มหากาพย์ซื้อเรือดำน้ำจีนดูเหมือนจะจบลงอย่างง่ายดาย จู่ๆ ก็มีข่าวกองทัพเรือน่าจะยอมเปลี่ยนเงื่อนไขสัญญา จากที่เคยเสียงแข็ง ไม่เอาเครื่องยนต์จีน ต้องเอาเครื่องยนต์เยอรมันตามสัญญาที่ระบุไว้ชัดเจนเท่านั้น

สุดท้ายก็เสียงอ่อนลง ไม่รู้จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม คาดว่า กองทัพเรือไทย น่าจะได้ใช้เรือดำน้ำสัญชาติจีน ผลิตโดยจีน และใช้เครื่องยนต์จีน ซึ่งผิดจากสัญญาข้อตกลงที่เคยทำกัน จนสร้างความประหลาดใจให้คนคนไทยทั้งประเทศ ว่า เป็นไปอย่างนั้นได้อย่างไร และควรจะรอรัฐบาลใหม่ มีอำนาจตัดสินใจก่อนหรือไม่ ไหนๆ ก็ใกล้เลือกตั้งแล้ว

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ออกมาพูดเรื่องนี้ ถึงกรณีที่กองทัพเรือเผยแพร่คลิปวิดีโออธิบายการขับเคลื่อนเรือดำน้ำด้วยเครื่องยนต์จากจีน (CHD 620) แทนที่เครื่องยนต์จากเยอรมัน (MTU 396) ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตามข้อตกลงระหว่างกองทัพเรือกับบริษัท CSOC ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน ว่า ตนไม่ทราบว่าเหตุใดกองทัพเรือต้องพยายามชี้แจง ดูเหมือนเป็นความพยายามอย่างเป็นขั้นเป็นตอนที่จะนำไปสู่การแก้ไขสัญญาและยอมรับเครื่องยนต์ดีเซล CHD 620 ที่ผลิตจากจีน แทนเครื่องยนต์ MTU 396 ของเยอรมันใช่หรือไม่ ซึ่งหากในการเจรจาวันที่ 13-14 ธันวาคมนี้ กองทัพเรือยอมแก้ไขสัญญา ไทยจะกลายเป็นประเทศแรกในโลกที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล CHD 620 ของจีนในเรือดำน้ำ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีประเทศใดใช้งานเครื่องยนต์ดังกล่าวมาก่อน แม้แต่ประเทศจีนเอง

นายพิจารณ์กล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องไปยังกองทัพเรือ อย่าอ้างกับประชาชนว่าถ้าไม่ยอมรับเครื่องยนต์ดีเซล CHD 620 จากจีนแล้วจะทำให้เงินที่จ่ายไปแล้วกว่า 7 พันล้านบาทไม่ได้คืน เพราะเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองและสัญญาที่กองทัพทำกับฝ่ายจีน

“กองทัพเรือจะเห็นแก่ผลประโยชน์ของประเทศชาติมากแค่ไหน ผมขอให้อย่าคิดแต่เรื่องเงินทอน ผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง กองทัพเรือไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะต้องยอมรับการทำผิดสัญญาของจีน อย่าทำตัวเหมือนเด็กอยากได้ของเล่น ที่กลัวว่าถ้ารอบนี้ไม่ได้ซื้อ แล้วไม่รู้เมื่อไรจะได้ซื้ออีก เพราะนี่ไม่ใช่แค่เรือ 1 ลำ แต่แผนของกองทัพเรือ คือเรือดำน้ำถึง 3 ลำ รวมมูลค่าการลงทุน 36,000 ล้านบาท นี่คือชีวิต สวัสดิภาพ ความเสี่ยงภัยของทหารเรือไทย” นายพิจารณ์กล่าว

นายพิจารณ์กล่าวว่า หลังจากเห็นภาษากายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่มีต่อ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ในระหว่างเดินทางเยือนไทยเพื่อร่วมการประชุมเอเปค ทำให้รู้สึกเป็นห่วงท่าทีในการเจรจาต่อรองเรื่องเรือดำน้ำของกองทัพเรือและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าจะสามารถรักษาผลประโยชน์ของประเทศได้หรือไม่ ดังนั้น ในตอนนี้ที่รัฐบาลประยุทธ์กำลังจะหมดเวลาและหมดความชอบธรรม ตนขอให้รอรัฐบาลใหม่ ซึ่งอาจเป็นพรรค ก.ก. เข้ามาจัดการเรื่องนี้จะดีกว่า

