เผยแพร่ |
---|
การที่คุณทักษิณเดินทางไปเชียงใหม่ มองว่าเป็นกระบวนการต่อเนื่อง ตั้งคุณทักษิณเดินทางกลับมาประเทศไทย การมาเชียงใหม่ครั้งนี้ของคุณทักษิณก็คือการ ปิ๊กบ้าน กลับบ้านเกิด แต่มีลักษณะพิเศษบางอย่าง คือ มีตัวละครทางการเมืองที่ปรากฎอยู่ในวันที่คุณทักษิณ กลับบ้านครั้งนี้เยอะมาก จังหวะที่ลงตัวมีทั้งนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน อดีตนายกฯ นักการเมือง ผู้มีอิทธิพลทางกการเมืองจากหลายพรรคไม่ใช่เพียงจากฝั่งเพื่อไทย แม้แต่จากฝั่งราชการ รวมถึงอดีตว่าที่นายกฯอย่างคุณพิธา มารวมตัวกันที่เชียงใหม่
ถึงแม้การกลับบ้านครั้งนีคดียังไม่สิ้นสุด แต่การที่คนมีความยินดีกลับการมาครั้งนี้ มันแสดงถึง บารมี
ที่ไม่ใช่เพียงอำนาจอย่างเดียว แต่รวมถึงการดึงดูด (charisma) แม้แต่หมดอำนาจทางการเมืองแต่บารมีทางการเมืองยังฟังก์ชั่นต่อไปเรื่อยๆไม่เคยจางหาย จะเห็นได้ว่าการรัฐประหารปี 49 และ 57 ถ้าหากคุณทักษิณไม่มีบารมี จะไม่ปรากฎการเคลื่อนไหวของคนแดง ความเกลียดกลัวผีทักษิณ ภาพสะท้อนบารมียังทำงานอยู่และเป็นวิถีความคิดแบบไทยๆ แม้ตัวจะไม่ได้อยู่ในประเทศ แต่การทำงานของพรรคเพื่อไทยและการฟังเจ้าของพรรคตัวจริงพูดอดีตนายกฯพูดยังทรงพลังแล้วมีถึงปัจุบัน หรือแม้การพูดล้อเล่นทางการเมืองหรือในวงการสื่อ “นายกฯ ตัวจริง” “นายกฯ 2 คน” และบารมีที่ว่ายังทำงานฟังก์ชั่นในทางปฏิบัติจริงมนการต่อรอง การประนีประนอมกับกลุ่มคน การดีล หรือการถูกมองว่าได้รับอภิสิทธิ์ แล้วทุกการเคลื่อนไหวทุกอย่างมีจังหวะอย่างลงตัว ถึงแม้ว่าทุกจังหวะการเคลื่อนไหวของคุณทักษิณไม่ได้ดีเสมอไป
การเคลื่อนไหวของคุณทักษิณจะสามารถเรียกคะแนนพรรคเพื่อไทยกลับมาแบ่งเป็น 2 ส่วน กลุ่มหนึ่งยังคนเลือกเพื่อไทย ถึงแม้ว่าจะมีหรือไม่มีคุณทักษิณก็ตาม คนจำนวนหนึ่งยังติดภาพคุณทักษิณ เพราะมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทยเรื่อยมาถึงเพื่อไทย ถึงแม้หัวหน้าพรรคจะเป็นใครก็ตาม ภาพคุณทักษิณ ไม่เคยจางหายไปจากสังคมไทย คนจำนวนมากที่ศรัธาพรรคไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เชื่อว่าคุณทักษิณเป็นเหยื่อทางการเมือง เด็กรุ่นใหม่อาจจะเกิดไม่ทันคุณทักษิณ แต่ภาพจำคุณทักษิณดีหรือไม่ดี การกลับมาจึงทรงพลัง ตัวคนที่เคยล้ำลือกลับมาแล้ว อีกกลุ่มหนึ่งเกิดการผิดหวังตั้งแต่พรรคเพื่อไทยยอมจับมือกับฝ่ายตรงข้ามอาจทำให้คนจำนวนหนึ่งเกิดอาการอกหัก เพราะรู้สึกว่าการต่อสู้ 17 ปี ที่ผ่านมาหมายความว่าอะไร
