5 เรื่อง-วาทะการเมือง-นโยบายเมืองทิพย์ ที่ประชาชน ยังไม่ได้จาก รัฐบาลประยุทธ์

#เอพริลฟูลเดย์ กับ 5 เรื่อง-วาทะการเมือง-นโยบายเมืองทิพย์ ที่คนไทย ยังไม่ได้จาก นายกฯประยุทธ์
เดินทางมาสู่ “ครึ่งเทอม” ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จากแคนดิเดตพรรคพลังประชารัฐ พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ที่มีแคมเปญหาเสียงต่างๆ ทั้งนโยบายค่าแรง ลดภาษี และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่หลายคนเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่จะได้เห็นการขับเคลื่อน-มีผลอย่างจริงจัง
ถึงกระนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ นายกฯ แถลงไว้กลางสภาว่าเป็น นโยบายเร่งด่วน ในวันนี้อย่างที่ทุกคนทราบกันว่า วาระที่3 เพิ่งถูกโหวตคว่ำจากน้ำมือ ส.ส.รัฐบาล- ส.ว.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
เรามาย้อนชม 5 เรื่องอดีต-ปัจจุบัน มีอะไรที่ย้อนแย้งและยังดูไม่มีหวัง

ปลายเดือน มี.ค.64 โซเชียลมีเดียมีการแชร์โพสต์เฟซบุ๊กของเพจทางการพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งถูกโพสต์ในวันที่ 14 มี.ค.62 หรือ 2 ปี กว่าๆ ของการเผยแพร่แนวทางนโยบายดังกล่าว ท่ามกลางเสียงคำถามประชาชนจำนวนมากได้กลับเข้ามาแสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าวอีกครั้ง เนื่องจากต้องการทวงสัญญาที่พรรคพลังประชารัฐเคยให้ไว้ เพราะปัจจุบัน ยังไม่มีนโยบายใดสักนโยบายเดียวที่บรรลุผล แม้ผ่านมานานถึง 2 ปีเต็ม และกำลังจะเข้าสู่ปีที่ 3 แล้วก็ตาม รวมถึงวิจารณ์ถึงการบริหารประเทศ

โดยโพสต์ดังกล่าว มีข้อความ ดังนี้ “ตัวเลขเหล่านี้ สุดเซอร์ไพรส์ !! วันที่ 14 มี.ค.62 ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค แถลงนโยบายโค้งสุดท้ายของพรรคพลังประชารัฐก่อนการเลือกตั้ง 2562

ดร.อุตตม กล่าวว่า ประเทศไทยต้องรวยด้วยพลังประชารัฐ ขอโอกาสให้เราได้เข้ามาทำงาน โดยรวยอย่างไรบ้าง 1.รวยความสงบ 2.รวยความสุข และ3.รวยด้วยความหวัง ซึ่งต้องรวยอย่างยั่งยืน

ดร.อุตตม กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐจะทำให้พี่น้องเกษตรกรรวยอย่างมั่นคง รวยอย่างยั่งยืน โดยดูแลข้าวเจ้า 12,000 บาทขึ้นไป/ตัน, ข้าวหอมมะลิ 18,000 บาทขึ้นไป/ตัน, อ้อย 1,000 บาทขึ้นไป/ตัน, ยางพารา 65 บาทขึ้นไป/กิโลกรัม, มันสำปะหลัง 3 บาทขึ้นไป/กิโลกรัม และปาล์ม ราคาเป้าหมาย 5 บาท/กิโลกรัม

ส่วนพี่น้องที่ใช้แรงงานค่าแรงต้องเพิ่มเพราะ 7 ปีที่ผ่านมา ค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นเพียง 25บาท โดยที่ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าหลายเท่าตัว พรรคพลังประชารัฐจะเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400-425 บาท

เงินเดือนเด็กจบใหม่สายอาชีวะ 18,000 บาทและปริญญาตรี 20,000 บาท ต่อเดือน ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐ เราจะดูแลทั้งภาคเกษตรและผู้ใช้แรงงาน ทั้ง 14.6 ล้านคน อย่างรอบคอบเพื่อกินดีอยู่ดีแบบยั่งยืน

ผลิตโดย พรรคพลังประชารัฐ พรรคพลังประชารัฐ 130/1 ซอยรัชดาภิเษก 54 ถนนรัชดาภิเษก แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 จำนวน 1 ชุด ตามวันเวลาที่ปรากฏ ที่ส่งมาในครั้งนี้”

21 ก.ค.62 สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้จัดส่งคำแถลงนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อแจกจ่ายให้กับสมาชิกรัฐสภา ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะมีการแถลงต่อที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 09.30 น. ที่ หอประชุมใหญ่ บ.ทีโอที จำกัด (มหาชน)

