ฝ่ายปกครองและตำรวจอำเภอบ้านฝาง ร่วมจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 2 ราย ของกลางยาบ้า 342,000 เม็ด ผู้ว่าฯ ขอนแก่น สั่งเดินหน้าขยายผล

ฝ่ายปกครองและตำรวจอำเภอบ้านฝาง ร่วมจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 2 ราย ของกลางยาบ้า 342,000 เม็ด ผู้ว่าฯ ขอนแก่น สั่งเดินหน้าขยายผล พร้อมกำชับต้องดำเนินการ ปราบยาเสพติดอย่างต่อเนื่องและจริงจัง หากพี่น้องประชาชน พบเบาะแสแจ้งสายด่วน 1567 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

วันนี้ (27 เม.ย. 67) นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จังหวัดขอนแก่น ได้ดำเนินการเพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งเชิงรุกตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในการประกาศสงครามกับยาเสพติด โดยมุ่งเป้า Re X- ray ทุกพื้นที่ ทุกอำเภออย่างต่อเนื่องเพื่อกวาดล้างยาเสพติดให้หมดสิ้น ตนจึงได้สั่งการให้ นายประจวบ รักแพทย์ ปลัดจังหวัดขอนแก่น นายกานต์ ทองเสน นายอำเภอบ้านฝาง/ผอ.ศป.ปส.บ้านฝาง ปลัดอำเภอบ้านฝาง และสมาชิกอส.อ.บ้านฝางที่ 11 ประสานการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกตรวจตรารักษาความสงบในพื้นที่อำเภอบ้านฝาง หลังได้รับรายงานว่ามีการลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านฝาง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบ้านฝาง จึงได้ออกตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบ พบรถกระบะต้องสงสัยอยู่บริเวณป่าข้างถนนหลังวัดป่าศิริธรรม ของหมู่บ้านหนองบัว หมู่ที่ 8 ตำบลหนองบัว อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น จึงได้เรียกให้หยุดรถและตรวจสอบ พบของกลาง ยาบ้าจำนวน 2,000 เม็ด จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคือนายจินดา (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี และนางสาวรุ่งทิพย์ สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลนำไปตรวจค้นที่ ห้องเช่าในพื้นที่ หมู่ที่ 3 บ้านหัวนา ตำบลจระเข้ อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น พบยาบ้าอีก 340,000 เม็ด รวมทั้งสิ้น 342,000 เม็ด ผู้ต้องหารับว่ายาบ้าเป็นของตน จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านฝาง ดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ จะดำเนินการสืบสวนขยายผล หาผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมต่อไป

นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมต่อไปว่า ตนได้สั่งการให้ขยายผลคดีนี้ไปถึงต้นตอของขบวนการค้ายาเสพติดนี้ให้ได้ ซึ่งการจับกุมและดำเนินคดีผู้กระทำผิดในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในผลของการดำเนินมาตรการเชิงรุก จากการประกาศสงครามกับยาเสพติดตามที่กระทรวงมหาดไทยได้มีนโยบายให้ทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อลงตรวจพื้นที่ที่มีความสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ซึ่งถือเป็นจุดหมายปลายทาง ของการแพร่กระจายยาเสพติดลงไปสู่ประชาชน และเยาวชน เพราะฉะนั้นในวันนี้ ตนจึงขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายตำรวจและฝ่ายปกครองทุกคนมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานอย่างต่อเนื่องและจริงจัง เพิ่มความเข้มข้นกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้เต็มที่ เพราะนอกจากจะเป็นการเพิ่มความเข้มข้นในการปราบปรามยาเสพติดแล้ว ยังเป็นการกู้คืนพื้นที่ของความมั่นคงโดยเฉพาะความมั่นคงทางจิตใจและสังคมให้แก่พี่น้องประชาชนในจังหวัด รวมทั้งพี่น้องประชาชนต้องมาร่วมกันเป็นหูเป็นตา สอดส่อง แจ้งเบาะแส ของการกระทำผิดกฎหมาย ให้กับเจ้าหน้าที่ได้ทราบโดยเร็วโดยสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดทุกประเภท ได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อที่จะสามารถตรวจตรา จับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด และ สร้างภูมิคุ้มกัน ปกป้องให้สังคมห่างไกลจากยาเสพติด และอันตรายต่างๆ ที่อาจตามมาได้อย่าง “ทันท่วงที“

#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #MOI