สุดปลื้ม! พ่อเมืองคอน นำประธานแม่บ้านทหารบก ภาค 4 เยี่ยมชมพื้นที่ต้นแบบโคก หนอง นา โมเดลภายในจวนผู้ว่าฯ

สุดปลื้ม! พ่อเมืองคอน นำประธานแม่บ้านทหารบก ภาค 4 เยี่ยมชมพื้นที่ต้นแบบโคก หนอง นา โมเดลภายในจวนผู้ว่าฯ เพื่อขยายผลและต่อยอดตามแนวพระราชดำริ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน”

วันนี้ (30 เม.ย. 66) เวลา 09.00 น.​ นายอภินันท์​ เผือกผ่อง​ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช​ พร้อมด้วยนางพิชานันท์​ เผือกผ่อง​ ประธานแม่บ้าน​มหาดไทย​จังหวัด​นครศรี​ธรรมราช ร่วมให้การต้อนรับ นางปิยะนุช ศกุนตนาค ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 4 และคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมแปลงโคก หนอง นา ภายในจวนผู้ว่าราชการจังหวัด โดยมี นายจตุพล ศรีดำ พัฒนาการจังหวัดนครศรีธรรมราช และคณะ ร่วมให้การต้อนรับ และนำชม

นายอภินันท์​ เผือกผ่อง​ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช​ กล่าวว่า แปลงโคก หนอง นา ภายในจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดขึ้นด้วยพลังความรักสามัคคีของภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช นำโดยภาคีเครือข่ายภาคราชการ ได้ร่วมกันใช้พื้นที่หลังจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ขนาดพื้นที่ 200 ตารางวา โดยนำพี่น้องกลุ่ม โคก หนอง นา และ กลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงมาร่วมกันเอามื้อเอาแรง ใช้ จอบ เสียม พร้า ไม่ใช้เครื่องจักรกลใด ๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงทุน และร่วมกันปลูกข้าว พืช ผัก ผลไม้ ไม้เศรษฐกิจ และพืชสมุนไพรกว่า 30 ชนิด เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา เลี้ยงผึ้ง ปัจจุบันเกี่ยวข้าวแล้วหนึ่งรอบ เก็บผักทำอาหาร ที่เหลือแบ่งปันเพื่อนข้าราชการ พี่น้องประชาชน ตลอดจนนำไปจำหน่ายรายได้มาเป็นกองทุนให้สมาชิก อส. ที่ปฏิบัติหน้าที่ภายในจวนได้อีกทางหนึ่งด้วย

“โดยโคก หรือ “พื้นที่สูง”จะปลูกป่าโดยทำเป็นป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง สามารถปลูกพืช ผัก ผักสวนครัว เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ หรือเลี้ยงปลา โดยจะทำให้ความเป็นอยู่ของเกษตรกรเป็นแบบพอกินพอใช้ หรือตามแนวทางขั้นพื้นฐานของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดย “หนองน้ำหรือแหล่งน้ำ” เป็นการขุดหนองเอาไว้เพื่อกักเก็บน้ำที่มีความจำเป็นช่วงหน้าแล้ง ช่วงที่มีน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วม หรือเป็นหลุมที่เอาไว้รับน้ำที่จะมาท่วมขัง (หลุมขนมครก) โดยการขุดปกติแล้วจะเรียกว่าคลองไส้ไก่ หรือคลองที่ใช้ระบายน้ำซึ่งเป็นพื้นที่ตามภูมิปัญญาแบบชาวบ้าน การขุดจะมีลักษณะคดเคี้ยวออกไปตามพื้นที่ เพื่อเป็นการกระจายน้ำให้เต็ม ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดพลังงานไม่ต้องไปรดน้ำต้นไม้ และนา ถือเป็นพื้นที่ให้ปลูกข้าวอินทรีย์ตามแบบฉบับพื้นบ้าน ซึ่งประโยชน์ของโคก หนอง นา คือ ช่วยให้เราประหยัดมากขึ้น เพราะสามารถปลูกพืชต่าง ๆ ไว้ในพื้นที่และสามารถใช้สอยได้ครอบคลุมทุกปัจจัย ช่วยลดความตึงเครียดด้านเศรษฐกิจ ลดความกังวลเรื่องรายรับในช่วงที่ติดขัดต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังไม่ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม หรือความแห้งแล้งภายในพื้นที่” ผวจ.นครศรีธรรมราช กล่าว

