รู้จักสภาวะ “Long Covid” พร้อมวิธีรับมือ ดูแลและฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวมที่ “รักษ” 

จากการศึกษาวิจัยของ “โรงพยาบาลฮูสตัน เมธอดิสต์” สหรัฐฯ พบว่า 80% ของผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19 บางรายยังต้องเผชิญกับสภาวะ Long Covid (Long-Term Effect of Coronavirus) ซึ่งก็คืออาการหลงเหลือหลังจากหายโควิด อาทิ รู้สึกเหนื่อยล้า หายใจลำบาก ปวดตามข้อ ปวดศีรษะ สมาธิสั้น ซึมเศร้า วิตกกังวล ฯลฯ ซึ่งอาจมีผลแตกต่างกันไปตามร่างกายของแต่ละคน แน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้ย่อมส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ดังนั้นการดูแลและฟื้นฟูสุขภาพอย่างตรงจุดโดยศาสตร์แพทย์แบบองค์รวม จะสามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี สร้างสมดุลให้ร่างกายและจิตใจให้กลับมาแข็งแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

“รักษ” (RAKxa) ศูนย์บูรณาการสุขภาพและการแพทย์แบบองค์รวม แห่งแรกในไทยและภูมิภาคเอเชีย เผยว่า สภาวะ “Long Covid” เป็นผลกระทบจากการติดเชื้อ ซึ่งแม้ว่าจะหายจากโควิดแล้วแต่ยังคงทิ้งร่องรอยของโรคไว้อยู่ กล่าวคือ กลไกของร่างกายเมื่อมีการติดเชื้อ เม็ดเลือดขาวจะถูกกระตุ้นเพื่อไปต่อสู้กับเชื้อโรค ทำให้เกิดอาการอักเสบในร่างกาย ทั้งปอด หัวใจ ตับ อีกทั้งในการรักษาจำเป็นต้องใช้ยาปฎิชีวนะในการช่วยต้านเชื้อ ซึ่งส่งผลให้ไตและม้ามทำงานหนักไปด้วยกลไกเหล่านี้กระทบต่อความสมดุลของร่างกายองค์รวม จึงเป็นเหตุให้เกิดภาวะที่เรียกว่า “Long Covid” (Long-Term Effect of Coronavirus) ในผู้ป่วยบางรายที่หายจากอาการติดเชื้อ

ดังนั้นการดูแลและฟื้นฟูสุขภาพหลังหายจากเชื้อจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติและมีสุขภาพที่ดี  โดยที่รักษมีการใช้ศาสตร์แพทย์แผนปัจจุบันร่วมกับแพทย์แผนทางเลือก อาทิ แพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน แพทย์แผนอินเดีย (อายุรเวท)  มาผสมผสานเพื่อออกแบบโปรแกรมสุขภาพที่ช่วยฟื้นฟูพร้อมปรับสมดุลให้กับร่างกายให้เหมาะกับอาการและร่างกายของแต่ละบุคคล

นางสาวดุษฎี ตันเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มั่นคงไลฟ์ จำกัดผู้พัฒนาโครงการ “รักษ” กล่าวว่า “ความแตกต่างของรักษ คือเราเน้นการดูแลแบบเฉพาะเจาะจง เพราะร่างกายและสุขภาพของแต่ละคนแตกต่างกัน ดังนั้นที่รักษ จึงให้ความสำคัญมากกับการทำความรู้จักและเข้าใจสภาพของร่างกายและจิตใจเป็นรายบุคคล เป็นเหตุผลที่ทุกคนจะต้องพบคุณหมอและทีมแพทย์ผู้ชำนาญการก่อนเข้ารับบริการ เพื่อวิเคราะห์ประเมินพื้นฐานร่างกาย อาการและความกังวลด้านสุขภาพที่เกิดขึ้น โดยทั้งคุณหมอและทีมแพทย์แต่ละศาสตร์จะนำข้อมูลที่ได้มาประชุมร่วมกันเพื่อออกแบบโปรแกรมดูแลสุขภาพ ด้วยการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ผสมผสานกับแพทย์แผนทางเลือกอย่างเหมาะสมและปลอดภัย เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะพบกับสภาวะลองโควิด และงานวิจัยเกี่ยวกับกลุ่มเสี่ยงยังมีค่อนข้างน้อย ดังนั้นจึงเป็นการดูแลตามอาการและพื้นฐานสุขภาพของแต่ละบุคคล อาทิ   

