‘ปรพล’ เปิดใจ เทรวมไทยสร้างชาติ ร่วมสร้างอนาคตไทย หวังตอบโจทย์ประเทศ

‘ปรพล’ เปิดใจ ทิ้งรวมไทยสร้างชาติ เข้าร่วมสร้างอนาคตไทย เปลี่ยนใจลงเขต หวังตอบโจทย์ประเทศ คลายเดือดร้อนปชช.

 

นายปรพล อดิเรกสาร อดีต ส.ส.สระบุรี บุตรชายของ นายปองพล อดิเรกสาร อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการยื่นใบลาออกจากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า

วันนี้ ผมได้ตัดสินใจทางการเมืองครั้งสำคัญ โดยสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) และมีความตั้งใจจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. สระบุรี เขต 1 ในนาม พรรคสร้างอนาคตไทย ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

สาเหตุเนื่องจาก ผมได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสระบุรี แล้วว่า ขณะนี้ปัญหาใหญ่สุดที่ประเทศชาติของเราเผชิญอยู่ และพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ รวมถึงพี่น้องชาวสระบุรี ประสบความยากลำบากกันมายาวนาน คือ ปัญหาเศรษฐกิจ และนับวันดูเหมือนปัญหาเศรษฐกิจจะหนักหนามากยิ่งขึ้น เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองโลก ที่กระทบเข้ามาสู่ประเทศไทย

ดังนั้น ผมเห็นว่า การสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.สระบุรี ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ควรจะต้องตอบโจทย์ปัญหาของประเทศ และปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด นั่นคือ ตอบโจทย์ปัญหาเศรษฐกิจ

ผมได้พิจารณาแล้วเห็นว่า พรรคสร้างอนาคตไทย เป็นพรรคที่ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมากที่สุด เนื่องจากเหตุผลดังนี้

1.เป็นพรรคที่ประกาศตัวเป็น พรรคเศรษฐกิจ เพื่อทำการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เป็นอันดับแรก เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น ปัญหาอื่นๆจะเบาบางลงไปเอง

เป็นพรรคที่ถึงพร้อมด้วยบุคลากรทางด้านเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นท่านหัวหน้าพรรค ดร.อุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ท่านสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค อดีต รมว.พาณิชย์ เเละ บุคลากรอื่นๆอีกหลายท่าน ที่มีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ มีผลงานในการวางรากฐานทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย คือ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งนโยบายของพรรคสร้างอนาคตไทยที่เริ่มทยอยออกมา ก็เป็นนโยบายที่ตอบโจทย์ปัญหาตรงจุด เช่น นโยบายกองทุนสร้างอนาคตไทย 3 แสนล้านบาท เป็นต้น ซึ่งผมเชื่อมั่นว่า จะเป็นพรรคที่สามารถนำพาประเทศหลุดพ้นจากปัญหาเศรษฐกิจได้เสียที ภาคธุรกิจต่างๆจะได้กลับมาฟื้นตัว ประชาชนจะได้มีชีวิตความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

2.จังหวัดสระบุรี เป็นจังหวัดเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคกลาง มีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก ทั้งอุตสาหกรรมการเกษตร อุตสาหกรรมส่งออก อุตสาหกรรมที่ลงทุนโดยนักลงทุนไทยและต่างชาติ มีนิคมอุตสาหกรรมจำนวนมาก มีผู้ใช้แรงงานในภาคอุตสาหกรรมหลายแสนคน เมื่อรวมครอบครัวของผู้ใช้แรงงานก็จะมีประชาชนที่ได้อานิสงส์มีรายได้จากการทำงานในภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดสระบุรีนับล้านคน นอกจากนี้จังหวัดสระบุรียังมีแหล่งท่องเที่ยวและธุรกิจท่องเที่ยวอีกเป็นจำนวนมาก มีผลผลิตการเกษตรที่สำคัญและขึ้นชื่อหลายอย่าง มีอุตสาหกรรมขนาดใหญ่คืออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้าง อิฐ หิน ในแง่ภูมิศาสตร์ จังหวัดสระบุรีเป็นประตูสู่ภาคอีสาน จังหวัดในภาคกลางทุกจังหวัดต้องใช้สระบุรีเป็นฮับออกสู่ภาคอีสาน รวมถึงไปประเทศลาว

จากเหตุผล 2 ประการข้างต้น ทำให้ผมตัดสินใจได้ว่า หากผมมาทำงานการเมืองร่วมกับพรรคสร้างอนาคตไทย และลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เขต 1 จังหวัดสระบุรี ในนามพรรคสร้างอนาคตไทย จะสามารถตอบสนองการพัฒนาเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และการทำให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสระบุรีมีชีวิตความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจดียิ่งขึ้นได้กว่าปัจจุบันอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ในแง่ส่วนตัว ผมถือว่าตนเองจะได้สืบสานเจตนารมณ์ของ ท่าน พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร อดีต ส.ส.สระบุรี 12 สมัย คุณปู่ของผม เพราะท่านประมาณ อดิเรกสาร เป็นผู้มีคุณูปการอย่างมากกับจังหวัดสระบุรีมาแต่ในอดีต คือ สมัยท่านประมาณ อดิเรกสาร เป็นประธานสมาคมอุตสาหกรรมไทย และเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เป็นผู้ผลักดันให้จังหวัดสระบุรีกลายเป็นจังหวัดเศรษฐกิจ เป็นเมืองอุตสาหกรรมจนถึงทุกวันนี้ สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดสระบุรี

สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ ผมได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2565 โดยเป็นการจากกันด้วยดี ด้วยมิตรภาพและความปรารถนาดีต่อกัน