“ไทยสร้างไทย” เปิดตัว “ศิธา ทิวารี” ลงผู้ว่า กทม. “หญิงหน่อย” การันตี ดีเอ็นเอตรงสเปค

“ไทยสร้างไทย” เปิดตัว “ศิธา ทิวารี” ลงผู้ว่า กทม. เจ้าตัว ระบุ ผมเป็นคนของประชาชน เข้าใจปัญหา รู้คุณค่าประชาชน ขอเป็นคนจริง ทำในสิ่งที่ผู้ว่าคนอื่นไม่เคยทำ ประกาศติดปีกเมืองหลวงให้คนกรุงเทพฯ ชูธงสร้างคน สร้างลูกหลานให้เป็น Global Citizen ทะยานสู่การเป็นมหานครของโลก “สุดารัตน์” ระบุ ส่ง ศิธา ลุยชิงผู้ว่ากทม. เพราะดีเอ็นเอตรงสเปค “ทำงานจริงจังฟังเสียงประชาชน” ประกาศสร้างกรุงเทพฯ ให้กลับมาเป็นบ้านที่น่าอยู่อีกครั้ง” ชูแพคเกจนโยบาย สร้างกรุงเทพฯให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ สร้าง Ecosystem ดึงดูดคนจากทั่วโลก 

 

วันที่ 30 มีนาคม 2565 น.ต.ศิธา ทิวารี ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคไทยสร้างไทย ขึ้นเวทีเปิดใจหลังได้รับความไว้วางใจจาก พรรคไทยสร้างไทยให้ทำหน้าที่ ตัวแทนพรรคในการลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า เมื่อ22 ปีที่แล้วได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งแรกที่เขตคลองเตย และครั้งนั้นถูกมองว่าเป็น “ม้านอกสายตา” เพราะคู่แข่งคือ “คุณอาณัฐชัย รัตตกุล” อดีต ส.ส. 3 สมัย จากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นทั้งลูกชายของ “ท่านพิชัย รัตตกุล” อดีตรองนายกรัฐมนตรี และแกนนำสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นทั้งน้องชายของ “ดร.พิจิตต รัตตกุล” อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

แม้รู้ว่าเป็นรอง แต่ตนเป็นคนไม่ยอมแพ้ ไม่ท้อถอย ชัดเจน จริงจัง เข้มแข็ง และสู้ในสนามเลือกตั้งถึงวินาทีสุดท้าย จนได้รับความไว้วางใจ ให้เป็นตัวแทนของพี่น้องชาวคลองเตย มีโอกาสทำงานในพื้นที่ เข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้กับชาวคลองเตย ลงไปอยู่กับพี่น้องประชาชน กินนอนกับพี่น้องประชาชน นำมาสู่การได้รับความไว้วางใจ ให้เป็นผู้แทนราษฎร ถึง 2 สมัยติดต่อกัน

ต่อมาเมื่อพ้นจากการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองหลังพรรคที่สังกัดในเวลานั้นถูกยุบ ก็ได้รับการชักชวนจากคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยพรรคไทย ซึ่งเป็นนักการเมืองที่เคารพรัก และเป็นต้นแบบในการทำงานให้มาร่วมสร้างพรรค “สร้างประเทศไทยที่ดีที่สุดให้กับลูกหลานทุกคน” พาประเทศไทยออกจากวิกฤต การเมือง เศรษฐกิจ สังคม ที่ถาโถมเข้ามา

และในวันนี้ เป็นอีกก้าวย่างสำคัญของชีวิต ที่ได้รับความไว้วางใจจากพรรคไทยสร้างไทย ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จึงขอใช้ศักยภาพทั้งหมดที่มี สร้างกรุงเทพที่ดีที่สุดให้กับทุกคน ทำให้สุดความสามารถ เพื่อจะได้ตอบกับลูกหลาน อย่างภาคภูมิใจว่า “พ่อได้ทำดีที่สุด พ่อจะเป็น “นั่งร้าน” ให้คนรุ่นลูกรุ่นหลาน ร่วมสร้างอนาคตประเทศไทย สร้างอนาคตของกรุงเทพ เพื่อทุกคน ซึ่งมั่นใจว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ “สู้ได้ และจะสู้ให้สมศักดิ์ศรี” เป็นทางเลือกใหม่ที่ดีที่สุดให้แก่ คน กทม. ทุกคน

