เจาะ!ชีวิตแฮปปี้ในวัย 50 ของ “ส้มเช้ง สามช่า” จากการเลือกฝั่ง รับ “แรงสะเทือน”

สําหรับคนดูโทรทัศน์หลายคนอาจรู้สึกว่าชีวิตของ ส้มเช้ง สามช่า หรือ บุญญาวัลย์ พงษ์สุวรรณ ตลกหญิงคนดังนั้น เหมือนๆ จะเป็น “ขาลง”

เพราะจากการเคยเป็นหนึ่งในพิธีกรของหลายๆ รายการดัง ที่ส่งผลให้คนได้เห็นหน้าเธอตลอดๆ ในอดีต กลายเป็นว่าปัจจุบันเธอมีงานประจำอยู่แค่ 3 รายการ คือ รายการ “ชิงร้อยชิงล้าน ว้าว ว้าว ว้าว”, รายการ “ท้อป 5” และรายการ “จำอวดหน้าจอ” ซึ่งล้วนแล้วแต่อยู่ในช่องเวิร์คพอยท์ทีวี

ซึ่งแน่นอนละ ว่าถ้าวัดแค่จากปริมาณของงานที่เธอมี “ขาลง” ก็อาจเป็นข้อสรุปในใจ

แต่หากความจริงแล้วจะใช่หรือไม่ใช่ คงไม่ใช่เรื่องสำคัญที่ต้องเฟ้นหาคำตอบ ด้วยสิ่งที่ส้มเช้งบอกกับเราด้วยรอยยิ้ม คือ ตอนนี้ “แฮปปี้มากๆ”

ทั้งนี้ นอกจากงานส่วนตัว คือการรับพาคนไปทำศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลี ส้มเช้งก็ว่างานในส่วนรายการทีวีของเธอนั้น จะมีมากหรือมีน้อยก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของต้นสังกัด

“ขึ้นอยู่กับเจ้านายเนอะ เขาก็ดูตามความเหมาะสม” ส้มเช้งซึ่งสัญญากับเวิร์คพอยท์ต่อเนื่องยาวนาน ตั้งแต่เข้าวงการตามพี่ชายคือ เท่ง เถิดเทิง หรือ พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ และปัจจุบันก็อยู่กับเวิร์คพอยท์มานานถึง 16 ปีบอก

“แต่สำหรับตัวเรา สำหรับวัยอย่างเรา ที่ 50 แล้ว แฮปปี้มากๆ กับการทำงาน ซึ่งเต็มที่ไม่เกิน 4 วัน”

เหตุผลนั้นก็เพราะ “อายุเยอะแล้ว มีความรู้สึกว่าอยากมีเวลาไปเที่ยว คือไปตอนนี้เรายังไหว สบายอยู่ พาแม่ น้อง ครอบครัว ไปด้วยกันได้”

ดังนั้น 3 รายการที่มีอยู่จึงพอดี

เล่าด้วยว่าช่วงก่อนหน้านั้น ตอนอายุยังน้อยๆ เธอเคยทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ บางวันวิ่งทำถึง 3 รายการ ซึ่งแน่นอนว่าเหนื่อยแทบแย่

“คือเดือนหนึ่งมี 30 วัน แต่เราทำไป 32 วันน่ะ” เธอเปรียบเทียบให้เห็นภาพ

อย่างไรก็ตาม เธอยอมรับว่าทุกสิ่งที่พูดมานั้นเป็นการตัดสินใจของตัวเองทั้งสิ้น เพราะทุกครั้งก่อนจะรับงาน บริษัทจะถามเสมอว่า โอเคไหม ตกลงหรือเปล่า ซึ่งถ้าเธอไม่เห็นด้วย บอกว่าไม่ใช่ ไม่เอา ไม่รับ เขาก็ไม่ว่า

 

แต่ก็นะ ยามที่อายุยังน้อย แรงยังเยอะ ทำได้เธอก็ทำไป เพราะสิ่งที่ได้ตอบแทนความเหนื่อย ก็คือรายได้ที่ดีงาม

“รายได้ดีเลย” ส้มเช้งบอกตามตรง

แต่กระนั้น การทำงานมากๆ ก็ “สะเทือนกับความเป็นอยู่ของชีวิตจัง”

ส่วนเมื่อตัดสินใจทำงานน้อยลง ก็ใช่ว่าจะไม่สะเทือน

“สะเทือนนะ” เธอบอก

“แต่สะเทือน ณ ที่นี้ คือสะเทือนเงินที่เราแพลนว่าเราจะต้องเก็บ หรือเราจะได้ของอะไร”

“อย่างคราวก่อนแพลนไว้ว่าอยากซื้อที่ ซึ่งถ้าทำงานตรงนี้ เราสามารถซื้อได้สบายๆ จะคิดไว้ได้เลยว่า ซื้อที่ตรงนี้ อีก 3 ปีจ่ายหมดแล้ว แต่พอรายการที่ทำน้อยลง ก็มีความรู้สึกว่าไม่ได้แล้ว”

ดังนั้น จึงต้องตัดสินใจเลือกทาง ว่าจะโหมตะลุยรับงานเพื่อสะสมของ หรือจะละวางความต้องการไปเสียบ้าง

“ก็ตัดสินใจว่าที่อันนี้ยังไม่ซื้อดีกว่า ยังไม่เอาดีกว่า หันมามองตัวเองมากขึ้น ว่ามันจำเป็นหรือ จำเป็นจะต้องซื้อหรือ ไม่ซื้อก็ได้นี่นะ คืองานเยอะมันก็ดี แต่ถ้าคิดอีกแง่ สุขภาพมันก็แย่ แล้วแต่มุมมอง”

“บางคนบอกว่าช่วงนี้กำลังโกยได้ก็โกยไป แต่เราคิดว่า เรา 50 แล้ว ก็เยอะแล้วนะ ขอแฮปปี้กับชีวิตตอนนี้เถอะ”

“ถามว่าตอนนั้นแฮปปี้ไหม ก็แฮปปี้ แต่ว่าอันนี้ ตรงนี้ ก็เหมาะกับวัยตอนนี้ไง” เธอบอก

“สัปดาห์หนึ่งทำงานไม่เกิน 4 วัน ก็จะมีเวลา 3 วัน เอาเต็มอิ่มคือ 2 วันเต็ม ที่เราสามารถไปที่ไหน 2 คืน 3 วันได้”

โดยถ้าเมื่อไหร่ที่อยากไป เธอก็นัดแนะกับแม่ซึ่งพักอยู่ที่จังหวัดสุโขทัยให้ลงมาหาที่กรุงเทพฯ แล้วก็ออกเดินทาง

ดังนั้น งานนอกอะไรที่เป็นคิวแทรกจากงานประจำ แม้จะได้เงิน แต่เบียดการนอน เบียดการพักผ่อน “ก็จะไม่รับแล้ว”

เพราะ ณ จุดๆ นี้ตัดสินใจได้แล้วว่า เธอจะพอกับสิ่งที่มีอยู่ ทิ้งความอยากที่ไม่จำเป็นกับชีวิต เพื่อจะได้ใช้ช่วงเวลาของชีวิตที่มีอยู่ตามต้องการ

อย่างมีความสุข