ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 28 เมษายน - 4 พฤษภาคม 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | ของดีมีอยู่ |
เผยแพร่ |
ของดีมีอยู่ – ฐากูร บุนปาน
ได้รับมอบหมายจากพี่น้องในเครือมติชน ให้เป็นผู้ออกหน้าแถลงเรื่อง “ข่าวสด มูฟวิ่ง ฟอร์วาร์ด ภาค 2”
ขออนุญาตถือโอกาสเอาร่างที่ต้องพูดในวันนั้น มากระจายเผยแพร่ต่ออีกหน
ตามประสาคนขี้เกียจ (ฮา)
ย้อนเท้าความกลับไปถึงเมื่อต้นปี 2559
ที่เครือข่าวสด-มติชนออกมาแถลง “มูฟวิ่ง ฟอร์วาร์ด” เพื่อบอกกล่าวถึงการขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งใน “กลุ่มสื่อ” ของเว็บไซต์ข่าวสด
ตำแหน่งนี้ไม่ได้มโนเอาเอง
แต่เป็นการสำรวจและเก็บสถิติโดย “ทรูฮิตส์” หน่วยงานสาขาของเนคเทค หรือสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ทีนี้ในโลกดิจิตอล ความเปลี่ยนแปลงไม่ได้นับกันเป็นปี
แต่นับกันเป็นนาที หรือวินาทีนะครับ
เพราะฉะนั้น เวลาผ่านไปกว่าปี อะไรก็เปลี่ยนแปลงไปแบบจำไม่ได้
จากการสำรวจของทรูฮิตส์อีกเหมือนกันที่ระบุว่า
ในปี 2560 นี้ เว็บไซต์ที่มีผู้ชมโดยเฉลี่ยต่อวันมากที่สุดในประเทศคือเว็บข่าวสด
ตัวเลขกลมๆ คือ 1,064,000 คน/วัน
นำหน้าอันดับสองอยู่ 16,000 คน/วัน
นำอันดับสามอยู่ประมาณ 100,000 คน/วัน
และถ้ารวมตัวเลขทั้งเครือคือ ข่าวสด มติชน ประชาชาติ และอื่นๆ แล้วอยู่ที่ประมาณ 1.5-1.6 ล้านคน/วัน เป็นอย่างน้อย
ถ้าเทียบกับจำนวนผู้อ่านเว็บไซต์ทั้งประเทศที่เฉลี่ยประมาณ 13-14 ล้านคน
แปลว่าเครือมติชนนั้นมีส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มผู้อ่านเว็บไซต์
ประมาณร้อยละ 12-13 เข้าไปแล้ว
ไม่แต่เฉพาะตัวเลขจากซีกเว็บไซต์
สถิติจากซีกโซเชียลมีเดียยิ่งน่าสนใจ
ไลฟ์และคลิปของข่าวสดที่เริ่มเผยแพร่ตั้งแต่เดือนเมษายน 2559
มีผู้ชม 115 ล้านวิวต่อเดือนเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
ล่าสุด เฟซบุ๊กนำตัวเลขมาให้ดูว่า เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาตัวเลขผู้ชม-ไลก์-แชร์ไลฟ์ของข่าวสดนั้นอยู่ที่ 98,040,000 วิว
หรือเฉลี่ยแล้ว 3.38 ล้านวิว/วัน
เป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มไลฟ์/คลิปวิดีโออีกเช่นกัน
ไม่เท่านั้น ปีนี้เฟซบุ๊กแจ้งว่า จะหันมาโหมในเรื่องคลิปวิดีโอ
และมีการตกลงร่วมมือกันทางธุรกิจกับเครือข่าวสด-มติชน เพื่อจะเพิ่ม vod หรือ video on demand ให้มากขึ้น
ใครที่เป็นแฟนประจำข่าวสด มติชน และเว็บอื่นๆ ในเครือก็คงสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนเป็นต้นมา
นั่นคือมีคลิปวิดีโอรายการที่เกี่ยวเนื่องกับข่าวเพิ่มขึ้นมาอย่างผิดหูผิดตา
เป็นก้าวแรกของการเดินไปสู่โทรทัศน์บนมือถือหรืออุปกรณ์อื่นๆ
เมื่อประชาชนต้องการดูและฟังไม่น้อยไปกว่าอ่าน
ในฐานะสื่อเรามีหน้าที่ตอบสนองครับ
ไม่ใช่ไปสั่งให้ผู้บริโภคเดินตาม
แล้วจากนี้ข่าวสด-มติชน และอื่นๆ ในเครือจะทำอะไรต่อไปในโลกดิจิตอล
ก็คงวนเวียนอยู่กับ 3 เรื่องหลัก
ประการแรก คือพัฒนาสินค้าและบริการให้ดีขึ้น ตอบสนองผู้ชมผู้อ่านมากขึ้น
การผลิตรายการต่างๆ นั่นก็ส่วนหนึ่ง
การพัฒนาแนวทางการนำเสนอด้วยสื่อผสม ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในสื่อต่างประเทศหรือในโลกดิจิตอลข้างนอก ก็เป็นอีกทางหนึ่ง
แต่ทั้งหมดนี้ยังอยู่บนหลักการว่า เนื้อหาหรือแก่นของข่าวสารสาระที่นำเสนอต้องยังคงความน่าเชื่อถือ
ยังต้องถูกต้อง แม่นยำ เป็นธรรม
วิธีการนำเสนอเปลี่ยนไป แต่แก่นและหัวใจยังคงเดิมครับ
ประการต่อมา คือขยายตลาดต่อไป
แค่พิจารณาผู้อ่านเว็บไซต์ 14 ล้านจากประชากร 68 ล้านคน
หรือคนที่ลงทะเบียนโซเชียลมีเดีย 40 ล้านคน แต่ “แอ๊กทีฟ” จริงๆ ประมาณครึ่งหนึ่ง
แปลว่าตลาดยังขยายได้อีกเป็นเท่าตัวนะครับ
ประการสุดท้าย คือพัฒนา “บิ๊ก ดาต้า” ครับ
ขออนุญาตยกตัวอย่างจากการเก็บข้อมูลหลังบ้านข่าวสด เฉพาะเดือนธันวาคมเดือนเดียว
เราอยากรู้ว่าผู้อ่านเว็บข่าวสดแล้วไปดูเว็บรถยนต์ยี่ห้อไหนมากที่สุด
ผลออกมาคือเมอร์เซเดส-เบนซ์ครับ
มากขนาดยี่ห้อรองลงมาที่มีสามเว็บรวมกันถึงจะมีตัวเลขเท่ากัน
ขณะที่เว็บรถยนต์ยี่ห้อยอดนิยมมียอดผู้ชมแค่ 1/4
ข้อมูลอย่างนี้คือสิ่งที่ธุรกิจโฆษณาหรือเจ้าของสินค้าทั่วไปตามหาอยู่
นี่ก็ตลาดเรียกร้องอีกเหมือนกัน
ไม่เดินไปตามทางก็ตกขบวนเท่านั้นละครับ