น.ต.ศิธา ระบุด้วยว่า เมื่อมองดู “กรุงเทพมหานคร” แล้วเปรียบเสมือน “ประเทศไทยย่อส่วน” ที่การจัดวางสำนัก กรม กอง ไม่ต่างกับ กระทรวง ทบวง กรม ของรัฐบาลกลาง ซึ่งส่วนตัว เคยรับข้าราชการ และเป็นข้าราชการการเมืองมาก่อน มีโอกาสรับผิดชอบดูแลในหลายด้าน โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำของกรุงเทพมหานคร ทำให้รู้ว่า นอกจากจะต้องใช้กลไกของ กทม. ทั้ง 50 เขตแล้ว จะต้องอาศัยความร่วมมือกับจังหวัดรอบข้างด้วย ไม่เช่นนั้น จะไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพอย่างยั่งยืนได้

น.ต.ศิธา กล่าวเพิ่มเติมว่า ความเป็นผู้นำของผู้ว่า กทม. มีความสำคัญ เพราะต้องไปประสานความร่วมมือกับจังหวัดรอบข้าง และรัฐบาลกลางให้ได้ ดังนั้นความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

“ผมจะมือประสานที่ดี บริหารให้เป็น เข้าใจโลกและรู้คุณค่าของประชาชน เพื่อสร้างกรุงเทพที่ดีที่สุด กรุงเทพฯจะต้องเป็นมหานครของโลก โดยการติดปีกให้คนกรุงเทพฯ และผมจะร่วมกับพี่น้องประชาชนทุกคน สร้างลูกหลานของเรา ให้เป็น Global Citizen ผมจะขอทำในสิ่งที่ผู้ว่า กรุงเทพฯคนอื่นไม่เคยทำ” น.ต.ศิธา กล่าว

สำหรับแนวทางในการแก้ปัญหาให้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม หรือ 3P “People Profit Planet” เพื่อยกระดับกรุงเทพ ให้เป็น “มหานครของโลก ที่คนทั่วโลกยอมรับ” ไม่ว่าจะเป็น

“People”
การสร้างเมืองแห่งโอกาสให้ชาวกรุงเทพ โดยตนจะเป็นผู้ว่าฯคนแรก ที่ให้อำนาจ ชาวกรุงเทพทุกคน มีส่วนร่วมในการบริหารและตรวจสอบการใช้งบประมาณ กทม. ด้วยสภาชุมชน (Community Council) เพื่อกำจัดคอรัปชั่น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ กทม.ด้วยระบบกระจายอำนาจการตรวจสอบ (Decentralized Autonomous Organizatiom:DAO) ด้วยเทคโนโลยี Blockchain โดยประเมินความสามารถของทุกหน่วยงานของ กทม. จะใช้ Bangkok Coin ให้รางวัลจูงใจในการสร้างการมีส่วนร่วมของคน กทม. เพื่อให้เป็น Active Citizen และที่สำคัญที่สุด ผมจะลงทุนกับการสร้างคนให้มากที่สุด ตั้งแต่ กรุงเทพฯเคยมีผู้ว่าราชการจังหวัดมา

โดยตนจะทำโรงเรียนสังกัด กทม. ให้มี “มาตรฐาน” ทัดเทียมกัน “ความเป็นเลิศทางการศึกษา” ต้องไปพร้อมกันทุกโรงเรียน เราจะช่วยกันเปลี่ยนโรงเรียนจากเดิม “สอนเด็กให้อยู่ในระบบ ไม่ต่างจากหุ่นยนต์” ให้เด็กสามารถ “คิดเป็น และค้นพบความต้องการของตัวเอง” โดยครู จะเป็น Facilitator ไม่ใช่เป็นแค่ผู้ป้อนความรู้ ถ้าหากตรเป็นผู้ว่า กทม. โรงเรียนที่ดีที่สุด คือ โรงเรียนที่ใกล้บ้านที่สุด เพราะมาตรฐานของทุกโรงเรียนเท่ากัน ผมไม่อยากให้เด็ก กทม. ต้องโตในรถ ต้องเจอรถติด เพื่อไปเรียนที่โรงเรียนชื่อดัง

“Profit”
สร้างมหานครแห่งความมั่งคั่ง เพื่อ Take off กรุงเทพ โดยตนจะนำร่องกองทุนเครดิตประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคไทยสร้างไทย เพื่อล้างหนี้นอกระบบ ให้ทุกคนตั้งตัวได้ ประชาชน “คนตัวเล็ก” ไม่ต้องกู้หนี้นอกระบบในอัตราดอกเบี้ยแสนโหด จากร้อยละ 20 ต่อเดือน ให้สามารถกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน ร้อยละ 1 ต่อเดือน สร้าง Bangkok Creative City ใช้วัฒนธรรมนำเศรษฐกิจ จัด event สร้างรายได้ให้

ทุกเขต ทุกเดือนทั่วกรุงเทพ สร้างเมืองหลวง Street Food ของโลก อาหารสะอาด รสชาติอร่อย สร้างที่ค้าขาย ทุกเขตทั่วกทม. ได้ 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งแก้ปัญหาส่วยหาบเร่แผงลอย ด้วย DAO และกลไกสภาชุมชน สร้างกรุงเทพให้เป็น New Economy Hub บ่มเพาะเด็กกรุงเทพให้เป็น nano entrepreneur ด้วยการสนับสนุนเงินลงทุนและให้ความรู้ ควบคู่ไปกับการสร้าง ecosystem ของกรุงเทพให้เป็นออฟฟิศดึงดูดคนเก่ง และนักลงทุนจากทั่วโลก

“Planet”
สร้างคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพอย่างยั่งยืน บอกลาน้ำรอระบาย ด้วยแพ็คเกจแก้น้ำท่วมก่อนกรุงเทพจมบาดาล ลดมลพิษ ลดฝุ่น PM2.5 โดยห้ามรถที่ปล่อยควันเสียวิ่งในกทม. ควบคุมการก่อสร้าง เร่งปลูกต้นไม้ ผลักดันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดย กทม.สนับสนุนการตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าในทุกเขต
สร้างเมืองสุขภาพดี เพิ่มสถานที่ออกกำลังกายตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ แจกสายรัดข้อมืออัจฉริยะ ส่งเสริมคนกทม.ให้ออกกำลังกาย คนกรุงเทพต้องไม่ตายผ่อนส่งจากโรคมะเร็ง ต้องกินอาหารที่ปลอดภัย ปลอดสารพิษ

โดยการตรวจอย่างเคร่งครัด เพิ่มพื้นที่สีเขียว จาก 6.97 ตร.ม./คน เป็น 9.0 ตร.ม./คน ตามมาตรฐานนานาชาติ พร้อมปูพรมบริหารจัดการขยะ ซึ่งตนจะขอทุบทำลายทุกปัญหา ให้พี่น้องคนกรุงเทพ จะไม่แก้ปัญหาแบบลูบหน้าปะจมูก ไม่เกี้ยเซี้ยปล่อยให้มีการแสวงหาประโยชน์ใน กทม. เป็นสมบัติผลัดกันชม เราจะทุบหม้อข้าวผู้ที่หาผลประโยชน์ทางการเมือง ในหน่วยงานต่างๆที่เอื้อประโยชน์ให้เกิดการทุจริต

“พรรคไทยสร้างไทย ผม และผู้สมัคร ส.ก. ทุกคนมีความตั้งใจ มีความพร้อมที่จะ สร้างกรุงเทพที่ดีที่สุดร่วมกับ พี่น้องชาว กทม. ผมเป็นคนของประชาชนมาทั้งชีวิต รู้ปัญหาต่างๆของประชาชน เข้าใจและรู้คุณค่าของประชาชน ดังนั้นเราจะมาร่วมกันสร้างกรุงเทพให้เป็นมหานครของโลก ที่ทุกคนยอมรับ ด้วยการติดปีกให้คนกรุงเทพ และสร้างลูกหลานของเรา ให้เป็น Global Citizen โดยผมจะทำในสิ่งที่ผู้ว่า กทม. ไม่เคยทำ” น.ต.ศิธา กล่าว

ขณะเดียวกันได้ประกาศ เปิดกองอำนวยการการเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครของพรรคไทยสร้างไทย โดยมีนายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. และ ส.ก. ดร.โภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการ ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย เป็นผู้อำนวยการนโยบายพัฒนา กทม. และนายสุธา ชันแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่ภาค กทม.

‘ศิธา’ ตรงสเปค ทำงานจริงจัง-ฟังเสียงประชาชน

คุญหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ขึ้นเวทีเปิดใจโดยระบุว่ากรุงเทพมหานคร คือบ้านเกิดทางการเมืองของ “สุดารัตน์” 30 ปี ผูกพันกับคนกรุงเทพฯ รู้ปัญหาของคนกรุงเทพฯลึกซึ้ง พรรคไทยสร้างไทยมองเห็นกรุงเทพฯ คือหัวใจของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย มาวันนี้โอกาสของเมือง โอกาสประชาชน โอกาสของประเทศ เสียหายไปมาก และไม่ได้สร้างโอกาสใหม่ให้กับเมือง จึงตั้งใจสร้างพรรคไทยสร้างไทย ให้เป็นทางเลือกใหม่ของประเทศไทย และสร้างโอกาสใหม่ให้กับกรุงเทพฯ

ตนไปแล้วมาหลายจังหวัด หลายภูมิภาคทั่วประเทศ อยู่บนถนนสายการเมืองมาแล้วสามสิบปีเต็ม แต่ไม่มีที่ไหน อุ่นใจ สบายใจ ภูมิใจ เท่ากับได้พูดได้อยู่ ได้ร่วมแก้ปัญหาไปกับพี่น้องชาวกรุงเทพฯแบบในวันนี้
เพราะกรุงเทพฯ คือบ้านเกิดทางการเมืองของสุดารัตน์ ไม่มีพี่น้องชาวกรุงเทพฯ มอบความไว้วางใจให้ในปี 2535 ไม่มีสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ บนถนนสายการเมือง มาจนถึงวันนี้ “หน่อยมีวันนี้ เพราะพี่น้องชาวกรุงเทพฯ มอบโอกาส และความไว้วางใจให้”

การได้รับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ มาเป็นเวลาสามสิบปีเต็ม การได้เดินไปในตรอก ซอก ซอย ได้โอบกอด และพบปะกับพี่น้องประชาชนอยู่เป็นประจำ ทำให้หน่อยผูกพันกับพี่น้องชาวกรุงเทพฯ และรู้ปัญหาที่พี่น้องชาวกรุงเทพฯ กำลังเผชิญอยู่อย่างลึกซึ้ง

พรรคไทยสร้างไทย ให้ความสำคัญกับกรุงเทพมหานครอย่างยิ่ง เรามองว่า กรุงเทพฯ คือหัวใจของการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจไทย ทั้งประเทศ สิ่งที่เราได้เห็น ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา เรียกได้ว่าน่าเศร้าใจ เพราะที่เราได้เห็นคือ “โอกาสหลายอย่างได้หายไปจากเมืองแห่งนี้ โอกาสหลายอย่างได้หายไปจากมือของคนกรุงเทพฯ” โลกเปลี่ยนไว แต่กรุงเทพฯ คว้าโอกาสจากโลกยุคใหม่ได้ไม่ทันการณ์ เราขาดผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ คิดไกล มองปัญหาอย่างเป็นระบบ เป็นนักปฏิบัติที่ตั้งเป้าหมายสูง และพร้อมทำงานเป็นทีม
ชัดเจนแล้วว่า โอกาสของเมือง โอกาสประชาชน โอกาสของประเทศ เสียหายไปมากไม่ได้สร้างโอกาสใหม่ให้กับเมือง ไม่ได้ใช้ศักยภาพของ กรุงเทพฯ ส่งเสริมระบบเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่ง ที่รู้สึกเสียใจทุกครั้ง คือการได้ยินว่า “กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ไม่น่าอยู่” ประโยคนี้ นำไปสู่เป้าหมายของพรรคไทยสร้างไทย ในสนามการเลือกตั้งกรุงเทพฯ “เราจะทำให้กรุงเทพฯ กลับมาเป็นบ้านที่น่าอยู่ให้ได้”

สามสิบปี หน่อยได้ผ่านร้อนผ่านหนาวทางการเมือง จากพรรคพลังธรรม จนถึงพรรคไทยสร้างไทย คือพรรคสุดท้ายและภารกิจสุดท้ายในชีวิตทางการเมือง ขอทำให้ดีที่สุด เพื่อส่งมอบประเทศไทยที่ดี กรุงเทพที่ดีที่สุด มีอนาคตให้กับคนไทยทุกคน

