น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในเดือนพฤศจิกายน 2559

เป็น”คนเดิม” แต่ดำรงอยู่อย่าง”ไม่เหมือนเดิม”

ไม่ว่าจะมองผ่านกฎแห่ง “อนิจจัง” ไม่ว่าจะมองผ่านกฎแห่ง”การเปลี่ยนแปลง”

ล้วนต้อง “ยอมรับ”

แรกที่เข้าสู่สนาม “การเมือง” โดยกระบวนการ”การเลือกตั้ง” ถือได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร “ละอ่อน”อย่างยิ่ง

เวลาเคี่ยวกรำ 49 วัน สั้นเหลือเกิน

เมื่อได้รับชัยชนะและเข้าดำรงตำแหน่งเป็น”นายกรัฐมนตรี” ก็ต้องเผชิญกับ”มหาอุทกภัย”ในเดือนตุลาคม 2554

เท่ากับเป็น”การต้อนรับน้องใหม่”สุดโหด

ใหม่ทั้งทาง”การเมือง” ใหม่ทั้งในตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี”ละล้าลัง ไม่รู้จักใคร ไม่รู้จะหันหน้าไปพึงใคร

ผ่านเดือนธันวาคม 2554 มาด้วยความทุลักทะเล

ท่ามกลางการห้อมล้อมของ “ปรปักษ์” อันมากด้วย”เขี้ยวเล็บ”และความจัดเจนทางการเมือง

ท่ามกลางการดูหมิ่น เหยียดหยาม เยาะเย้ย ไพ

จากเดือนกรกฎาคม 2554 อันเต็มไปด้วยเสียงหมิ่นหยามมาถึงเดือน พฤศจิกายน 2559

เสียงหมิ่นหยามยังคงอึกทึก กึกก้อง

ความประสงค์ร้าย และต้องการบดขยี้ ทำลายในทางการเมือง ยังดำรงอยู่

เหมือนที่ประสบตอน”ชัตดาวน์”

เหมือนที่ประสบตอนถูกรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 และรุกไล่อย่างต่อเนื่อง

ทั้งใน”ป.ป.ช.” ทั้งใน “สนช.”

ไม่เพียงแต่จะถูก”ถอดถอน” ซ้ำแล้วซ้ำอีก หากแต่ยังทำท่าจะ “ยึดทรัพย์” ไม่น้อยกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท

แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับ”เผชิญ”อย่างเยือกเย็น

ไม่เพียงแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเข้าไปเผชิญอย่างไม่มีทางเลือก หากแต่ยัง”เดินหน้า”อย่างมี “สมาธิ “

มีสมาธิในการเดิน “ขึ้นศาล”

มีสมาธิในการถูกโจมตี กล่าวหา จาก”ปรปักษ์”เดิมๆในทางการเมือง

มีสมาธิในการเข้าไปหา”ชาวนา”

และเมื่อ “ชาวนา”ประสบความเดือดร้อนจากวิกฤตเนื่องแต่ราคาข้าวเสื่อมทรุด ตกต่ำ ก็พร้อมช่วยเหลือ

เหมือนกับว่ามีชะตากรรมอย่างเดียวกัน

“สมาธิ”และ”ความแข็งแกร่ง”เช่นนี้เกิดขึ้นกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้อย่างไร

วิถีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงเหมือนกับ”จันทน์หอม”

นั่นก็คือ ยิ่งถูกกลั่นแกล้ง ยิ่งถูกทุบ ยิ่งส่ง”ความหอม”ขจร ขจาย

กลายเป็น”ยิ่งลักษณ์”คนใหม่มากด้วย”ความแกร่ง”