ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 1 - 7 กันยายน 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
เห็นชื่อเรื่องแล้ว อย่างเพิ่งคิดว่าผมจะนำรถทั้ง 2 ค่ายนี้มาประชันกันนะครับ
เพราะถือว่าเป็นคนละตลาดกันเลย
แถมราคาห่างกันหลายเท่า
แต่ด้วยอวดโฉมออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน และมีแฟนานุแฟนของทั้ง 2 ค่ายนี้ในเมืองไทยพอสมควร
จึงจัดมาอยู่รวมกันใน “ยานยนต์ สุดสัปดาห์” เล่มนี้เสียเลย
ประเดิมด้วยรุ่นใหญ่อย่าง “แอสตัน มาร์ติน DB12” จัดว่าเป็นซูเปอร์ทัวเรอร์ คันแรกของโลก
ตัวถังดีไซน์ใหม่ กว้างและดูดุดันยิ่งขึ้น กระจังหน้าแบบ single vaned เอกลักษณ์เฉพาะของรุ่น DB มีขนาดใหญ่ขึ้นถึง 56% (เทียบกับ DB11 V8)
กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมแผ่นรีดอากาศด้านหน้า โลโก้แบบใหม่ ติดตั้งบน แอสตัน มาร์ติน DB12 เป็นรุ่นแรก
พร้อมช่องระบายอากาศบนฝากระโปรง เพื่อระบายความร้อนจากเครื่องยนต์และเทอร์โบคู่ ที่อยู่บริเวณกลางห้องเครื่อง
ไฟหน้าแอลอีดี พร้อมเดย์ไทม์รันนิ่งไลต์แบบใหม่
กระจกข้างทรงสปอร์ตไร้กรอบ เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะช่วงความเร็วสูง ด้วยระบบแอโรไดนามิกส์ “Aeroblade” โดยใช้หลักอากาศพลศาสตร์ในการสร้างแรงกด
สปอยเลอร์หลังแบบอัตโนมัติ มีระบบ “Presenting Door Handles” เมื่อกดปุ่มปลดล็อกบนกุญแจรีโมต มือจับประตูจะเปิดขึ้นอัตโนมัติ สะดวกยิ่งขึ้น
ล้อฟอร์จขนาด 21 นิ้ว จับคู่กับยาง Michelin Pilot Sport S 5 ผลิตมาสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ โครงสร้างโฟมด้านใน ช่วยลดเสียงรบกวนและนุ่มนวลยิ่งขึ้น โดยมีขนาดหน้า-หลัง 275/35/ZR21 และ 325/30/ZR21
ห้องโดยสารยังคงความหรูหรา ติดตั้งจอดิจิทัลหน้าผู้ขับแบบ TFT 10.25 นิ้ว คมชัดสูง และปรับแต่งการแสดงผลได้หลายแบบ
พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ ตัดเย็บด้วยมือ เข้ากับปุ่มควบคุมระบบอินโฟเทนเมนต์ล้ำสมัย
จอแสดงผลอเนกประสงค์ 10.25 นิ้ว ติดตั้งกลางแดชบอร์ด เน้นความสะดวกของผู้ขับ ตัวปรับเลือกโหมดการขับแบบแป้นหมุน พร้อมสวิตช์ควบคุมต่างๆ ติดตั้งบริเวณคอนโซลกลาง ใช้งานได้สะดวก
ขุมพลังเบนซินทวินเทอร์โบ วี8 สูบ 4.0 ลิตร กำลังสูงสุด 680 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 800 นิวตัน-เมตร ที่ 2,750-6,000 รอบต่อนาที
ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ (ZF 8HP75)
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 3.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มี 5 โหมดการขับให้เลือก ประกอบด้วย Wet, Individual, GT (พื้นฐาน), Sport และ Sport+
ติดตั้งระบบออกตัว (Launch Control) สำหรับการทะยานจากจุดสตาร์ต
รวมถึงมีระบบควบคุมการทรงตัว (ESP-Electronic Stability Programme) ที่สามารถปรับได้ 3 แบบ คือ ON, TRACK และ OFF
ช่วงล่างด้านหน้าดับเบิลวิชโบน และหลังมัลติลิงก์ พร้อมโช้กอัพอะแดปทีฟ BILSTEIN DTX
นอกจากนั้น ยังเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (e-diff)
คาลิเปอร์เบรกหน้า 6 พ็อต หลัง 4 พ็อต จับคู่จานเบรกโลหะเจาะรูระบายความร้อน หน้า-หลังขนาด 400 และ 360 มิลลิเมตร จานเบรกคาร์บอนเซรามิก เจาะรูระบายความร้อน หน้า-หลังขนาด 410 และ 360 มิลลิเมตร เป็นออปชั่นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการชะลอความเร็ว และลดน้ำหนักใต้สปริงได้ถึง 27 กิโลกรัม
“แอสตัน มาร์ติน DB12” ราคาเริ่มต้น 21.9 ล้านบาท
ส่วนอาวดี้ “TT RS Heritage” เป็นรุ่นพิเศษเพียง 25 คันเท่านั้น นำเข้าโดยบริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด หรือ อาวดี้ ประเทศไทย
โดยออกแบบพิเศษเฉพาะเมืองไทย ถือเป็น “Thailand Limited Edition”
ที่น่าสนใจคือมีเพียง 2 ประเทศที่มีรถรุ่นนี้จำหน่ายคือไทยกับสหรัฐอเมริกา
สีภายนอกแบบ Exclusive 5 สี ผันแปรไปกับสีภายในอีก 5 สี
ภาพลักษณ์โดยรวมไปต่างจาก “TT RS” รุ่นปกติเท่าใดนัก แต่เสริมหล่อด้วยชุดแต่งพิเศษเข้ามา
กระจังหน้าลายรังผึ้งขนาดใหญ่
ไฟหน้าแบบ Matrix LED ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟ Projector LED ที่ประตู
สปอยเลอร์ท้ายแบบ RS
ระบบท่อไอเสียแบบ RS Sports
ล้อลายใหม่ 5 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว พร้เอมคาลิปเปอร์เบรกสีแดงหน้า-หลัง
ขณะที่การตกแต่งภายใน จัดเต็มด้วยชุดแต่งแบบ RS
ตกแต่งห้องโดยสารภายในด้วยลาย Carbon Twill
จอแสดงข้อมูลมาตรวัด Virtual Cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว
ระบบ MMI Navigation plus with MMI touch
ระบบ AUDI smartphone interface
ระบบเครื่องเสียง Bang & Olufsen
แป้นเบรก แป้นคันเร่ง และที่พักเท้า ตกแต่งด้วย Stainless steel
เครื่องยนต์เบนซิน 5 สูบ 20 วาล์ว แถวเรียงพร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง ความจุ 2,480 ซีซี พ่วงเทอร์โบ
กำลังสูงสุด 400 แรงม้า ที่ 5,850-7,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700-5,850 รอบต่อนาที
จับคู่เกียร์ Dual-Clutch 7 จังหวะ (S Tronic)
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
พร้อมขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro เอกลักษณ์ของอาวดี้
ระบบเลือกโหมดการขับขี่ (Audi drive select)
ช่วงล่างแบบ Audi Magnetic ride สามารถปรับความแข็งอ่อนของโช้กอัพได้อย่างอิสระ
เทคโนโลยีช่วยขับขี่และความปลอดภัยจัดหนัก ตามมาตรฐานยุโรป
“อาวดี้ TT RS Heritage” ราคา 5,899,000 บาท •
ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022