“รัฐบาลนี้จึงมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประเทศไทยให้หลุดพ้นจากกับดัก ประเทศรายได้ปานกลาง มีการดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง แก้ไขปัญหาปากท้องและสร้างรายได้ให้ ประชาชนให้เพียงพอต่อการดํารงชีวิตเพื่อลดความเหลื่อมล้ํา คนไทยในทุกช่วงวัยจะมีความพร้อม ทั้งในด้านหลักคิด คุณธรรม และจริยธรรม และมีศักยภาพที่จะดําเนินชีวิตในศตวรรษที่ 21 เราจะ ร่วมกันสร้าง “การเติบโตเชิงคุณภาพ” ไม่ใช่ “การเติบโตเชิงปริมาณ” ทั้งนี้ การบริหารราชการ แผ่นดินของรัฐบาลนี้ จะมุ่งเน้นการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ให้ทันการเปลี่ยนแปลง เสริมสร้างความเข้มแข็งและแก้ไขปัญหาที่ยังดํารงอยู่ของภาคส่วนต่าง ๆ ภายในประเทศ เพื่อให้ ประเทศไทยมีภูมิคุ้มกันและมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะเผชิญกับสถานการณ์ความไม่แน่นอน จากปัจจัยต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง และมีความเข้มแข็ง ในระยะยาว”

ประเด็นผู้ลี้ภัย หนึ่งในเรื่องร้อนที่สุดเวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีไทยผลักดันผู้ลี้ภัยกะเหรี่ยงหนีจากการโจมตีของกองทัพพม่ากลับประเทศ เมื่อ 30 มี.ค.64“เราต้องดูแลตามมนุษยธรรม ประสบการณ์เราเยอะเรื่องนี้ไม่ต้องห่วง ไม่มีการผลักดัน เราผลักดันไปไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าเขารบๆ กันอยู่จะผลักดันไปได้ยังไง ถ้าไม่มีก็กลับไปก่อนได้ไหม”

ก่อนที่ทางมูลนิธิเพื่อนไร้พรมแดน จะชี้แจงเมื่อ 30 มี.ค.64 ผ่าน BBCThai “มีผู้ลี้ภัยที่กลับขึ้นเรือไปก่อนมืดไม่ทันจำนวนหนึ่งที่นอนอยู่ริมแม่น้ำฝั่งไทย โดยมีลวดหนามที่เจ้าหน้าที่นำมากั้นไม่ให้ขึ้นจากฝั่งเข้ามาในประเทศไทย ดังนั้น สถานที่ดังกล่าวจึงน่าจะยังมิใช่สถานที่ปลอดภัย อีกทั้งผู้ลี้ภัยได้รับคำสั่งไว้ว่าจะต้องเดินทางกลับในเช้าวันนี้”

และส่วนหนึ่งของแถลงการณ์จากสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคบียู) 30 มี.ค.64 “เราขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ รวมทั้งรัฐบาลไทยให้ความช่วยเหลือและความคุ้มครองด้านมนุษยธรรมที่จําเป็นแก่ประชาชนของเรา ที่หลบหนีจากการโจมตีของทหารเมียนมาในเวลานี้”

กระแส #Svaeบางกลอย ก็ถูกพูดถึงอย่างมากในปีที่ผ่านมา หลังเกิดข้อพิพาทชาวบางกลอยกับจนท. 23 กุมภาพันธ์ 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “เราเป็นห่วงเรื่องชาติพันธุ์มาโดยตลอด ทุกรัฐบาลก็เป็นห่วงเรื่องนี้มา ซึ่งก็มีการดูแลอย่างเต็มที่ วันนี้ยืนยันจะไม่รุนแรงขึ้นเหมือนในอดีต จะว่าด้วยกฎหมาย หลักฐาน ข้อเท็จจริง และจะดูแลชาวบ้านบางกลอยที่มีที่อยู่อาศัยทำกินให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

แต่เมื่อ 16 มีนาคม 2564พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกอย่างว่า “แต่การจะกลับไปอยู่ใจกลางอุทยานที่เรียกว่าหัวใจแผ่นดินมันจะได้หรือไม่ แล้วคนอื่นอยู่ได้หรือไม่ ก็ไม่มีใครอยู่ได้ทั้งนั้น เราก็ดูแลให้เขามีสิทธิในที่ทำกินต่างๆ ขณะที่บางคนของเรายังไม่มีที่ทำกินสักตารางนิ้วใช่หรือไม่ แต่เราต้องดูแลเขาในเมื่อเขาอยู่ในประเทศไทยเป็นคนไทย ก็ต้องดูตามกฎหมาย”