นายอภินันท์​ เผือกผ่อง​ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช​ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ได้พัฒนาพื้นที่ในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมจนกลายเป็นผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม เช่น ถังขยะเปียกลดโลกร้อน 100% บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเองก็ 100% ทำให้ครอบครัวมีความรัก ความอบอุ่น ซึ่งการปลูกผักสวนครัวไว้รับประทานในบ้านนอกจากจะลดรายจ่ายอย่างน้อยวันละ 50 บาทแล้ว ยังทำให้พี่น้องประชาชนมีผักปลอดภัยที่ไม่มียาฆ่าแมลง ไม่มีสารเคมีตกค้างบริโภค อันเป็นประโยชน์กับสุขภาพ และไม่เพียงลดรายจ่ายค่าพืชผักสวนครัว ยังเป็นการลดรายจ่ายค่ารักษาพยาบาลเพราะได้บริโภคอาหารที่มีประโยชน์ ถูกสุขอนามัย ซึ่งหากเราคิดทั้งปี 50 บาท x 30 วัน เท่ากับ 1,500 บาท x 12 เดือน สามารถประหยัดได้ครัวเรือนละ 18,000 บาท ถ้านับเป็น 10 ปี สามารถประหยัดเงินได้ถึงครัวเรือนละ 180,000 บาท อันจะทำให้ได้มีเงินทุนสำหรับไปประกอบสัมมาชีพ ไปส่งลูกเรียนหนังสือ ไปอดออมไว้เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินคนในครอบครัวเจ็บไข้ได้ป่วยในอนาคต

นางปิยะนุช ศกุนตนาค ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 4 กล่าวชื่นชมการดำเนินงานของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และคณะข้าราชการของจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ได้ลุกขึ้นมาเป็นผู้นำในการน้อมนำหลักการพึ่งพาตนเอง ตามแนวทางของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานไว้ให้กับพวกเราคนไทย โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมุ่งมั่นในการสืบสาน รักษา และต่อยอด โดยมีภาคีเครือข่ายภาคราชการ เป็นผู้นำในการดำเนินงาน รวมไปถึงการขับเคลื่อนโครงการพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในด้านการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร นอกเหนือจากพี่น้องประชาชนจะได้รับประโยชน์โดยตรงอย่างแท้จริงแล้ว ยังสามารถบูรณาการร่วมกับการขับเคลื่อนของกองทัพบก คือ “โครงการทหารพันธุ์ดี” นี้เป็นโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เพื่อพระราชทานแก่ประชาชนที่ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงและพระราชทานให้ทหารกองประจำการที่ปลดประจำการไปแล้วนำไปขยายผลในพื้นที่ชุมชนของตนเอง ดังมีพระกระแสรับสั่งว่า “พื้นที่ดำเนินโครงการต้องมี ดินดี น้ำดี อากาศดีและเมล็ดพันธุ์พืชต้องดีด้วย ซึ่งในท้องตลาดนั้น เมล็ดพันธุ์มีราคาแพง การผลิตเม็ดพันธุ์นี้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย โดยการผลิตนี้ ด้วยเราเอง และนำออกไปช่วยเหลือประชาชนต่อไป และเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่สุดไม่มีเจือปน เน้นการใช้ธรรมชาติมากที่สุด ไม่มีสารเคมี และผักที่ปลอดภัยรับรองโดยกรมวิชาการเกษตร ต้องได้รับ GAP การเก็บเกี่ยวต้องใช้ด้วยมือ ซึ่งทหารจะเป็นหน่วยงานที่ทำได้ดีที่สุด”

นายอภินันท์​ เผือกผ่อง​ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช​ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชมุ่งมั่นในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับพี่น้องประชาชน ด้วยการน้อมนำหลักการทรงงาน น้อมนำแนวพระราชดำริต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาทำให้พี่น้องประชาชนสามารถมีแนวทางในการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง รู้จักการดูแลช่วยเหลือเกื้อกูลกันในสังคม มีความรู้รักสามัคคี อันจะทำให้สังคมมีความเข้มแข็ง โดยเริ่มตั้งแต่หน่วยที่เล็กที่สุดคือครอบครัว เมื่อครอบครัวเข้มแข็ง ก็จะทำให้ชุมชนเข้มแข็ง เมื่อชุมชนเข้มแข็งก็จะทำให้ตำบลเข้มแข็ง เมื่อตำบลเข้มแข็งก็จะส่งผลให้อำเภอ ให้จังหวัด และประเทศไทยของพวกเราทุกคนมีความเข้มแข็ง ประชาชนทุกคนก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน