สมาคมแม่บ้านมหาดไทย คว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดร้านค้ากาชาดประจำปี 2565 ประเภทหน่วยงานภาครัฐ

สมาคมแม่บ้านมหาดไทย คว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดร้านค้ากาชาดประจำปี 2565 ประเภทหน่วยงานภาครัฐ ด้วยการรังสรรค์พื้นที่ 894 ตารางเมตร ภายใต้แนวคิด “๙ ทศวรรษ ๑๐ เรื่องราว ใต้ร่มพระบารมี สดุดีสภานายิกาสภากาชาดไทย” ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

วันนี้ (9 ธ.ค.) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่สภากาชาดไทย จัดงานกาชาดประจำปี 2565 ภายใต้แนวคิด “9 ทศวรรษใต้ร่มพระบารมี สดุดีสภานายิกาสภากาชาดไทย” ระหว่างวันที่ 8-18 ธันวาคม 2565 ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 90 พรรษา และทรงดำรงตำแหน่งองค์สภานายิกาสภากาชาดไทยครบ 66 ปีโดยในการจัดงานดังกล่าว ได้เชิญชวนหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนร่วมประกวดการออกแบบร้านภายในงานกาชาด โดยกำหนดหลักเกณฑ์ออกแบบตกแต่งร้าน ภายใต้แนวคิด “น้ำพระทัย ใต้ร่มพระบารมี” และเป็นการจัดงานในรูปแบบ Green Fair ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้วัสดุย่อยสลายหรือสามารถนำกลับไปใช้ซ้ำได้

นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวว่า ผลการประกวดร้านค้ากาชาด ประจำปี 2565 ประเภทหน่วยงานภาครัฐ ปรากฏว่า ร้านสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ได้รับรางวัลชนะเลิศ โดยได้รับพระราชทานประกาศเกียรติคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ซึ่งกระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ได้ออกแบบร้านกาชาด ประจำปี 2565 ภายใต้แนวคิด “๙ ทศวรรษ ๑๐ เรื่องราว ใต้ร่มพระบารมี สดุดีสภานายิกาสภากาชาดไทย” โดยมีพื้นที่รวม 894 ตารางเมตร ได้รังสรรค์ตกแต่งพื้นที่ให้มีความเป็นธรรมชาติ ร่มรื่น สวยงาม และสร้างสรรค์ เน้นวัสดุตกแต่งจากธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการใช้งานอารยสถาปัตย์เพื่อคนทุกกลุ่ม ทุกวัย สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยในการหวงแหนและรักษาโลกใบเดียวนี้ให้คงอยู่ดังเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) ภายในมีการจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยเทคนิค 360 องศา ซึ่งผู้เยี่ยมชมจะสัมผัสได้ทั้งรูป กลิ่น เสียง เสมือนเข้ามาเดินเล่นในป่าท่ามกลางธรรมชาติและพรรณไม้นานาชนิด ได้มองท้องฟ้า แลเห็นยอดไม้ จนถึงเทคนิคผสมผสานกลิ่นดอกไม้ป่า พร้อมทั้งสัมผัสกับการยลผลิตภัณฑ์สินค้าจากศูนย์ศิลปาชีพที่สามารถจับต้องได้ สะท้อนพระราชกรณียกิจและเรื่องราวอันเนื่องด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ได้แก่ 1) ความหมายของพระนามาภิไธย ส.ก. สะท้อนความหมายตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระแม่แห่งแผ่นดิน ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของพสกนิกรชาวไทย 2) 66 ปี สดุดีสภานายิกาสภากาชาดไทย สะท้อนพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ที่พระองค์พระราชทานความช่วยเหลือแก่ประชาชนครอบคลุมทั้งด้านการแพทย์ การสาธารณสุข การสังคมสงเคราะห์ให้แก่ลูก ๆ พสกนิกรชาวไทยของพระองค์ และได้แผ่ขยายสายธารพระมหากรุณาธิคุณปกเกล้าไปยังผู้ลี้ภัยที่มาพึ่งใบบุญพระบรมโพธิสมภารอย่างไพศาล 3) ศิลปาชีพ สร้างงาน สร้างอาชีพ สะท้อนแนวพระราชดำริในการทรงก่อตั้งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ เพื่อส่งเสริมอาชีพและธำรงรักษา อนุรักษ์งานศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ภูมิปัญญาหัตถศิลป์ หัตถกรรมของบรรพบุรุษ ทั้งการปั้น ทอ จักสาน จนมีชื่อเสียงไปทั่วโลก 4) โขนของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ด้วยทรงส่งเสริมฟื้นฟูงานศิลปะการแสดงชั้นสูงของชาติ คือ “การแสดงโขน” ให้กลับคืนสู่สังคมไทย กระทั่งเกิดการแสดงโขนพระราชทาน หรือ โขนมูลนิธิศิลปาชีพอย่างต่อเนื่องซึ่งผลลัพธ์ที่สำคัญของแนวพระราชดำรินี้ ส่งผลให้เมื่อปี 2561 ยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียน “โขน” เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Cultural Heritage) ของมวลมนุษยชาติ 5) นานาองค์กรร่วมเฉลิมพระเกียรติคุณ ด้วยเพราะพระองค์ทรงเป็น “ผู้ให้” การช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อพยพในหลายเหตุการณ์โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สภากาชาดไทยร่วมมือกับกาชาดสากลดำเนินการช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมจนได้รับการถวายการสดุดีจากนานาประเทศ 6) ป่ารักน้ำ ดังพระราชดำรัส “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า” สะท้อนพระราชปณิธานอันแรงกล้าที่จะทรงงานด้านการอนุรักษ์ป่าซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำ เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลายลงจนเสื่อมโทรมให้คืนกลับมามีความอุดมสมบูรณ์ 7) ทรงอนุรักษ์ป่าชายเลน โดยทรงมุ่งเน้นการอนุรักษ์ฟื้นฟูปรับปรุงและพัฒนาป่าต้นน้ำและป่าชายเลน อันเป็นแหล่งกำเนิด แหล่งอาศัย และแหล่งอาหารตามธรรมชาติของสรรพชีวิต ซึ่งเป็นฐานและต้นทุนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน 8) พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ จากพระราช-กรณียกิจด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศ โดยเฉพาะการฟื้นคืนป่าไม้ของประเทศให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์จนเป็นที่ประจักษ์สายตาสาธารณชนทั้งในและต่างประเทศ กระทั่งได้รับการถวายพระนามเป็น “พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ” 9) ดอกไม้ในพระนามาภิไธยและดอกไม้พระราชทานนาม ด้วยทรงเป็นนักอนุรักษ์พืชพันธุ์ไม้ ดอกไม้ และกล้วยไม้ที่กำลังใกล้สูญพันธุ์ จนเป็นที่ประจักษ์ได้รับการเทิดพระเกียรติคุณ อัญเชิญพระนามาภิไธย “สิริกิติ์” ไปตั้งเป็นชื่อดอกไม้ อันเป็นที่มาของบุปผาราชินี เพื่อเป็นสมบัติทางธรรมชาติที่ล้ำค่าของประเทศ และ 10) สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ให้เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆและไม้ที่กำลังจะสูญพันธุ์ช่วยสร้างความเจริญให้แก่ชุมชนและท้องถิ่นให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรพันธุ์พืชไทย และได้มีการน้อมนำพระราชดำริในการส่งเสริมคุณภาพชีวิต สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ ด้วยการส่งเสริมช่องทางการตลาด ทำให้พี่น้องประชาชนสามารถเลือกซื้อสินค้าได้จากผู้ผลิตได้โดยตรง อันจะส่งผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนให้กับชุมชน โดยการจัดจำหน่ายสินค้าชุมชน (OTOP) และจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับพี่น้องประชาชน ภายใต้ชื่อ “ร้านนายประหยัด” รวมทั้งมีบริการนวดเพื่อสุขภาพตามตำรับตำราแพทย์แผนไทยซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานด้านการพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกให้กับประชาชนผู้สนใจอีกด้วย” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว

ดร. วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวว่า นอกจากนี้ มีกิจกรรมเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เพลิดเพลิน ได้ร่วมสนุก ร่วมทำบุญ และลุ้นรับของรางวัล ได้แก่ 1) การจำหน่าย “สลากบำรุงสภากาชาดไทย” ประจำปี 2565 ลุ้นชิงรางวัล 51 รายการ มูลค่ารวม 3,328,500 บาท ประกอบด้วย รางวัลที่ 1 ทองคำแท่งหนัก 20 บาท 1 รางวัล รางวัลที่ 2 สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท 10 รางวัล และรางวัลที่ 3 สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 40 รางวัล โดยจะออกรางวัลในวันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค. 2565 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป และประกาศรายชื่อผู้โชคดีทางเว็บไซต์กระทรวงมหาดไทย www.moi.go.th ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 ธ.ค. 2565 2) กิจกรรม “จับผีเสื้อแห่งความจงรักภักดี” ที่ต้นราชพฤกษ์พระราชา และต้นโมกพระราชินี ซึ่งได้ออกแบบจำลองโดยใช้ไม้ไผ่จากวิสาหกิจชุมชน (ลานไม้ไผ่บ้านดงบัง – วงศ์ไผ่ปราจีนบุรี) ผลิตภัณฑ์และงานฝีมือจักสานจากศูนย์การเรียนรู้งอบไทยใบลาน และศูนย์ OTOP ตำบลบ้านม้า อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นการส่งเสริมหัตถกรรม หัตถศิลป์ เครื่องจักสาน ตามแนวพระราชดำริขององค์สภานายิกาสภากาชาดไทย และมีเทคนิคการตกแต่งสไตล์ Gardens by the bay ในประเทศสิงคโปร์ และที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจไปกว่านั้น คือ ที่ต้นราชพฤกษ์พระราชา และต้นโมกพระราชินี จะมี “ผีเสื้อแห่งความจงรักภักดี” ถูกประดับตกแต่งรวมจำนวนกว่า 50,000 ตัว ที่ทุกตัวล้วนประดิษฐ์จากผ้าไทย ผ้าอัตลักษณ์ของ 76 จังหวัดจำลองถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศป่าไม้ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศด้วยน้ำพระทัยและพระบารมี ทั้งนี้ เมื่อพี่น้องประชาชนร่วมกิจกรรมจับผีเสื้อเพื่อลุ้นของรางวัลแล้ว ยังได้รับผีเสื้อกลับไปเป็นของที่ระลึกนำไปใช้ในโอกาสต่าง ๆ อันเป็นการร่วมสืบสานพระราชปณิธานในการธำรงรักษาอัตลักษณ์ภูมิปัญญาผ้าไทยของบรรพบุรุษให้ได้รับการสืบทอดเป็นอาชีพที่มั่นคงให้กับช่างทอผ้าทั่วประเทศ และ 3) การออกร้าน “ร้านเสื้อผ้าไทยมือใหม่และมือสองราคาสุดพิเศษ” จำหน่ายผ้าไทยทั้งชุดใหม่ และชุดมือสองสภาพดี ในราคาสุดพิเศษ จำนวนจำกัด เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ภาคภูมิใจด้วยการสวมใส่ชุดผ้าไทย หลายรูปแบบ หลากดีไซน์ เพื่อร่วมสนองพระดำริในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงมีพระปณิธานอันแน่วแน่ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชดำริในสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผ่านโครงการพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” อันทำให้ช่างทอผ้า ผู้ประกอบการผ้า ได้พัฒนาทักษะ ฝีไม้ลายมือ ด้านการทอผ้า การออกแบบผ้า ให้สอดคล้องกับความต้องการและความนิยมชมชอบของผู้ซื้อ คนทุกวัยใส่ได้ และยังสามารถใส่ได้ทุกโอกาส ซึ่งพี่น้องประชาชนสามารถเลือกสรรชุดผ้าไทย และสินค้าอื่น ๆ ที่ชื่นชอบ ให้กับตนเอง หรือเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ที่เคารพนับถือและบุคคลที่เรารักในช่วงเทศกาลแห่งความสุขได้อีกด้วย

“ประการสำคัญที่สุดในการออกร้านกาชาดกระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทยในครั้งนี้ คือ เงินทุกบาททุกสตางค์ โดยไม่หักค่าใช้จ่ายอย่างใดทั้งสิ้น จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย โดยเสด็จพระราชกุศลเพื่อบำรุงสภากาชาดไทย สำหรับช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ผู้ประสบภัยพิบัติตามภารกิจของสภากาชาดไทย อันมีนัยยะที่สำคัญว่า ทุกท่านที่มาร่วมกิจกรรมร้านกาชาดกับกระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทยจะได้ร่วมกันทำบุญด้วยการ “ให้” อย่างไม่มีที่สิ้นสุด จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกิจกรรมร้านกาชาดกระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ในงานกาชาดประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 8–18 ธันวาคม 2565 เวลา 11.00–22.00 น. รวม 11 วัน 11 คืน ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร”” ดร.วันดีฯ กล่าวในช่วงท้าย