ชยพล สส.ก้าวไกล ซัด รัฐบาล เข้าขากองทัพ ฝีมือดูโอ้ ‘ทินและฐา’ฉะ เลิกทำโครงการเพื่อการโฆษณา

“ชยพล” สส.ก้าวไกล แซะ รัฐบาล เข้าขากองทัพ ฝีมือคู่หูดูโอ้ ‘ทินและฐา’ ซัด ไล่ฮุบที่ชาวบ้าน ปูด ใช้พื้นที่ ทร. ทำกาสิโน ฉะ เลิกทำโครงการฉาบฉวย เพื่อคอนเทนต์

เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152

เวลา 11.30 น. นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายเรื่องที่ดินกองทัพว่า ขณะนี้กองทัพบก มีพื้นที่ 4.5 ล้านไร่ มีเกินความจำเป็น จะเอาไปทำอะไรให้สมเหตุผลบ้าง

ที่ผ่านมานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง สั่งการนโยบายวันที่ 25 ธ.ค.2566 ให้กองทัพมอบที่ดินให้ประชาชน 9,276 ไร่ เป็นของขวัญให้ประชาชน ในโครงการหนองวัวซอโมเดล จ.อุดรธานี ดูแล้วน่าดีใจที่ชาวบ้านจะได้ที่ดิน

แต่ปราฏว่า เป็นสัญญาเช่า ทำให้ชาวบ้านไม่เอาด้วย เพราะชาวบ้านยืนยืนว่า ไม่ใช่ผู้บุกรุกที่ดิน เนื่องจากอยู่มาก่อนตั้งแต่ปี 2476 ก่อนที่ทหารจะมาขอแบ่งที่ดินไปทำสนามยิงปืน จากนั้นก็เคลมที่ดินทั้งหมดเป็นของตัวเอง ลำบากชาวบ้านต้องมาพิสูจน์สิทธิที่ดิน เป็นข้อพิพาทกันมาตลอด

ดังนั้น กรณีหนองวัวซอโมเดล หากชาวบ้านยินยอมเซ็นเช่าที่ดิน เท่ากับยอมรับเป็นผู้บุกรุกที่ดิน ขอให้ไปตรวจสอบสิทธิที่ดินให้ชาวบ้านก่อน หรือกรณีที่ดินวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ตั้งแต่ปี 2496 ก็มีการแบ่งพื้นที่ระหว่างสนามซ้อมยิงปืนของกองทัพกับที่ดินชาวบ้านอย่างชัดเจน

“แต่ตอนหลังกองทัพมาขอเคลมพื้นที่เอาที่ดินชาวบ้านไปหมด แต่ยังมีหน้ามาบอกว่าใจดีจัดสรรที่ดิน 500 ไร่ ให้ประชาชนทำมาหากิน ทั้งที่ที่ดินเหล่านี้เป็นของชาวบ้านมาก่อน เอาสิทธิอะไรไปให้ ทั้งที่ไม่ใช่ที่กองทัพ สรุปนี่คือ แซนต้าหรือตีนแมว อย่าเร่งทำโครงการเพื่อการโฆษณา” นายชยพล กล่าว

นายชยพล กล่าวว่า ขณะเดียวกันยังมีโครงการสร้างหน่วยต่อสู้อากาศยานและรักษาชายฝั่ง จ.ภูเก็ต วงเงิน 721 ล้านบาท ของกองทัพเรือ แต่รายละเอียดโครงการเกินครึ่งเป็นการก่อสร้างบ้านพัก และสาธารณูปโภค

ที่น่าสงสัย คือ ไปทำในพื้นที่ป่าสงวนบางขนุน โดยอาศัยจังหวะช่วงการเปลี่ยนระเบียบคณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ปี 2565 ที่ระบุการขอใช้พื้นที่ป่าสงวนจากที่ต้องขอความเห็นชอบจากสภาท้องถิ่นเป็นแจ้งเพื่อทราบเท่านั้น เพื่อฮุบที่เป็นของกองทัพเรือ

นี่คือการอ้างความมั่นคงเพื่อสร้างบ้านพักในป่าสงวนตากอากาศ เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้พวกพ้องตัวเอง สะท้อนภาพทหารครองเมืองชัดเจน นอกจากนี้ยังมีกรณีกองทัพเรือได้รับสัมปทานทำเหมืองหิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ปี 2556 จากกระทรวงอุตสาหกรรม

ทั้งที่ตามกฎหมายแล้ว กองทัพเรือไม่สามารถทำกิจกรรมประเภทโรงงานได้ ไม่รู้อนุญาตให้ทำได้อย่างไร ทราบว่าเป็นสมัยรัฐบาลยุคน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ช่วยฟันรายได้ 200 ล้านบาท จากโครงการนี้

แต่ด้วยความที่มีความผิดชัดเจน สำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จึงชี้ว่า กองทัพเรือไม่สามารถดำเนินกิจการแข่งกับเอกชนได้ จึงถูกระงับกิจการและสั่งฟื้นฟูพื้นที่กลับสู่สภาพเดิม แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ

ขณะเดียวกันยังมีการทำกิจการไฟฟ้าที่ ต.แสมสาร ของกองทัพเรืออีก อ้างว่าเป็นพื้นที่ความมั่นคง แต่มาตรการให้บริการก็เกิดไฟดับบ่อยมาก อ้างความมั่นคงแต่เป็นความมั่งคั่งของตัวเอง

แม้ชาวแสมสารจะไปยื่นหนังสือให้นายกฯ ช่วยเหลือ วันที่ 5 พ.ย.2566 นายกฯ ก็เรียกกองทัพเรือมาหารือ ถ่ายรูปโฆษณาใหญ่โต แต่ปรากฏว่า อีก 1 สัปดาห์ต่อมา กองทัพเรือไปปักป้ายไล่ชาวบ้านออกจากพื้นที่ ตกลงนายกฯ ไปคุยอะไรกับกองทัพเรือ

นายชยพล กล่าวว่า กองทัพเรือได้โครงการทำรันเวย์ที่ 2 กับเทอร์มินอลใหม่ของสนามบินอู่ตะเภา ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย และทร.ยังได้เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องระบบไฟฟ้า ประปา ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบจัดการขยะ ระบบจัดการเชื้อเพลิง ของเมืองมหานครการบิน 6,500 ไร่

“ล่าสุดทราบว่า รัฐบาลก็เล็งๆ ว่า จะก่อสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีบ่อนกาสิโน มาอยู่ในแหล่งกองทัพเรือบริเวณโซนนี้ รัฐบาลชุดนี้เข้าขากันดีกับกองทัพ โดยคู่หูดูโอ้ “ทินและฐา” ต้องเลิกทำโครงการแบบฉาบฉวย เพื่อคอนเทนต์โฆษณา เอาประชาชนเป็นเหยื่อการตลาด ขณะนี้ธุรกิจกองทัพมีมากมายก็ไม่รู้เมื่อไรจะเอาเข้าตลาดหลักทรัยพ์ คงมีแต่คงแย่งกันช้อน เพราะมั่นคงอย่างมั่งคั่ง” นายชยพล กล่าว