สำหรับคนที่ต้องการดูแลเรื่องการหายใจ เราก็จะใช้ทรีทเมนต์ของการฝึกการหายใจให้ปอดแข็งแรง การหายใจขณะอยู่ในเครื่อง ไฮเปอร์แบริค แชมเบอร์ เพื่อรับออกซิเจนบริสุทธิ์ หรือการเผายา เพื่อไล่ความชื้นในปอดและปรับสมดุลร่างกายในแบบแพทย์ศาสตร์ไทยโบราณ ฯลฯ ดังนั้น ทุกขั้นตอนการรักษาจะขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล’’ 

ด้าน นางสาวปิยรัตน์ ตัญจพัฒน์กุล Wellness Director โครงการรักษ กล่าวเสริมว่า “ทางศาสตร์แพทย์แผนทางเลือกพบว่า อาการ Covid และ อาการ Long Covid ต่างเป็นผลมาจากธาตุในร่างกายเสียสมดุล ทำให้มีอาการหายใจไม่เต็มปอด เหนื่อยง่าย อ่อนแรง หรือมีสภาวะเจ็บข้อกระดูกและกล้ามเนื้อ เป็นต้น ดังนั้นโปรแกรมการดูแลที่รักษ จึงเป็นการเน้นปรับสมดุลของธาตุในร่างกาย ตามศาสตร์แพทย์แผนไทย จีน และอินเดีย ที่จะให้ความสำคัญกับธาตุประจำตัวเป็นอย่างมาก ด้วยมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ประกอบด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งแต่ละธาตุจะมีวิธีการดูแลที่แตกต่างกันไป โดยแพทย์ทางเลือกแต่ละแผนจะเป็นผู้ประเมินธาตุพื้นฐานและอาการเบื้องต้นก่อนทุกครั้ง แล้วจึงนำข้อมูลตรงนี้มาปรับใช้ในการฟื้นฟูและปรับสมดุลของร่างกายให้ดีขึ้น นอกจากนี้การดูแลจิตใจก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำควบคู่กับการดูแลร่างกายภายนอก ศาสตร์พลังงานบำบัด จึงเป็นอีกหนึ่งศาสตร์ที่นำมาใช้เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจและความเครียดหลังผ่านสภาวะ Covid และ Long Covid”

สำหรับโปรแกรมพิเศษที่แนะนำสำหรับผู้ที่ผ่านการติดเชื้อโควิด-19 คือCovid-19 Health Rejuvenating Package เพื่อบำบัดฟื้นฟูปอดและระบบทางเดินหายใจในแบบองค์รวม โดยใช้ศาสตร์ดั้งเดิมไปจนถึงวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ตั้งแต่ การบำบัดดั้งเดิมด้วยการนวดและวิธีการดูแลแบบธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของพลังงานในร่างกายด้วยสมุนไพรยาและน้ำมันยาเฉพาะบุคคล หลังจากนั้นเลือดและปอดจะถูกเติมด้วยออกซิเจนและวิตามินต่างๆ ผ่านเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อส่งเสริมการซ่อมแซมอวัยวะที่เสียหายเป็นต้น โดย Covid-19 Health Rejuvenating Package เป็นโปรแกรมแบบ 3 คืน ในราคา 78,000 บาท/ท่าน ภายในแพ็กเกจประกอบด้วย ห้องพักการ์เด้นวิลล่าสำหรับ 3 คืน, อาหารเพื่อสุขภาพที่ผ่านการคัดสรรจากนักโภชนาให้เหมาะกับร่างกาย 3 มื้อ ต่อวัน, ชุดน้ำชาและของว่างเพื่อสุขภาพ 3 ชุด, โปรแกรมฟิตเนสและกิจกรรมเพื่อเสริมสุขภาพ, โปรแกรมธาราบำบัด, ห้องอินฟาเรด ซาวน่า ห้องอบไอน้ำ ห้องอบสมุนไพร สระแช่ตัวน้ำอุ่นสลับน้ำเย็น รวมทั้งโปรแกรมทรีทเมนต์อื่น* ที่เหมาะกับร่างกาย