เรื่องนี้มีความเห็นน่าสนใจจาก ThaiArmedForce.com เว็บไซต์วิชาการด้านความรู้เรื่องการทหารและความมั่นคง ที่แสดงความเห็นระบุว่า

อย่ากังวลเลยครับว่าจะมีใครติดคุก ถ้าเปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์จีนวันหนึ่ง เรือดำน้ำ มันเกิดปัญหาหรือจมลงมา

ดูอย่างเรือเหาะสิครับ ซื้อมาแล้วไม่เคยใช้ได้ มีปัญหาตลอด มีตัวใหญ่คนไหนติดคุกบ้างหรือยัง

ซ่อมเฮลิคอปเตอร์ฮิวอี้ ที่เดินผ่านเครื่องทีไรก็จะมีคนชี้ให้ดูน็อตมหัศจรรย์ตัวละสองแสน สุดท้ายคนเซ็นก็ไม่คุก แค่แป๊ก แต่ยุคหลังมานี่ คนมีคดีทุจริตแบบโด่งดัง ยังถูกดึงกลับมารับตำแหน่งสำคัญเป็น 5 เสือเลย

ที่เห็นชัดที่สุด GT-200 นี่ไงครับ รับรองถ้าเรื่องไม่ดัง ไม่มีการเลิกใช้แน่นอน ก็ยังจะยืนยันว่าใช้ได้ แต่ขนาดพอเรื่องดัง พิสูจน์แล้วว่าใช้ไม่ได้ ยังพยายามบอกว่าใช้ได้มาหลายปี จนกระแสมันอยู่มานานจนต้องยอมถอย เลิกใช้ไปเงียบ ๆ

พอถอยแล้วทำไง สอบสวนและเอาแต่คณะกรรมการตรวจรับขึ้นศาล แต่ไอ้คนที่ชงโครงการ คนที่อนุมัติโครงการ คนที่เซ็น ไม่ใช่แค่พ้นผิด แต่ไม่ถูกสอบสวน ไม่ถูกตั้งข้อหา หรือเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมด้วยซ้ำ ทุกวันนี้ยังนั่งลอยหน้าลอยตาออกทีวีกันอยู่ตั้งหลายคน

ดังนั้นใครจะบอกว่าคอยดูเถอะ เปลี่ยนเครื่องยนต์เรือดำน้ำเป็นเครื่องยนต์จีนแล้วถ้าวันใดเกิดปัญหาขึ้นมา รับรองติดคุกแน่ เรามีคำถามว่าจะติดจริงหรือ เพราะที่ผ่านมา ทุกคนรอดกันหมด เพราะสีเดียวกัน เหล่าเดียวกัน เพื่อนเรียนมาด้วยกัน ก็ช่วยกันนั่นแหละ หรือถ้าติดคุกขึ้นศาล ก็มีแต่ตัวเล็กทั้งนั้น แบบทุกวันนี้ ตัวใหญ่ที่เซ็นโครงการมา เกษียณไปเลี้ยงหลานสบายแล้ว

ขนาดเคยบอกว่าถ้าจีนผิดสัญญาก็จะยกเลิก มีหลักฐานเป็นคำพูดชัดเจน แต่สุดท้ายก็ไม่กล้ายกเลิก ดังนั้นฟันธง โครงการนี้ไม่มีทางยกเลิกแน่นอน ยังไงก็ต้องดันไปให้สุด เพราะอะไรหลาย ๆ อย่างมัน Settled กันไปแล้ว ถ้ายกเลิก ก็ไม่รู้จะหาที่ไหนมาคืนนะครับ ดังนั้นสบายใจได้

แต่ยังไงก็ขอให้มันไม่มีปัญหาแล้วกันครับ นี่หวังจริงจัง อยากให้มันใช้ได้ เพราะถ้ามีปัญหา มันน่าเสียดายทั้งชีวิตคนและเงินภาษี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทัพเรือ ยัน ยังไม่ได้ซื้อเครื่องยนต์เรือดำน้ำจีน ย้ำ ใช้งบฯคุ้ม-ตรวจสอบได้
ประวัติศาสตร์ดันทุรัง : ย้อนรอยเส้นทาง เมื่อรัฐบาล-ทัพเรือไทย อยากได้เรือดำน้ำจีน