เรื่องสั้น : เจ้าที่เจ้าทาง

“เฮีย เดี๋ยวผมเอารถออกไปนะ”

“ลื้อจะไปไหนวะ”

“เอาของที่หักไปทิ้งน่ะสิเฮีย”

“เออๆ คราวนี้เยอะไหมวะ”

“ไม่เยอะเฮีย สองสามอัน”

“เออๆ รีบไปรีบกลับแล้วกัน เดี๋ยวต้องเอาของไปส่งลูกค้าต่อ”

รถบรรทุกหกล้อขับออกไปจากพรหมศิลป์ศาลพระภูมิ ร้านขายศาลพระภูมิเจ้าใหญ่ในตัวอำเภอ เป็นประจำที่งานทำศาลพระภูมิจะต้องมีบางชิ้นแตกหักและถูกนำไปทิ้งยังที่ดินรกร้างห่างไกล ไม่เพียงแต่ตัวศาลเท่านั้น ยังมีบรรดาม้า ช้าง หรือกระทั่งหุ่นตา-ยายต่างๆ ที่เกิดการชำรุดเสียหาย ถูกนำไปทิ้งรวมอยู่ด้วย

“เฮียอ้วน! เฮียอ้วน!”

ชายไทยเชื้อสายจีนร่างท้วมเดินออกมาจากห้องกระจกตามเสียงเรียกที่หน้าร้านพรหมศิลป์ศาลพระภูมิ เห็นมีคนยืนอยู่ข้างหน้าสองคน เป็นชายวัยกลางคนคนหนึ่งและเด็กชายวัย 5 ขวบอีกคนหนึ่ง แกเห็นเด็กชายก็ชวนให้นึกถึงลูกชายของแก ที่อีกสองเดือนก็จะมีอายุครบ 5 ขวบบริบูรณ์ เฮียอ้วนคิดไว้ว่าจะจัดงานวันเกิดให้ลูกแบบเล็กๆ ในบ้าน

“หายไปไหนกันหมดล่ะเฮีย ผมเข้ามาไม่เห็นมีใคร ว่าจะขโมยของอยู่แล้วเชียว” ชายวัยกลางคนเอ่ย

“ขโมยยังไงไหววะ แต่ละอันไม่ใช่เบาๆ” ผู้มาเยือนยิ้มไปกับคำหยอกล้อของเจ้าของร้าน

“อยากได้ศาลพระภูมิสักหลังน่ะเฮีย เอาที่สวยๆ สีเหลืองๆ ทองๆ นะ จะได้มีเงิน มีทอง มีโชคมีลาภกะเขามั่ง”

“เอาหลังเล็กหรือหลังใหญ่ดีล่ะ แล้วตายาย ช้างม้าน่ะ เอาด้วยไหม?”

“ก็เอาทั้งชุดนั่นแหละเฮีย เอาแบบย่อมๆ ก็พอ สี่เสาชุดหนึ่ง เสาเดียวชุดหนึ่ง ให้คนไปส่งด้วยนะ”

“ได้ๆ เดี๋ยวให้ไอ้แห้งมันกลับมาแล้วจะให้ไปส่งให้ ไม่มีคนอยู่ร้าน”

“ครับเฮีย เท่าไหร่ล่ะเฮีย จ่ายเงินตอนรับของแล้วกันนะ”

“อ่อๆ ได้ๆ เดี๋ยวให้บิลไปกับไอ้แห้งแล้วกัน ห้ามเชื่อนาเว้ย เงินสดเท่านั้น”

“ได้ครับเฮีย”

ควันธูปคลุ้งอวลขึ้นไปบนฟ้า เสียงตาชิตสวดอัญเชิญเทวดาและสวดถอนพระภูมิเจ้าที่ดังก้องอยู่เบื้องหน้าศาลเก่าๆ และเครื่องสังเวย ทั้งหัวหมู ไก่ ปลา ผลไม้ ขนมหวาน โดยมีสมานกับลูกชายยืนอยู่ข้างๆ

หลังสวดเสร็จตาชิตใช้ค้อนเล็กๆ ทุบที่ฐานศาลพระภูมิพอเป็นพิธี แล้วหันมาบอกสมานว่าให้รื้อศาลได้ แล้วเอาไปทิ้งไกลๆ รวมทั้งหุ่นตา-ยายและช้าง-ม้าพวกนี้ด้วย แล้วตาชิตก็กล่าวคำลาเครื่องสังเวย จากนั้นจึงแบ่งเครื่องสังเวยเป็นสองชุด สำหรับตาชิตคนทำพิธีเอากลับไปบ้าน และอีกชุดสำหรับสมานไว้กินเอง เสร็จสรรพแล้วสมานก็ลงมือทุบศาลพระภูมิโดยแยกเอาตัวเรือนทิพย์เรือนแก้วและหุ่นตา-ยายพร้อมช้าง-ม้าออกมาก่อนแล้วทุบเสาให้เป็นชิ้นๆ ก่อนจะขนขึ้นรถเอาไปท้ายหมู่บ้าน

