปรายในสภากระฉับกระเฉง ไม่มีความกลัวว่าสิ่งที่ตัวเองนำเสนอไปจะได้รับผลกระทบกับตัวเอง

ที่สำคัญเป็นคู่กัดกับท่านนายกฯ ตลอดกาล พูดแล้วมั่นใจ ผลงานที่ทำให้หลายคนประทับใจก็คือการดำเนินคดีกับนายสิระ เจนจาคะ แม้จะเป็นคนในเจนบูมเมอร์ แต่ว่ามีความทันสมัย สื่อสารแล้วทำให้ประชาชนได้ประโยชน์

อันดับ 5 รศ.ดร.นันทนายกให้กับ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” อดีตนักการเมือง ที่ทำให้คนไทยหลายคนมีความรู้สึกว่าตาสว่างจากการออกมาแฉเรื่องทุนจีนสีเทา

“การสื่อสารของคุณชูวิทย์ทำให้ประชาชนได้รับรู้ในเรื่องที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน กล้าที่จะมาเปิดเผย กล้าทำให้คนรู้สึกว่าสังคมมันมีปัญหาแต่มันขาดคนกล้าที่จะมาแฉ อันนี้ก็เป็นคนที่ทำคุณประโยชน์ให้กับสังคมและยืนหนึ่งในใจคนไทยในฐานะจอมแฉ”

 

มาต่อกันที่ฝั่ง “การสื่อสารทางการเมืองยอดแย่ปี 2565” ฝั่งนี้ รศ.ดร.นันทนาก็จัดมาแบบเน้นๆ โดยเริ่มจากอันดับ 5 เป็น “กรุงศรีวิไล สุทินเผือก”

“อดีตดาราที่ประชาชนรู้จัก แต่บทบาทการสื่อสารในสภา หลักๆ ทำหน้าที่ประท้วงฝ่ายค้าน ทำให้สภาไปต่อไม่ได้ ประชาชนดูแล้วไม่ได้ประโยชน์ แล้วสิ่งที่คุณกรุง ศรีวิไลได้ทำเอาไว้แล้วทำให้หลายคนบอกว่าการสื่อสารของคุณกรุงมันทำลายศักดิ์ศรีความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็คือการก้มกราบ ‘พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ เพียงเพราะต้องการผลประโยชน์ที่ลุงป้อมจะอำนวยให้ การสื่อสารแบบนี้มันไม่เป็นประโยชน์และมันทำให้ภาพลักษณ์คนที่เป็นผู้แทนฯ แย่ลง”

อันดับ 4 “ศุภชัย โพธิ์สุ” ล่าสุดกับกลอนพาไป พูดปราศรัยแล้วไปด่าว่า “ไอ้โง่” รศ.ดร.นันทนามองว่าบทบาทท่านเป็นถึง ส.ส. และบทบาทที่สำคัญมากคือเป็นรองประธานสภา มีหน้าที่ในการชี้ให้คนทำตามกติกา ให้คนในสภาสื่อสารอย่างเป็นระเบียบ แต่ท่านไปชี้หน้าด่า ส.ส.อีกฝ่ายหนึ่งว่าไอ้โง่ คำนี้เป็นการเหยียดคน นั่นคือความผิดพลาดในการสื่อสาร ที่ถือว่าเป็นบทเรียนให้กับนักการเมืองได้ดีเลย

อันดับ 3 “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” รายนี้ รศ.ดร.นันทนามองว่ามีการสื่อสารที่ทำให้เกิดการล้มละลายทางความศรัทธา หลังเปิดตัวย้ายมาซบพรรคพลังประชารัฐ

“คนที่เคยเลือกคุณมิ่งขวัญ เลือกพรรคเศรษฐกิจใหม่เพราะคิดว่าอยู่ฝั่งประชาธิปไตย ยืนยันไม่เอาสืบทอดอำนาจ ไม่เอาลุงตู่ แต่อยู่ๆ ย้ายมาอยู่พลังประชารัฐเพราะลุงตู่ไม่อยู่แล้ว ลืมไปแล้วเหรอคะว่าการยึดอำนาจมาจาก 3 ป. สิ่งนี้ทำให้เอฟซีของคุณมิ่งขวัญงงไปหมด ไหนจะประกาศปาดหน้าเค้กจะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ อีก พลังประชารัฐหลายคนก็ออกมาปฏิเสธ อันนี้ดูเผินๆ เหมือนคุณมิ่งขวัญจะฉลาดที่ใช้เวทีตรงนี้ประกาศตัว แต่ไม่ใช่เลย”

