โดย ปรัชญา นงนุช

‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ถูกจับตาอีกครั้ง แม้ขึ้นนั่ง ผบ.ทบ. ได้เพียง 6 เดือน หลังรับงานสำคัญจากรัฐบาลหลายงาน ทั้งการดูแลพื้นที่รอบสนามหลวง กรณีวัดพระธรรมกาย งานรับฟังความเห็นเกี่ยวกับพลังงานพื้นที่ภาคใต้ และงานตามนโยบายคสช. ในฐานะเลขาธิการคสช.ด้วย จึงเป็นมือขวาของ’บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำทัพคสช.-รัฐบาล

อีกทั้งเป็นมือสำคัญของงาน “ปรองดอง” ของคณะ’บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อีกผู้นำทัพคสช. เดินเครื่องงาน “ปรองดอง” ของคณะกรรมการเตรียมสร้างความสามัคคีปรองดอง ในคณะ ป.ย.ป.

โดย’บิ๊กเจี๊ยบ’ถือมีส่วนสำคัญจัดทำ”ร่างปรองดอง” ในฐานะประธานอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอกระบวนการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่จะเป็นปลายทางของกระบวนการจัดทำ “สัญญาประชาคม” หลังรับฟังความเห็นพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง ภาคประชาสังคม รวมกว่าร้อยกลุ่ม และการรับฟังในระดับจังหวัดผ่านกอ.รมน.จังหวัดด้วย

ดูเหมือนว่า ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ รับงานร้อนจาก ‘บิ๊กตู่’ มาหลายงาน มีการมองว่าจะเป็นเพราะ”ความเชื่อมั่น” ในตัว พล.อ.เฉลิมชัย ของนายกฯ หรือการโยนงานร้อนนี้จะเป็น”เผือกร้อน”หรือไม่ เพราะเป็นงานที่ทำให้ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ ตกเป็นเป้าโจมตีด้วย และมองกันไปอีกว่าจะเป็นการให้นั่งเป็น ผบ.ทบ. ปีเดียวหรือไม่

“ไม่มีอะไรร้อนเลย ตนรับได้หมด ยังยิ้มอยู่ สบายมาก” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว

แต่จากเสียงในทำเนียบฯ ก็มั่นใจได้ว่า ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ จะนั่ง ผบ.ทบ. ยาว 2 ปีตามวาระ ด้วยความเชื่อมั่นของนายกฯและผลงานที่ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา และไม่มีข่าวเชิงลบต่อ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ มากนัก หรือ ตกเป็นเป้าโจมตี จนทำให้ คสช. เสียขบวนไปด้วย

ถือเป็น “รบพิเศษ” ในรอบ 10 ปี นับจาก ‘บิ๊กบัง’พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นผบ.ทบ. ทำรัฐประหารปี2549 ให้รุ่นพี่”รบพิเศษ”อย่าง ‘บิ๊กแอ๊ด’พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นนายกฯ

หากย้อนกลับไปอีก”รบพิเศษ”คนแรกที่ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. คือ พล.อ.วิมล วงศ์วานิช ขึ้นมาหลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 ที่ทหารเสียศรัทธาจาประชาชน ถึงขั้นใส่ชุดทหารมาเดินริมถนนไม่ได้เลย เพื่อมาฟื้นศรัทธาจากประชาชน

จึงมองกันว่า “รบพิเศษ” มาเพื่อ “สถานการณ์พิเศษ” นั่นเอง ซึ่ง ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ นั่งเป็น ผบ.ทบ. เพื่อ”สถาการณ์พิเศษ”

จึงยังไม่มี”สัญญาณ”ใดๆที่จะให้ ‘บิ๊กเข้’พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ผู้ช่วยผบ.ทบ. น้องรักนายกฯ สายทหารเสือราชินี ขึ้นเป็นผบ.ทบ.แทน แต่อาจให้ไปเกษียณที่ตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมแทน

อีกทั้ง ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ เป็นที่จับตาตั้งแต่ขึ้น 5 เสือทบ.แล้ว เพราะเป็น”รบพิเศษ”ที่ขึ้นมาแบบแรงแซงโค้ง พอสมควร เป็นแคนดิเดท ผบ.ทบ. กับ’บิ๊กแกละ’พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร รองผบ.ทบ.

แม้กระแสจะไปทาง ‘บิ๊กแกละ’ ด้วยเป็นน้องรัก ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร สายบูรพาพยัคฆ์ แต่ก็เป็นที่เชื่อกันตลอดว่า เพียง’บิ๊กเจี๊ยบ’ขึ้น 5 เสือทบ. เป็น ผู้ช่วยผบ.ทบ. แบบ “ม้ามืด” ก็ชัดแล้วว่าเป็น “ผบ.ทบ.” คนต่อไป

มีการคาดกันอีกว่า ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ จะเป็นตัวตายตัวแทน ‘บิ๊กตู่’ ในอนาคตอีกด้วย ว่ากันถึงขั้นจะนั่งนายกฯแทน หาก ‘บิ๊กตู่’ วางมือไป ยังไม่ใช่เร็วๆนี้ จับตายาวถึงปีหน้า

จากไทม์ไลน์จะเห็นถึงการมาอย่าง “ม้ามืด” มาแล้ว เปรียบเป็นผู้ “ขี้ม้าขาว” มาในห้วงเวลาอันสำคัญ ในโค้งสุดท้ายของโรดแมปคสช.ด้วย ที่จะมีการเลือกตั้งช่วงปลายปี 2561 และมีรัฐบาลใหม่

แต่ฝ่ายการเมืองทั้งระดับแกนนำ”เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์” ก็มีเสียงเชื่อว่าการเลือกตั้งจะยังไม่เกิดขึ้นเร็วๆนี้ โรดแมปคสช.อาจเลื่อนออกไปด้วยเหตุผลสถานการณ์ภายในประเทศ

แม้’บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม’จะยืนยันเสมอว่ายึดตามโรดแมปเดิม แต่ก็เปิดช่องไม่ผูกมัดว่าอยู่ที่สถานการณ์ในเวลานั้นด้วย

สถานการณ์ “พิเศษ” จึงต้องอาศัย “รบพิเศษ” เช่นในอดีต ส่วนปลายทาง ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ จะต้อง “รับไม่ต่อ” จาก ‘บิ๊กตู่’ หรือไม่นั้น ดูกันไปยาวปี61

เพราะเสียงจากทำเนียบฯที่ยืนยันมาเสมอ ก่อนโผทหารปลายปี59 ออกมา ก็ยืนยันเสมอว่า “ยังไงนายกฯก็เลือกบิ๊กเจี๊ยบ” เลือกตรงนี้อาจไม่ใช่เพียงเป็น ผบ.ทบ.

แต่เสียงลือ เสียงแว่ว ล้วนเป็น “จริง” มาแล้วหลายครั้ง ถ้า ไม่มี “ควัน” ก็ไม่มี “ไฟ” !!