เมื่อถึงที่ต้นไทรใหญ่ซึ่งมีศาลพระภูมิแตกหักบางส่วนตั้งอยู่ สมานและลูกชายก็ช่วยกันขนเอาศาลพระภูมิลงไปทิ้งรวมกับบรรดาศาลเก่าที่ถูกคนเอามาทิ้งไว้ก่อนหน้า นอกจากศาลยังมีพระพุทธรูปเก่าหักและรูปหล่อเทพเจ้าต่างๆ ตลอดจนพญานาคและงูใหญ่วางสุมไว้เต็มไปหมด

วันถัดมาสมานและตาชิตก็ทำพิธีอัญเชิญพระภูมิเจ้าที่ขึ้นเรือนทิพย์เรือนแก้วหลังใหม่ที่แห้ง คนงานของเฮียอ้วนเอามาส่งให้แต่เมื่อวานหลังทำพิธีทุบศาลเก่าเสร็จ ศาลพระภูมิเจ้าที่หลังใหม่หน้าบ้านสมานดูมีสง่าราศี โอ่อ่า และน่าศรัทธา เขามีมาลัยดอกดาวเรืองคล้องไปบนกำแพงแก้วของเรือนทิพย์หลังเล็กบนเสาเดี่ยว และอีกพวกคล้องไว้ตรงบันไดศาลเจ้าที่สี่เสา สีเหลืองผ่องและสีทองของศาลส่งเสริมกันดูอร่ามตา

สมานและลูกหลานนั่งลงยกมือไหว้ด้วยแววตาศรัทธาเจิดจ้า

ลานต้นโพธิ์ริมถนนท้ายหมู่บ้านถูกปรับแต่งพื้นที่ขึ้นใหม่เมื่อภพ วินมอเตอร์ไซค์ประจำพื้นที่ได้ไปบอกกับหัวหน้าหมู่บ้านว่าเขาได้ยินเสียงผู้หญิงมาจากบริเวณนั้นตอนที่ขับรถผ่านกลางดึก

เริ่มแรกไม่มีใครเชื่อภพมากนัก แต่นานวันเข้านอกจากภพแล้วยังมีคนอื่นๆ ได้ยินด้วย ทั้งน้าศร วินมอเตอร์ไซค์อีกคนที่บังเอิญขี่รถผ่าน ป้าบังอร คนขายข้าวแกง หรือแม้กระทั่งลุงวิญญู พนักงานรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านที่บอกว่าได้ยินเสียงตอนเดินตรวจหมู่บ้านกลางดึก เมื่อมีคนได้ยินหลายคนเข้าจึงเริ่มเชื่อกันว่าที่ลานต้นโพธิ์ท้ายหมู่บ้านซึ่งมีศาลปรักหักพังและบรรดารูปปั้นต่างๆ เค้เก้อยู่เต็มโคนต้นนั้นน่าจะมีนางไม้หรือเจ้าแม่อะไรสักอย่างสถิตอยู่

หัวหน้าหมู่บ้านจึงได้เชิญพราหมณ์มาเข้าทรง พราหมณ์ได้บอกแก่ทุกคนที่มาร่วมพิธีว่า ที่นี่เป็นที่สถิตของเจ้าแม่โพธิ์ทอง เจ้าแม่อยากได้บ้านใหม่ และจะให้โชคหากคนที่นี่ดูแลและบูชาเจ้าแม่ให้ดี

หัวหน้าหมู่บ้านจึงประกาศเรี่ยไรเงินร่วมกันสร้างศาล และปรับภูมิทัศน์ลานโพธิ์ริมถนนท้ายหมู่บ้านให้เป็นลานศาลเจ้าแม่โพธิ์ทอง เพื่อให้เจ้าแม่ปกปักรักษาและให้โชคลาภแก่ผู้ที่มาบูชาเจ้าแม่ รวมทั้งทุกคนในหมู่บ้านด้วย

“ไอ้แห้ง เออ มาพอดีเลย มาเร็วๆ อั๊วจะออกไปข้างนอกกับอาตี๋ เดี๋ยวไม่มีคนเฝ้าร้าน” เสียงเฮียอ้วนบ่นลูกจ้าง “ทำไมรอบนี้เอาของไปทิ้งนานจังวะ ทุกทีไม่เห็นไปนานแบบนี้”

“ก็ที่เก่าน่ะมันทิ้งไม่ได้แล้วน่ะสิเฮีย เลยต้องขับรถวนแล้วออกไปหาที่ใหม่”

“เฮ้อ ทำไมอีกล่ะ”

“เขาเอาที่ตรงนั้นทำศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่แล้วน่ะสิเฮีย”

“โอ้ย คนเรานี่แปลกจริงๆ ที่เขาขนของไปทิ้งอยู่ชัดๆ ยังจะไปทำสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ให้คนกราบไหว้ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่ะ ช่างเถอะๆ กลับมาแล้วก็เฝ้าร้านหน่อย อั๊วจะไปงานฉลองศาลเจ้าแม่ที่หมู่บ้านสักหน่อย จะพาไอ้ตี๋นี่ไปด้วย”

