ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จับมือ โปรฟาสซิโน และ บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค  พัฒนานักศึกษา เพื่อรับตลาดแรงงานให้การบริการสุขภาพ  เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ

ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จับมือ โปรฟาสซิโน และ บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค  พัฒนานักศึกษา เพื่อรับตลาดแรงงานให้การบริการสุขภาพ  เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ และการเป็นศูนย์กลางบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพระดับโลก  

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) กับ บริษัทโปรฟาสซิโน จำกัด และบริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด ร่วมพัฒนาหลักสูตรเภสัชศาสตร์ และวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ  เพื่อรับตลาดแรงงานให้การบริการสุขภาพ  เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ และยุทธศาสตร์ของประเทศที่มุ่งหวังให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพระดับโลก  โดยมี ผศ.ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดี สายงานวิชาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ภก.ไชยเสน พิศาลวาเลิศ ประธานกรรมการบริษัท โปรฟาสซิโน จำกัด  และ ภก.สุวิทย์ งามภูพันธ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด  ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ผลักดันองค์ความรู้ด้านเภสัชกรรม เครื่องสำอาง และสมุนไพร  เป็นแหล่งฝึกปฏิบัติ รวมถึงสร้างนักเภสัชกร และนักวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางให้มีความรู้ทางธุรกิจยุคใหม่

ผศ.ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดี สายงานวิชาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า การทำ MOU เป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างเรากับสถานประกอบการ เพื่อเป็นแหล่งที่จะให้นักศึกษาไปฝึกงาน หรือไปทำงานจากประสบการณ์จริงได้ รวมถึงความร่วมมือในการวิจัยนำภูมิปัญญาไทย และการใช้สมุนไพร สร้างจุดแข็งด้านการผลิตยา อาหารเสริม และเครื่องสำอาง ให้แก่ประเทศ อันเป็นการเตรียมความพร้อมรับสังคมผู้สูงอายุ

ภก.ไชยเสน พิศาลวาเลิศ ประธานกรรมการบริษัท โปรฟาสซิโน จำกัด  กล่าวถึงความร่วมมือในการเป็นแหล่งฝึกงานให้แก่มหาวิทยาลัย  จะช่วยให้นักศึกษาได้ประสบการณ์จริงได้ รู้สภาพแวดล้อมของธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบัน และการเตรียมความพร้อมบุคลากรในการผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพระดับโลก

ภก.สุวิทย์ งามภูพันธ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด ได้กล่าวว่า ความร่วมมือกันในครั้งนี้จะเป็นการช่วยสร้างนักเภสัชกร และนักวิทยาศาสตร์ให้มีความรู้เรื่องธุรกิจควบคู่กับความรู้ทางวิชาชีพเฉพาะ  ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญในการจะสร้างความเติบโตให้แก่อุตสาหกรรมการผลิตยาของประเทศ ให้สามารถแข่งขันในระดับโลกต่อไป