‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่คสช. กรำศึกการเมืองแทน ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ทั้งสัปดาห์ หลังมีกำหนดการเยือนต่างประเทศยาว 3 ประเทศ ทั้งงานรำลึก 100 ปี สงครามโลกครั้งที่1 ที่ฝรั่งเศส , ASEAN Summit ที่สิงคโปร์ และ APEC 2019 ที่ปาปัวนิวกินี ท่ามกลางสถานการณ์ฝั่งการเมืองเคลื่อนไหวหนักขึ้น ทำให้ ‘บิ๊กป้อม’ ต้องออกโต้เองทั้งหมดแทนนายกฯ เพราะนั่งรักษาการแทนนายกฯอยู่ด้วย
.
อย่างน้อยๆ ‘บิ๊กป้อม’ แม้จะถูกมองว่าเป็น ‘จุดอ่อน’ ของรัฐบาลและคสช. ที่เรื่องต่างๆที่เข้ามา แต่ก็เป็น ‘พี่ชายที่แสนดี’ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ช่วยรับศึกที่เข้ามา ทำให้หลายเรื่อง ‘บิ๊กตู่’ ไม่ต้องมาตอบเอง แต่ได้ ‘พี่ป้อม’ ช่วยเคลียร์ให้หมด แต่ในบางเรื่อง ‘บิ๊กตู่’ ก็ต้องออกมาเคลียร์ให้ ‘พี่ป้อม’ เพราะให้สัมภาษณ์หรือมีเรื่องราวทำให้ ‘ครม.ประยุทธ์’ เสียเรตติ้ง-กองหนุนลด ซึ่งทุกอย่างก็ผ่านมาได้ตลอด 4 ปี และล่าสุดก็ให้ ‘บิ๊กป้อม’ นั่งเป็น ‘หัวหน้าคสช.’ ชั่วคราว เพื่อนำประชุมคสช.ด้วย

แต่ดูเหมือน ‘บิ๊กป้อม’ จะยังไม่ ‘ฟันธง’ จะลงสนามการเมืองต่อหรือไม่ เพราะที่ผ่านไม่เคยให้คำตอบชัด โดย ‘เปิดช่อง’ไว้อยู่ที่นายกฯจะชวนไปร่วมงานหรือไม่ แต่ตอนนี้แค่บอกว่ายังไม่ชอบพรรคใดเลย แต่ที่แน่ๆ ‘บิ๊กป้อม’ ย้ำชัดมาตลอด ‘หนุน’ น้องชายคนนี้ไปตลอดแน่นอน แม้ว่า ‘บิ๊กตู่’ จะแค่ประกาศ “ผมสนใจงานการเมือง” แต่ยังไม่ระบุชัดจะไปในทิศทางใดและพรรคไหน
.
“สนับสนุนสิ ทำไมจะไม่สนับสนุน” พล.อ.ประวิตร กล่าวสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์
.
“ผมยังไม่เล่น เลยต้องถามสื่อว่าอยากให้อยู่พรรคไหน แต่ตอนนี้ยังไม่ชอบเลยสักพรรค นโยบายอะไรก็ไม่ถูกใจ”พล.อ.ประวิตร กล่าว
.
แต่เชื่อกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องจะต้องไป ‘พรรคพลังประชารัฐ’ หลัง 4 รัฐมนตรีไปปูทางสร้างพรรคไว้ รวมทั้งได้อดีตส.ส.อีสานมารวมทัพหลายคน อย่างน้อยๆ ศึกครั้งนี้เครือข่ายหนุน คสช. เตรียมเจาะภาคอีสานให้ได้ อีกช็อตที่ต้องมองอีก คือ ‘บิ๊กตู่’ จะเป็น ‘นายกฯคนในหรือคนนอกบัญชีรายชื่อ’ ที่แต่ละพรรคจะต้องยื่นกับ กกต. และ พล.อ.ประยุทธ์ จะไปรับตำแหน่งในพรรคใดหรือไม่ เช่นที่เคยมีข่าวไปนั่ง ปธ.ที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ มาแล้ว ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็ชี้แค่ว่าการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะกลับมาเป็น นายกฯ อีกครั้งต้องดูที่ รธน.2560
.
“จะเป็นแบบไหน ก็เป็นแบบที่รัฐธรรมนูญเขาว่า และผมไม่รู้ว่ามีพรรคการเมืองใดมาทาบทาม นายกฯ แล้วบ้าง และ นายกฯ เองก็ยังไม่รู้ว่าจะเล่นหรือเปล่า” พล.อ.ประวิตร กล่าว 13พ.ย.61
.