ตลอดสามสิบปีในชีวิตทางการเมือง ไม่เคยเห็นประเทศของเรา ตกต่ำและคนไทยต้องทุกข์ยากเท่ากับช่วงเวลานี้ จำเป็นต้องมีพรรคการเมืองที่ เป็นทางเลือกใหม่ เป็นทางรอดของประเทศ มาแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนและพรรคเรา “ไทยสร้างไทยพรรคเดียวไม่เกี่ยวใคร”

พรรคไทยสร้างไทย มีวาระสำคัญเพื่อยุติความขัดแย้ง และมุ่งสร้างเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวให้ได้โดยเร็วที่สุด และหากจะทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวได้เร็วที่สุด กรุงเทพฯ ต้องเป็นเมืองแห่งการสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ และเป็นเมืองแห่งโอกาส สามารถแข่งขันกับมหานครแห่งอื่นๆของโลกได้ พรรคไทยสร้างไทยมาพร้อมกับแพคเกจนโยบาย เพื่อให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางของ New Economy Hub หรือ ศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่

สร้าง Ecosystem ใหม่เพื่อให้เป็น Office ดึงดูด คนเก่ง นักลงทุน ผู้ประกอบการ และเศรษฐีจากทั่วโลก จึงขอให้พี่น้องชาว กทม. ได้ให้ความไว้วางใจทีมไทยสร้างไทยอีกครั้ง เหมือนที่เคยไว้วางใจเลือก สุดารัตน์เป็น ส.ส. ครั้งแรกในปี 2535 ลงเลือกตั้งเมื่อไหร่ พี่น้องชาว กทม. เทคะแนนเสียงให้ จนได้เป็น ส.ส. ต่อเนื่อง 4 สมัย และไว้วางใจเหมือนที่เคยเลือกทีมงานของสุดารัตน์

ในการเลือกตั้ง ส.ก.กรุงเทพฯ ในนามกลุ่มพลังไทย ใน ปี 2541 จนได้รับชัยชนะจำนวน 36 ที่นั่งจาก 100 ที่นั่งใน 14 เขตเลือกตั้ง เหนือทุกพรรคการเมืองในเวลานั้น จึงสำนึกเสมอว่า “หน่อยมีวันนี้เพราะพี่น้องชาวกรุงเทพฯ มอบโอกาสและความไว้วางใจให้” ความไว้วางใจและได้ทำงานยากใน กทม.สำเร็จมาแล้วหลายเรื่อง

เมื่อได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้มีส่วนในการกำกับดูแลกรุงเทพมหานคร ได้ผลักดัน และสร้างการเปลี่ยนแปลงในกรุงเทพฯ หลายเรื่อง เช่นวางโครงสร้างการแก้ไขปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ อย่างเป็นระบบจัดทำแผนแม่บทโครงข่ายทางด่วนใยแมงมุม จัดทำแผนแม่บทรถไฟฟ้าทั้งหมดในกรุงเทพฯ ที่ใช้จนถึงปัจจุบัน เร่งรัดการก่อสร้างถนนสายรอง ตัดทะลุตรอกซอกซอย ก่อสร้างสะพานข้ามทางแยก และอุโมงค์ ทำให้ระบายรถได้เร็วขึ้นทั้งเมือง ลอกท่อระบายน้ำและคูคลองในกรุงเทพฯ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม ผลักดันการสร้างสวนสาธารณะทั้งขนาดเล็กและใหญ่

เมื่อได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้นำโครงการประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรคไปปฏิบัติ จนเป็นผลสำเร็จ ทั้งได้รณรงค์ และออกตรวจตลาดอย่างจริงจัง เพื่อให้คนไทยได้ทานอาหารที่ปลอดภัย ไม่ปนเปื้อนสารพิษ ไม่ตายผ่อนส่งจากโรคมะเร็ง นี่คือสิ่งที่หน่อยได้เคยทำมาเพื่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯ และพรรคไทยสร้างไทย ขออาสาทำให้ดียิ่งกว่าเดิม เพื่อให้กรุงเทพฯ กลับมาเป็นบ้านที่น่าอยู่ของคนกรุงเทพฯ ให้ได้