การเคลื่อนไหวของคุณทักษิณอาจเป็นปรากฎการณ์หวือหว่าในสังคมไทย แต่จะส่งผลต่อคะแนนพรรคหรือไม่ก็คิดว่ายังคงรักษาระดับไว้ได้ แต่ในปัจจุบันไม่ได้มีพรรคการเมืองเหมือนสมัยคุณทักษิณ ไม่ใช่แค่พรรคก้าวไกล แต่มีพรรคพปรช. รทสช. ภูมิใจไทย เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้สูญเสียคะแนนมากขนาดนั้น เพียงแต่ว่าบริบทแวดล้อมจะส่งผลกระทบต่อคะแนนมากขนาดไหน ฐานเพื่อไทยยังคงแน่น ยังเป็นเนื้อเดียวกับคนเสื้อแดงอยู่หรือไม่
ถ้ามองจากคนนอก ต้องรีแบร์นด เพราะการที่จะใช้กลยุทธ์เมื่อ 10 ปีที่แล้วที่นำพาคุณทักษิณไปสู่ชัยชนะ อาจจะใช้ไม่ได้ ต้องวางกลยุทธ์ใหม่ เพราะพรรคเพื่อไทย อาจเสียเครดิตในตอนที่คุณยอมจับมือกับคนที่เคยทำร้ายคุณตลอด 17 ปีที่ผ่านมา คุณทักษิณอาจเป็นทั้งจุดอ่อน-จุดแข็ง เพราะ คนส่วนมากไม่สามารถหายกลัวผีทักษิณ บางก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต่อให้คุณทักษิณเปลี่ยนยังไง คนเกลียดยังไงก็เกลียด การกลับมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองคงเป็นเรื่องที่ยาก แต่ต้องยอมรับในฐานะผู้วางกลยุทธ์ทางการเมืองถึงรัก หรือเกลียด ควรอ่านความคิด ของคนนี้
ถ้าเทียบกับคุณเศรษฐา เป็นนายทุน เจ้าอสังฯ มาจากไหนแต่ในทางการเมืองถือว่าเป็นหน้าใหม่ในสนามการเมือง คุณแพทองธาร (อุ๊งอิ๊ง) ก้ใหม่เช่นกัน อย่างไรก็ตามสายสัมพันธ์ ระหว่างเศรษฐากับอุ๊งอิ๊ง แตกต่างกัน คนหนึ่งเป็นคนที่พรรคจัดสรร ส่วนอีกคนก็มีโอกาสที่จะสืบทอดพรรคต่อเพราะเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ เป็นทางเลือกสุดท้ายที่สามารถฝากผีฝากไข้ ในเมื่อในคนรุ่นเดียวกันกับคุณทักษิณ ทั้งน้องเขย น้องสาว ไม่มีแล้ว ด้วยบุคคลิก บารมี วัยวุฒิ ของคุณอุ๊งอิ๊ง อาจจะต้องใช้เวลอีกสักระยะ
อย่างไรก็ตามก็ต้องให้เกรียติคุณเศรษฐาในฐานะที่สภาฯเลือกเข้ามาให้ดำรงตำแหน่ง ควรต้องให้โอกาสในการทำงาน แต่ก็ต้องยอมรับเมื่อการเปรียบเทียบกับอดีนายกฯที่มากด้วยบารมี และลูกสาวอดีตผู้นำ
เพราฉะนั้น เศรษฐาจะรู้ตัวเอง และจะรับมือจากความกดดันได้มากแค่ไหน แต่แรงกดดันอาจจะมาจากพรรคมากกว่า ฉากต่อมาของคุณเศรษฐา ต้องรอดูสถานการณ์ทางการเมือง จะมีเงื่อนไข สภาวะที่บีบคั้น เช่น การบริหารราการแผ่นดิน แล้วเปลี่ยนม้ากลางศึกหรือไม่
สุดท้าย การยุบพรรคก้าวไกลถ้หากเกิดขึ้น มันคือการตัดคู่แข่งทางการเมืองเพราะพรรคการเมืองที่เหลืออยู่ในปัจจุบัน ไม่มีทางสู้พรรคเพื่อไทยได้ แม้พรรคก้าวไกลต้องไปตั้งพรรคใหม่ต้องใช้เวลาร่วมสั่งสมพลัง