“มันทำให้เกิดการล้มละลายทางศรัทธา ถือเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดอย่างแรง”

 

มาถึงอันดับ 2 คนที่ รศ.ดร.นันทนาเลือกได้แก่ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” โดยให้เหตุผลว่า เป็นคนที่สื่อสารในลักษณะที่ไม่ค่อยได้สื่อสารเท่าที่ควร มีบุคลิกไม่ค่อยตอบคำถาม ถ้าตอบก็ไม่รู้ๆ มากระฉับกระเฉงก็ตอนได้เป็นรักษาการนายกฯ

“ตอนนั้นปรับลุคเต็มที่ มีสำบัดสำนวน เดินเหินก็ไม่ต้องสี่คนหามสามคนแห่ มั่นอกมั่นใจ ที่จริงถ้าท่านทำได้ตั้งแต่แรกคนก็จะมองท่านนะ แต่มาทำตอนรักษาการ แล้วพอท่านไม่ได้ไปต่อก็กลับไปเป็นลุงป้อมที่ไม่รู้ๆ เหมือนเดิม”

“มันไม่ได้ทำให้คนเกิดความรู้สึกเชื่อมั่น แต่กลับรู้สึกว่าเหมือนที่ผ่านมาท่านแสดง แม้ทีมงานจะพยายามทำให้ท่านดูเป็นผู้นำที่มีศักยภาพก็ตาม”

“อันนี้เป็นเรื่องสำคัญที่นักการเมืองต้องระวัง ถ้าเมื่อไรประชาชนคิดว่าสิ่งที่ท่านทำอยู่เป็นการแสดง เขาจะไม่ศรัทธาในตัวท่าน”

 

มาถึงอันดับ 1 รศ.ดร.นันทนายกให้กับ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เช่นเคย ด้วยเหตุผลที่ยังคงมีวิธีการสื่อสารที่ทำให้คนสับสน ท้อแท้ รู้สึกไม่มีอนาคต มองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ยิ่งฟังยิ่งมืดลงไปอีก ท่านยังรักษาบุคลิกแบบนี้เอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง

แม้ว่าช่วงกลางปีเราจะเห็นว่ามีทีมมาปรับลุคให้ท่าน ปรับลุคที่ว่าคือปกติท่านชอบด้นสดแล้วเลยสคริปต์ไปเยอะ แต่ครั้งนี้ท่านพูดตามสคริปต์ แล้วคนเขียนสคริปต์ถ้าให้วิเคราะห์น่าจะเปลี่ยนคน เพราะเขียนแล้วมีสาระ

ถ้าดูที่ท่านนำเสนอเรื่อง 3 แกนเพื่อการพัฒนา จริงๆ เนื้อหาดีนะ แต่ที่คนวิจารณ์เพราะมองว่าในภาคปฏิบัติทำไม่ได้ อีกสักพักหนึ่งท่านกลับไปเหมือนเดิม คือด้นสดแล้วพูดไปก็จะเกิดอารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ยังมีบุคลิกไม่สม่ำเสมอ

เลยยังคงอยู่อันดับ 1 การสื่อสารยอดแย่

 

นอกจากนี้ ยังมอบรางวัลพิเศษ “ปากทองคำ” ให้กับ “โน้ส-อุดม แต้พานิช” ผู้สั่นสะเทือนวงการการเมืองด้วยการพูดถึงรัฐบาลในโชว์ “เดี่ยว 13” จนคนในฝั่งรัฐบาลเกิดอาการดิ้นจะฟ้องร้องดำเนินคดี จากสิ่งที่โน้สพูดแล้วทำให้คนดูเริ่มคิดในขณะที่ได้ขำไปด้วย

“ขอมอบรางวัลนี้ให้กับคุณโน้สเลยค่ะ” รศ.ดร.นันทนากล่าว