ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 3 - 9 พฤษภาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศ |
เผยแพร่ |
สภาพอากาศในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตอนนี้ ถือว่า “ร้อนระอุ” กันสุดสุด ไม่ใช่แค่เฉพาะประเทศไทยของเราเท่านั้น แต่บรรดาประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอง ก็กำลังเผชิญกับ “คลื่นความร้อน” ที่พัดถาโถมเช่นกัน
โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงทะลุ 45 องศาเซลเซียส
จนบางประเทศถึงขั้นต้องประกาศให้โรงเรียนหยุดการเรียนการสอนชั่วคราว เพื่อหนีคลื่นความร้อนระอุสุดสุดในตอนนี้
โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน ประเทศฟิลิปปินส์ได้ประกาศระงับการเรียนการสอนในห้องเรียนของโรงเรียนรัฐบาลทั้งหมด เป็นเวลา 2 วัน หลังจากอุณหภูมิในกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ พุ่งสูงขึ้นไปถึง 38.8 องศาเซลเซียส ขณะที่ดัชนีความร้อน หรืออุณหภูมิที่คนเรารู้สึกได้ พุ่งสูงขึ้นเป็น 45 องศาเซลเซียส
เหตุที่ต้องปิดการเรียนการสอนในห้องเรียน เพราะโรงเรียนหลายแห่งในฟิลิปปินส์ไม่มีการติดเครื่องปรับอากาศ
ขณะที่ประเทศไทยก็มีรายงานผู้เสียชีวิตจากฮีตสโตรกแแล้วอย่างน้อย 30 คนในปีนี้ ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด แม้แต่ภาคเหนือ ที่อุณหภูมิเมื่อวันที่ 27 เมษายน พุ่งสูงขึ้นไปถึง 44.1 องศาเซลเซียส
ขณะที่ประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา เมียนมา เวียดนาม อินเดีย บังกลาเทศ ก็มีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยทะลุ 40 องศาเซลเซียสแล้วเช่นกัน
อย่างเมียนมา ก็มีการทำลายสถิติ กลายเป็นเดือนเมษายนที่ร้อนที่สุด นับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติมา 56 ปี โดยมีอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของเดือนเมษายนถึง 3-4 องศาเซลเซียสในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และอากาศร้อนสุดอยู่ที่เมืองเชาะ ตอนกลางของประเทศ ที่อุณหภูมิเมื่อวันที่ 28 เมษายน พุ่งสูงขึ้นไปถึง 48.2 องศาเซลเซียส
วันเดียวกันที่นครย่างกุ้ง ก็อุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ส่วนที่เมืองมัณฑะเลย์ ก็ไม่น้อยหน้า เพราะอุณหภูมิสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ อยู่ที่ 44 องศาเซลเซียส และยังมีการแจ้งเตือนว่า อุณหภูมิในประเทศเมียนมาก็จะยังคงสูงขึ้นไปอีก
ส่วนประเทศเวียดนาม มีการคาดการณ์ว่า อุณหภูมิในช่วง 5 วันหยุดแห่งชาติ จะสูงสุดที่ 41 องศาเซลเซียส ทางตอนเหนือของประเทศ และอากาศจะยังคงร้อนจัดไปจนสิ้นเดือนเมษายน โดยอากาศจะเริ่มเย็นขึ้นในเดือนพฤษภาคม
ไปดูทางเอเชียใต้กันบ้าง อย่างประเทศอินเดีย ที่กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอุณหภูมิบางแห่งเพิ่มสูงขึ้นไปถึง 44 องศาเซลเซียส
ขณะที่เมื่อวันที่ 29 เมษายน ศาลบังกลาเทศได้สั่งให้โรงเรียนทั่วประเทศหยุดการเรียนการสอน เนื่องจากคลื่นความร้อนที่ยังคงทำให้บังกลาเทศร้อนระอุอยู่ในตอนนี้ โดยคำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเพิ่งเปิดเรียนได้ 1 วันเท่านั้น หลังมีคำสั่งปิดเรียนเพราะร้อนไปก่อนหน้านี้ โดยคำสั่งปิดการเรียนในบังกลาเทศ จะปิดไปถึงวันที่ 2 พฤษภาคม
จริงๆ แล้ว ในภูมิภาคนี้ ปกติแล้วเดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคม ก็จะเป็นเดือนที่ร้อนและแห้งที่สุดของปีอยู่แล้ว แต่ปีนี้มีความร้อนเป็นพิเศษ อันเนื่องมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญ
เมื่อปีที่ผ่านมา โลกเรามีอุณหภูมิสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ซึ่งก็เป็นเพราะผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญเช่นกัน แต่ด้วยความที่โลกต้องเจอกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศระยะยาวเข้าไปอีก ทำให้ความร้อนะอุถูกส่งต่อมาจนถึงปีนี้
โดยองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) แจ้งว่า เอเชียจะอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นผลจากคลื่นความร้อนในภูมิภาคที่มีความรุนแรงมากขึ้น
ขณะที่การศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก เป็นผลให้คลื่นความร้อนอยู่ยาวนานขึ้น บ่อยขึ้น และรุนแรงมากขึ้น
เป็นเหตุให้ตอนนี้ เราถึงได้ร้อนกันแบบที่หลายคนบอกว่า ไม่เคยเจออากาศร้อนสุดสุดแบบนี้มาก่อน
เครดิตภาพ “เอพี”
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022