ท่ามกลางแรงเคลื่อนไหวในรอบสัปดาห์ที่มีรายงานว่า 2 พี่น้องอดีตนายกฯ ‘ทักษิณ – ยิ่งลักษณ์’ บินมายังสิงคโปร์ ซึ่งเป็นห่วงรอยต่อที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประชุมอาเซียน ที่สิงคโปร์พอดี จึงทำให้มีเสียงลือกันว่างานนี้จะเจอหรือสวนทางกันหรือไม่ เช่นเดียวกับที่ พล.อ.ประวิตร โดนมาก่อนหน้านี้ช่วงไปอังกฤษ จนต้องออกมาปฏิเสธว่า ‘สวนทางกัน’ และครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ก็ออกมาปฏิเสธให้ ‘น้องรัก’ อีกครั้ง
.
“คงไม่บังเอิญเจออย่างแน่นอน เพราะคนหนึ่งไปทำงานและอีกคนหนึ่งไปเที่ยว” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ด้วยสถานการณ์ของ ‘เครือข่ายเพื่อไทย’ ที่แตกย่อยออกมาเป็น ‘ตระกูลเพื่อ-ทษช.’ ทั้ง เพื่อชาติ เพื่อธรรม และไทยรักษาชาติ ที่ระดับ ‘แม่ทัพนายกอง’ ไปอยู่ที่ ‘พรรคไทยรักษาชาติ’ หลายคน หลัง ‘หญิงหน่อย’คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ขึ้นมานำพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะทีมงานของ ‘ยิ่งลักษณ์’ ที่ไปร่วมพรรคไทยรักษาชาติ จนทำให้เกิดวาทะไม่ใช่แค่ ‘แตกพรรค’ แต่เกิด ‘พรรคแตก’ ขึ้นแล้ว อีกทั้งคนที่ยังอยู่พรรคเพื่อไทย ล้วนถูกมองว่าเป็น ‘ศิษย์หญิงหน่อย’ ไปด้วย
.
ทั้งหมดนี้จึงทำให้ ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ ต้องบินมาสิงคโปร์ เพื่อ ‘จัดทัพ-เคลียร์ใจ’ และจัดการปัญหาต่างๆ เพราะเลือกตั้งครั้งนี้ต้องสู้กับ ‘เครือข่ายหนุนคสช.’ อีกจำนวนมาก และต้องเตรียม ‘ต่อรอง’ กับพรรคที่ยังไม่เลือกข้างจะ ‘หนุน-ไม่หนุน’ คสช. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพรรคขนาดกลาง โดยสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนหลายเรื่อง ที่ต้องจับตาอยู่ที่ ‘ยิ่งลักษณ์’ หลังกลับมาใช้โซเชียลฯมากขึ้น ซึ่งไม่ได้เน้นโพสต์เรื่องการเมือง แต่โพสต์สิ่งที่เป็นสาระเชิงนโยบายและนวัตกรรมต่างๆมากขึ้นด้วย แน่นอนว่า ‘ศึกเลือกตั้ง’ ครั้งนี้ ‘เพื่อไทย-ไทยรักษาชาติ’ ทุ่มสุดตัว

ท่ามกลางกระแสการ ‘เลื่อนเลือกตั้ง’ ที่ถูกปลุกอยู่ตลอด ทั้งฝั่งพรรคขนาดเล็กที่ระบุว่าไม่พร้อมเลือกตั้ง 24ก.พ.62 โดยขอให้เลื่อนไป 5พ.ค.62 แทน หรือแม้แต่ความกังวลของสังคมว่า คสช. จะคิด ‘ตุกติก’ อีกหรือไม่ ? หรือแม้แต่ที่ ‘ตู่’จตุพรพรหมพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อชาติ ที่กังวลว่า คสช. รัฐบาล และ กกต. จะร่วมมือกันเลื่อนเลือกตั้งออกไป หรือที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น ‘ยืมปาก กกต.’ นั่นเอง
.
“พูดอย่างนั้นได้อย่างไร จะตุกติกได้อย่างไร คสช.วางโรดแมปมานานแล้ว พูดแบบนี้มาชกกันดีกว่า” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ทั้งหมดนี้เป็นสถานการณ์ห้วง ‘ปี่กลองเลือกตั้ง’ ดังขึ้นแล้ว ที่นักการเมืองแต่ละคน ‘จัดทัพ-สลับค่าย’ เพื่อให้ตัวเอง ‘ได้เปรียบ’ ที่สุดในพื้นที่ทางการเมือง หรือมีข้อเสนอที่ทำให้ฝ่ายตัวเองรู้สึกแฟร์ที่สุด แน่นอนว่า ‘บิ๊กตู่’ ในฐานะ หัวหน้าคสช. ที่ต้องคุมสถานการณ์ จะต้องประคองบ้านเมืองให้มีการเลือกตั้งให้ได้และจนกว่าจะมี ‘รัฐบาลใหม่’ คสช.พ้นจากอำนาจ ไม่ว่าเวลานั้น ‘บิ๊กตู่’ จะได้เป็น ‘นายกฯอีกครั้ง’ หรือไม่ก็ตาม ด้วยสถานการณ์ข้างหน้าที่พลิกได้ทุกเมื่อและยากจะควบคุมได้เบ็ดเสร็จ