“ศาลเจ้าที่ไหนล่ะเฮีย”

“บ้านใหม่น่ะ อั๊วซื้อบ้านใหม่ตรงถนนบายพาสเส้นที่วิ่งออกนอกอำเภอ ตรงชานเมืองนี่แหละ”

“แหม่ ซื้อไว้ให้เมียน้อยเหรอเฮีย”

“เมียน้อยป้ามึงสิไอ้แห้ง! หาเรื่องให้อั๊วแล้วมึง ไปๆ เฝ้าร้าน”

เฮียอ้วนจอดรถแล้วเดินลงไปพร้อมลูกชายวัยห้าขวบ สมานเดินเข้ามาไหว้เฮียอ้วนพร้อมกับบอกให้ลูกชายไหว้ด้วย เฮียอ้วนบอกให้ลูกชายตนไปเล่นกับลูกชายสมาน จะได้มีเพื่อนในหมู่บ้านไว้ แล้วตัวแกเองก็เดินเข้าไปในเต็นท์ที่กำลังจะเริ่มพิธีบวงสรวงอัญเชิญเจ้าแม่โพธิ์ทองประทับในศาลใหม่ใต้ต้นโพธิ์

ศาลใหม่เป็นศาลหินอ่อนที่ออกแบบใหม่โดยร้านพรหมศิลป์ศาลพระภูมิ ติดตั้งที่นี่เป็นที่แรก เจ้าภาพที่มอบศาลนี้ให้คือเฮียอ้วนนั่นเอง ส่วนรูปปั้นเจ้าแม่และช้างม้า เครื่องบูชาต่างๆ ชาวบ้านลงขันช่วยกันแล้วจ่ายเงินให้เฮียอ้วนไปจัดหามาให้ ซึ่งก็เอามาจากร้านแกนั่นเอง

กลิ่นควันธูปและเสียงสวดอัญเชิญเทวดาดังไปทั่วทั้งบริเวณ ผู้ร่วมงานนั่งในเต็นท์พนมมือด้วยใจศรัทธา ทุกสายตาจ้องมองไปในศาลที่มีรูปปั้นเจ้าแม่โพธิ์ทองในชุดไทยสวยสง่ายืนเด่นอยู่ พราหมณ์เจ้าพิธีคือตาชิตนั่นเอง ทุกคนในหมู่บ้านพร้อมเพรียงกันอยู่ที่นี่ ทั้งน้าศร ป้าบังอร ลุงวิญญูและคนอื่นๆ ในพิธีเงียบกริบดูขรึมขลัง มีเพียงเสียงตาชิตสวดคาถาคำอัญเชิญดังก้องกังวานสะท้อนไปใต้ร่มโพธิ์ใหญ่

แห้งขับรถขนศาลพระภูมิหักที่ไม่รู้ว่าเป็นเที่ยวที่เท่าไหร่ในชีวิตลูกจ้างร้านผลิตและจำหน่ายศาลพระภูมิของเขา เขาต้องเปลี่ยนที่ทิ้งศาลที่หักพังมาแล้วหลายที่ แต่ละทีเมื่อมีศาลจากพรหมศิลป์ศาลพระภูมิที่เขาเอามาทิ้งไว้แล้ว ก็มักจะมีศาลเก่าจากคนในชุมชนใกล้ๆ เอามาทิ้งไว้ด้วย นานไปเขาก็ต้องย้ายที่ทิ้งใหม่เพราะที่ตรงนี้จะกลายไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีคนมากราบไหว้ เป็นเช่นนี้ตลอดมา

วันนี้เขาขับรถผ่านหมู่บ้านริมถนนบายพาสที่เป็นเส้นทางออกไปทางชานเมือง เขามองผ่านถนนที่ทอดผ่านหมู่บ้านแห่งหนึ่งแล้วถอนหายใจเบื่อหน่าย ท้ายหมู่บ้านคือที่สำหรับทิ้งศาลหัก และศาลเก่าที่แห้งเคยเอามาทิ้ง และบัดนี้มันกลายเป็นศาลเจ้าแม่หลังใหม่งดงามไปเสียแล้ว เขาขับรถเลยออกไปอีกหน่อย เลี้ยวเข้าถนนดินไปยังพื้นที่รกร้าง ขนเอาศาลหักๆ ที่ขายไม่ได้ของเฮียอ้วนลงทิ้งบนที่ดินร้างผืนนั้น ก่อนจะขึ้นรถขับหกล้อคันเก่าขับกลับมายังร้านพรหมศิลป์ศาลพระภูมิ

ระหว่างทางแห้งได้แต่นึกว่า กว่าเขาจะหมดแรงขับรถ จะต้องเปลี่ยนที่ทิ้งศาลพระภูมิหักๆ พวกนี้ไปอีกสักกี่ที่ และจะมีศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ผุดขึ้นในที่ทิ้งขยะเดิมของเขาอีกกี่ศาลกันหนอ