เผยแพร่ |
---|
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสถานกาณ์การรุกรานยูเครนจากกองทัพรัสเซียยังคงดำเนินต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 การรุกคืบของรัสเซียยังคงดำเนินต่อแต่การต่อต้านอย่่างดุเดือดจากยูเครนก็เพิ่มขึ้น ท่ามกลางการส่งความช่วยเหลือจากชาติตะวันตกโดยเฉพาะประเทศในกลุ่มนาโต้ ในขณะที่การกดดันทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียจากประชาคมระหว่างประเทศดำเนินหนักขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุด บีบีซีรายงานว่า สหภาพยุโรป สหรัฐฯและชาติพันธมิตรได้เห็นพ้องในการตัดขาดธนาคารรัสเซียทั้งหมดออกจากระบบธุรกรรมระหว่างประเทศหรือ “สวิฟท์” ซึ่งส่งผลทำให้สินทรัพย์ในธนาคารกลางของรัสเซียถูกแช่แข็ง จำนวนความสามารถของรัสเซียในการเข้าถึงทุนสำรองในต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้รัสเซียถูกโดดเดี่ยวจากระบบการเงินระหว่างประเทศ นับเป็นมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินขั้นสูงสุดที่ชาติพันธมิตรใช้เพื่อหยุดยั้งการกระทำของรัสเซียในการรุกรานยูเครน
ด้านโฆษกของสมาคมโทรคมนาคมทางการเงินระหว่างธนาคาร ซึ่งดูแลระบบเชื่อมโยงการเงินทั้งโลกได้กล่าวว่า ธนาคารที่ได้รับผลกระทบคือ “ธนาคารทั้งหมดที่ได้รับอนุมัติจากประชาคมระหว่างประเทศ เช่นเดียวกับสถาบันอื่น ๆ หากจำเป็น”
เออร์ซูล่า วอน เดอร์ เลเย่น ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่าการตัดสินใจที่จะทำให้ทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียเป็นอัมพาตจะหยุดรัฐบาลรัสเซียจากการ “ใช้เงินทุนสงคราม”
สหภาพยุโรปและพันธมิตรตกลงที่จะระงับการทำธุรกรรมของธนาคารและป้องกันไม่ให้มีการชำระบัญชีสินทรัพย์
เออร์ซูล่าเสริมว่าจะมีการปราบปรามสิ่งที่เรียกว่า “หนังสือเดินทางทองคำ” ที่ “ปล่อยให้ชาวรัสเซียผู้มั่งคั่งที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซียกลายเป็นพลเมืองของประเทศของเราและเข้าถึงระบบการเงินของเรา”
ขณะที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักร กล่าวว่า สหราชอาณาจักรได้ “ดำเนินการอย่างเด็ดขาด” โดยทวีตว่า “เราจะทำงานร่วมกันต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่าปูตินจะชดใช้ราคาสำหรับการรุกรานของเขา”
ในการตอบสนองต่อการประกาศดังกล่าว นายกรัฐมนตรีเดนนิส ชมีฮาลของยูเครนได้ทวีตแสดงความขอบคุณต่อมาตรการคว่ำบาตร โดยเรียกพวกเขาว่า “ความช่วยเหลือที่แท้จริงในช่วงเวลาที่มืดมิดนี้”
ทั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปจะประชุมกันในวันนี้เพื่อประสานงานความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน และหารือเกี่ยวกับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับประเทศและผู้ที่หลบหนีจากความขัดแย้ง
‘สตาร์ลิงก์’ เหนือน่านฟ้ายูเครน
เว็บไซต์บลูมเบิร์กรายงานด้วยว่า ท่ามกลางที่ยูเครนถูกตัดขาดการสื่อสารโดยเฉพาะอินเตอร์เน็ต ซึ่งรัสเซียต้องการทำให้ลดสมรรถนะการสื่อสารทำให้ยูเครนถึงกับถูกตัดขาดจากโลกภายนอกนั้น มิคาอิโล เฟโดรอฟ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการเปลี่ยนผ่านดิจิตัลของยูเครนได้ทวิตข้อความเชิงขอร้องไปยัง อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสล่า มอเตอร์และสเปซ์เอ็กซ์ ว่า
“ขณะที่คุณพยายามตั้งอาณานิคมบนดาวอังคาร — รัสเซียพยายามยึดครองยูเครน ในขณะที่จรวดของคุณลงจอดจากอวกาศได้สำเร็จ — จรวดของรัสเซียโจมตีพลเรือนชาวยูเครน เราขอให้คุณจัดหาสถานี Starlink ให้กับยูเครนและสื่อสารไปยังรัสเซียให้มีสติ”
จากนั้นในอีก 10 ชั่วโมงต่อมา อีลอนได้ทวิตตอบกลับทวิตของเฟโดรอฟ โดยระบุว่า “โครงข่ายสตาร์ลิงก์เปิดให้บริการในยูเครนแล้ว ตัวกระจายสัญญาณกำลังเดินทาง”
สร้างความฮือฮาให้กับผู้ติดตามสถานการณ์การสู้รบในยูเครนต่างออกมาชื่นชมการกระทำของอีลอนในการช่วยเหลือชาวยูเครนที่กำลังถูกตัดขาดการสื่อสาร
สำหรับสตาร์ลิงก์คือโครงข่ายดาวเทียมนอกโลกที่จะปล่อยสัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ซึ่งทำเพื่อสร้างระบบสื่อสารอินเตอร์เน็ตจากนอกโลกในพื้นที่ที่อินเตอร์เข้าไม่ถึง
ทั้งนี้ กรณีส่งโครงข่ายสตาร์ลิงก์ไปยังยูเครน ไม่ใช่ครั้งแรกที่อีลอน มัสก์เข้าไปเกี่ยวกับการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ก่อนหน้านี้อีลอนได้เข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็น หลังจาก ดิมีทรี โรโซกิน ซีอีโอของรอสคอสมอส ทวิตเชิงขู่ว่า
“ถ้าคุณปิดกั้นความร่วมมือกับเรา(รัสเซีย) ใครจะควบคุมสถานีอวกาศนานาชาติ (ไอเอสเอส) ตอนหลุดจากวงโคจร พุ่งลงโลกไปชนใส่สหรัฐฯหรือยุโรป”
จากนั้นอีลอน มัสก์ ตอบทวิตด้วยการแปะภาพแบรนด์บริษัทสเปซเอ็กซ์ของเขาไป เสมือนบอกเป็นนัยว่า “เราช่วยเอง”