จดหมาย

จดหมาย

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 19 - 25 พฤษภาคม 2566
คอลัมน์จดหมาย
เผยแพร่

• อนาคต

แมน ออฟ เดอะแมตช์

คนสำคัญ ที่ช่วย ให้ชนะ

คอยปะทะ คอยส่ง เปิดบอลให้

คอยทำทาง ถ่างปีก เปิดบอลไกล

มิใช่ใคร “ลุงทั้งนั้น” คนปั้นเกม

ไมตรี รัตนา

 

ไม่รู้ว่า “ลุงๆ”

จะ “ซาโตริ” อย่างที่ “ไมตรี รัตนา” แลเห็นหรือเปล่า

ซาโตริ ว่าการพ่ายแพ้จากการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม นั้น

ส่วนสำคัญมาจากตัวลุงๆ นั่นเอง

ตัวลุงที่ควรจะรู้ว่า ตนเองเป็นอดีตในตำนานแล้ว

มิใช่ “อนาคต”

 

• อดีต

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2500 เป็นวันเลือกตั้งใหญ่

พรรคเสรีมนังคศิลา ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหญ่ มีจอมพล ป.พิบูลสงคราม หัวหน้ารัฐบาลและเป็นหัวหน้าพรรค ชนะเลือกตั้งถล่มทลาย

แต่ประชาชนไม่ยอมรับผลของการเลือกตั้ง เพราะทุจริตให้จับกันได้มโหฬาร

วันที่ 2 มีนาคม นิสิตจุฬาฯ และประชาชนเดินขบวนประท้วง

จอมพล ป.ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและแต่งตั้งให้ลูกน้องคู่ใจ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นผู้ปราบปรามการชุมนุม

ขณะที่ขบวนการประท้วงเดินทางมาถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์

แทนที่จอมพลสฤษดิ์จะปิดกั้นปราบปราม

แต่กลับเปิดทางร่วมเดินไปกับประชาชน เพื่อไปพบจอมพล ป.ที่ทำเนียบรัฐบาล เปิดการเจรจากันที่บันไดหน้าตึกไทยคู่ฟ้า

จอมพล ป.ยอมรับว่าการเลือกตั้งไม่ชอบมาพากลและจะจัดการให้มีการเลือกตั้งใหม่ขึ้นโดยเร็ว

แล้วจอมพลผ้าขาวม้าแดง สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก็ได้ใจประชาชนไปเต็มๆ

วันที่ 13 มีนาคม รัฐบาลประกาศเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน

แต่เล่ห์เหลี่ยมมากมายของรัฐบาล ที่จะกำราบประชาชน ก็ออกมาเป็นระลอกๆ

วันที่ 14 กรกฎาคม ครบรอบวันเกิด 60 ปีของท่านจอมพล ป.

จอมพลสฤษดิ์เข้าอวยพรวันเกิด และนำลูกสุนัข 1 ตัวไปมอบให้เป็นของขวัญ

พร้อมทั้งกล่าว “กระผมจะจงรักภักดีต่อท่าน เช่นลูกสุนัขตัวนี้”

แต่ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง

ลิ้นไม่มีกระดูก พลิกไปพลิกมาตามสถานการณ์ และผลประโยชน์ของตนและพรรคพวกโดยอ้างความรักชาติบ้านเมืองและประชาชนขึ้นบังหน้า

วันที่ 16 กันยายนยน 2500 เวลา 18.00 น. จอมพลสฤษดิ์ก็รัฐประหารล้มจอมพล ป. แล้วขึ้นครองอำนาจแทน (ตอนนั้นลุงตู่ของเราอายุเพิ่งแค่ 3 ขวบเอง แต่ดีเอ็นเอโป๊ะเชะเลย)

ว่าแล้วก็ว่าอีก ไม่น่าเชื่อจริงๆ คำพูดของเหล่า “ทิดเขียว” รายไหนรายนั้น เชื่อไม่ได้สักราย

นับตั้งแต่จอมพลผ้าขาวม้าแดง มาถึงบิ๊กบัง บิ๊กตู่ พวกดีเอ็นเอเดียวกันหมด

การปฏิวัติรัฐประหารเป็นเรื่องล้าสมัย โลกไม่ยอมรับ และเราจะอยู่ประเทศเดียวในโลกไม่ได้

แต่ทิดเขียวเหล่านี้คงชอบแบบล้าสมัยเลยทำกันแบบหน้าตาเฉย

เหมือนคำสัญญิงสัญญา เป็นการพูดทิ้งพูดขว้างกันยังงั้นแหละ

ซึ่งแบบนี้คนรุ่นใหม่เขาว่ากันแบบนี้นะ “นิตะเอง แบบนี้ถ้าไม่ด้านจริงๆ ตะเองทำไม่ได้นะ” (ฮ่า)

แล้วก็มาถึงปี 2549 และ 2557

ประวัติศาสตร์ของเหล่าไดโนเสาร์ได้หวนกลับไปสู่โลกใบเก่าแล้ว

ปิยพงศ์ (เมืองหละปูน)

ตํานาน 2 จอมพล

ซึ่งถือเป็นตำนานแห่ง “ความด่างพร้อย”

เป็นตำนานที่ไม่เคยจบ

มักถูกพลิกฟื้นขึ้นมาเล่า-มาประจานเสมอ

ซึ่งลุงๆ ที่เพิ่งถูกทำให้เป็น “ตำนาน” ในตอนนี้

จะมีชะตากรรมเช่นนั้นหรือไม่

คงต้องติดตามกันต่อไป

แต่กระนั้น ก็ถือเป็นความโชคดี ที่ระบอบประชาธิปไตย “ทอดบันได”

ให้พวกลุงๆ ลงจากอำนาจอย่าง “ราบรื่น”

ถึงแพ้ แต่ก็ไม่ต้องลี้ภัย หรือถูกประจานอย่าง 2 จอมพลนั้น

 

• การบ้านที่รออยู่

สักวาว่าเรื่องค่าไฟฟ้าแพง

ต่างก็แย่งผลประโยชน์โทษใครนั่น

เอาคนไทยคนใช้ไฟเป็นประกัน

ขูดรีดพลันพูดไม่ออกกลอกลูกตา

โทษคนโน้นอ้างศาลนี้มีทางออก?

ไม่ต้องบอกว่าขาใหญ่หุ้นใครหนา

ใครจะทุบหม้อข้าวตนลดราคา

ค่าไฟฟ้าก้มหน้าจ่ายแพงตายเอย

นายสมัยสงคราม

 

เรื่องไฟฟ้าเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงมาก

ในช่วงรณรงค์เลือกตั้ง

ก็หวังว่า รัฐบาลใหม่ จะแก้ไข

ซึ่งคงไม่ใช่แค่ลดค่าไฟเท่านั้น

หากแต่ต้องปฏิรูปโครงสร้างพลังงาน

ให้เป็นธรรมแก่ชาวบ้านมากที่สุด •