อนุชา ประกาศชัดเจน หลังปิดสมัยประชุมสภา จ่อเข้ามุ้งรวมไทยสร้างชาติ ลั่นไม่เคยต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี ชม ‘บิ๊กตู่’ มุ่งมั่น-จริงใจ อยู่แล้วสบายใจ

เมื่อเวลา 10.40 น.วันที่ 1 ก.พ.2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และส.ส.ชัยนาท แกนนำกลุ่มสามมิตร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กระแสข่าวเตรียมย้ายไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า ขณะนี้เป็นส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่ผ่านมาการทำงานกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คือความสุข เพราะได้เห็นวิธีการทำงานหลายอย่าง และมีความศรัทธาเรื่องการทำงานให้ท่านเป็นพิเศษ แม้บางครั้งอาจไม่เป็นอย่างใครคิด แต่ตนเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ที่มีความมุ่งมั่น จริงใจ โดยความจริงใจเป็นสิ่งที่สัมผัสได้ และยังยึดมั่นในตัวของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นหลักในเวลานี้

ผู้สื่อข่าวถามว่าปัจจัยที่ต้องการย้ายพรรค เพราะอยากไปอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ หรือความขัดแย้งในพรรค ที่บุคคลกลุ่มเดิมกลับเข้ามาร่วมงานกับพรรค นายอนุชากล่าวว่า ไม่มีความขัดแย้งกับคนในพรรค ตนเป็นคนพูดน้อย ไม่ค่อยพูด ยึดหลักทำงานจริงใจ มีใจมุ่งมั่นทำงานที่เหนือกว่าสิ่งที่อยู่ทางการเมือง

เมื่อถามว่าจะไปสมัครพรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อไหร่ นายอนุชา ยิ้มพร้อมกับชูมือก่อนกล่าวว่า อีกนิด เพราะยังมีงานส.ส.ที่ต้องประสานการทำงานอยู่ เมื่อถามย้ำว่ากลุ่มสามมิตร มีคำแนะนำอะไรหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ไม่มี กลุ่มสามมิตร อยู่กันแบบพี่น้องอย่างที่ทุกคนเห็น ไม่มีข้อขัดแย้ง เราทำงานเป็นพี่น้อง แม้จะคิดเห็นคนละอย่าง แต่ไม่มีปัญหาความเป็นพี่น้อง เราอยู่กับมา 30 ปี ไม่มีประเด็นในเรื่องพวกนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่านายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แกนนำกลุ่มสามมิตร ระบุสมาชิกหนึ่งในกลุ่มสามมิตร จะไม่ได้อยู่พรรคพลังประชารัฐ นายอนุชา กล่าวว่า ก็อาจจะ ซึ่งทุกอย่างจะชัดเจนแน่นอนหลังวันที่ 28 ก.พ.ที่ปิดสมัยประชุมสภา

เมื่อถามว่าจะชวนคนมาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติด้วยหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ปกติไม่ชวนใครอยู่แล้ว ยกเว้นใครที่มาอยู่แล้วอยากทำงานสบายใจ เพราะตนเคารพความเป็นพี่น้องและเพื่อนส.ส.ด้วยกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะลงสมัครส.ส.ชัยนาท หรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ตนจะลงสมัครส.ส.เขต เพราะลงมาตลอด และจะลงสมัครกับพรรคที่ส่งผู้สมัครครบ 400 เขต

เมื่อถามถึงข่าวต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี ในพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอนุชา กล่าวว่า ไม่มี ไม่เคยพูดเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีกับใคร ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันไม่เคยพูดแม้แต่ครั้งเดียว เพราะชอบทำงาน หากใครเห็นคุณค่าการทำงานก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะไม่ใช่เป็นคนพูดเหมือนคนอื่น