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทำงานคนเดียวไม่ได้ จำเป็นต้องมี ส.ก. เป็นมือเป็นไม้ เป็นเครือข่ายใยแมงมุมทั่วกรุงเทพฯ เพื่อช่วยเหลือการทำงาน และดูแลพี่น้องประชาชน ผู้ว่าฯอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีเสียงของส.ก.คอยสนับสนุน พรรคไทยสร้างไทยจึงส่งผู้สมัคร ส.ก. ครบถ้วน 50 คน ใน 50 เขตเลือกตั้ง และพรรคไทยสร้างไทยมั่นใจว่า ทีมงานที่เราเชื่อมั่นมีดีเอ็นเอตรงกัน นั่นคือ “ทำงานจริงจัง ฟังเสียงประชาชน”
สามสิบปีที่ผ่านมา “สุดารัตน์” หยัดยืนบนเวทีการเมืองได้ เพราะมีทีมงานเข้มแข็ง ทีมงานที่คอย ช่วยคิด ช่วยทำ ช่วยนำ ช่วยประสานงาน นั่นคือ “ศิธา ธิวารี” หรือ ผู้พันปุ่น และวันนี้ในนามพรรคไทยสร้างไทย เราขอส่งคนที่เราเชื่อมั่นที่สุด ไว้วางใจที่สุด “ศิธา ธิวารี” ลงชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพเทพมหานคร

ศิธา ธิวารี เป็นคนที่หน่อยเชื่อมั่นว่า จะเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานครได้ดี จะสร้างกรุงเทพฯ ให้กลับมาเป็นบ้านที่น่าอยู่ได้ เป็นบ้านแห่งความสุข น.ต.ศิธา จึงเป็นคนที่ตนเองเชื่อมั่น ไว้วางใจ เรามีดีเอ็นเอการทำงานตรงกัน และเมื่อตนเองได้เป็นรัฐมนตรีฯ จากเหนือจรดใต้ ปุ่นไปกับหน่อยทุกที่ ทุกจังหวัด ทุกห้องประชุม มีสุดารัตน์ที่ไหน จะเห็นศิธา เดินอยู่ใกล้ ๆ เป็นเงาตามตัว เป็นเบื้องหลังความสำเร็จ เป็นคนช่วยคิด และช่วยลงมือปฏิบัติให้สำเร็จจริง เราจึงทำงานยากให้สำเร็จมาแล้วหลายเรื่อง หน่อยจึงขอฝากคนที่หน่อยเชื่อมั่นที่สุด ให้พี่น้องคนกรุงเทพฯ ได้เลือกเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนต่อไป

ขอพี่น้องได้ให้การสนับสนุนผู้สมัคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ส.ก.จากพรรคไทยสร้างไทยในทุกเขตเลือกตั้ง เพราะทุกคะแนนเสียง เท่ากับได้เลือกสุดารัตน์ เป็นผู้ช่วยอีกหนึ่งคนเข้าไปรับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ เลือก ศิธา เป็นผู้ว่า กทม. ได้สุดารัตน์อีกหนึ่งคน ไปช่วยทำงาน เลือก ส.ก. เขตไหน เท่ากับได้สุดารัตน์อีกหนึ่งคน ไปช่วยทำงาน เพราะฉะนั้น ขอช่วยกันเลือก เลือกศิธายกทีม

พรรคไทยสร้างไทย ขอสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้คน กทม. เลือก ศิธา เป็นผู้ว่าฯ กทม. ไปติดปีกให้กรุงเทพฯ ให้เป็นเมือง Wealthy สร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองแห่งการสร้างรายได้ เมืองแห่งโอกาสในการทำมาหากิน เมืองแห่งศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ คนเก่ง นักลงทุนเดินอยู่เต็มเมือง และคนในเมืองมีเงินเต็มกระเป๋า ให้เป็นเมือง Healthy สร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่มีแต่คนสุขภาพดี มีสิ่งแวดล้อมที่ดี มีสถานที่ออกกำลังกาย ได้ทานอาหารปลอดภัย ให้เป็นเมือง Happy สร้างกรุงเทพฯให้เป็นเมืองแห่งความสุข
ให้เป็นบ้านที่น่าอยู่ อยู่แล้วมีความสุขที่สุด เดินไปไหน มีแต่คนบอก “กรุงเทพฯ น่าอยู่”