ทั้งนี้เป้าหมายของ “รักษ” คือต้องการให้ทุกคนเข้าใจร่างกายตนเองได้ดียิ่งขึ้น เพื่อปรับวิถีการดูแลตัวเองได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหาร การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม รวมถึงการสังเกตร่างกายและจิตใจตัวเอง เพื่อใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างมีความสุข และก่อให้เกิดการสุขภาพที่ดีและแข็งแรงได้อย่างยั่งยืน” นางสาวดุษฎี กล่าวทิ้งท้าย  

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ รักษ 0-2055-3100 หรือคลิก www.rakxawellness.com

LINE Official: @rakxawellness และ Instagram: @rakxawellness

#รักษ #rakxawellness #rakxawellnessandmedicalretreat  

#healthiswealth #rakxa #wellness #thailand  

*หมายเหตุ 

โปรแกรมทรีมเทนต์ที่ได้ (ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน)  

โดยแบ่งเป็น 

 

Scientific Treatments from VitalLife 

  •  Antioxidant Boost up IV การให้สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินและเกลือแร่เข้าร่างกายโดยตรงผ่านกระแสเลือดเพื่อลดอาการอักเสบต่างๆ และเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกาย
  • Blood Ozone IV Formula การนำโอโซนบริสุทธิ์ มาช่วยเสริมสร้างสุขภาพกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูของร่างกาย เพิ่มภูมิต้านทานและชะลอการเสื่อมของร่างกาย พร้อมช่วยฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส หรือเชื้อราบางชนิด
  • Hyperbaric Chamber Therapy การบำบัดด้วยเครื่องแคปซูลออกซิเจน โดยการเพิ่มออกซิเจนให้กับเนื้อเยื่อที่ขาดออกซิเจน หรือที่ถูกทำลายไปและยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ช่วยให้ร่างกายสามารถใช้กลไกในการป้องกันตนเองได้

Holistic Treatments from RAKxa Jai and RAKxa Gaya 

  • Acupuncture การฝังเข็มโดยแพทย์แผนจีน ตามจุดพลังงาน โดยเน้นเส้นพลังงานที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะต่างๆ และปอดที่เสียสมดุลไปให้กลับมาอยู่ในสภาวะสมดุล
  • Abhyanga การนวดบำบัดด้วยศาสตร์อายุรเวทที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ช่วยกำจัดสารพิษในร่างกาย เพื่อฟื้นฟูซ่อมแซมร่างกายให้เร็วขึ้น
  • Chakra Balancing ศาสตร์พลังงานบำบัดเพื่อปรับสมดุลของพลังงานในร่างกายโดยเฉพาะจักระที่สี่ หรือจักระหัวใจ และปอดนั่นเอง
  • Personalized Corrective Exercise การออกกำลังกายที่ออกแบบเพื่อมุ่งเน้นการทำงานและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อรอบๆช่องอก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอดให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • PRANAYAMA การฝึกการหายใจด้วยศาสตร์อายุรเวท เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกระบังลมและทำให้ศักยภาพการทำงานของปอดทำงานได้ดีขึ้น
  • Traditional Thai Ya-Pao Detoxification Therapy (ยาเผา) การเผาสมุนไพรไทยบนหน้าอก โดยความร้อนจะช่วยในการหมุนเวียนของเลือด สมุนไพรจะช่วยเรื่องระบบการหายใจให้สะดวกขึ้นและกำจัดของเสียสารพิษในร่างกาย