วิกฤตยูเครน-รัสเซีย : ผู้นำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียสั่งระดมพล อ้างถูกโจมตี

จับตาความเสี่ยงสูง! ผู้นำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียในยูเครนสั่งระดมพล อ้างถูกยูเครนโจมตี สหรัฐฯอ้างกำลังพลรัสเซีย 40% ติดชายแดนในตำแหน่งพร้อมโจมตี

ผู้นำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครนที่ฝักใฝ่รัสเซีย 2 กลุ่ม ประกาศระดมพลในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ซึ่งยิ่งทำให้ความหวั่นวิตกว่าสถานการณ์ในยูเครนจะบานปลายกลายเป็นการสู้รบพุ่งสูงขึ้นตามมา การประกาศระดมพลดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่องค์กรความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรประบุว่า มีการโจมตีขยายตัวเพิ่มขึ้นในพื้นที่แนวหน้าของยูเครนตะวันออก โดยกลุ่มกบฏที่สนับสนุนรัสเซีย

ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหากันและกันว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุดในช่วงเช้าวันเสาร์ หลังมีเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้งในทางตอนเหนือของเมืองโดเนตสค์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การปกครองของกลุ่มฝักใฝ่รัสเซีย ต่อมานายเดนิส ปูชิลิน ผู้นำกลุ่มสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ กล่าวผ่านวิดีโอว่าเขาได้ลงนามในคำสั่งระดมพล พร้อมเรียกร้องให้พลเมืองกองหนุนมารายงานตัว

ด้านนายลีโอนิด พาเซสนิค ผู้นำเขตแบ่งแยกดินแดนลูฮานสค์ ก็ออกคำสั่งให้ประชาชนเตรียมพร้อมสำหรับการรุกรานเช่นเดียวกัน โดยพาเซสนิคระบุว่า กองกำลังของเขาได้ป้องกันการโจมตีที่วางแผนโดยหน่วยงานด้านความมั่นคงของยูเครน พร้อมย้ำว่ากองทัพยูเครนได้ทำการโจมตีอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่เมื่อวันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น มีรายงานเกิดเหตุระเบิดรถยนต์ที่สำนักงานใหญ่ของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ ทำให้รถจิ๊บยุคสหภาพโซเวียตหลายคันถูกทำลาย นอกจากนี้ ยังมีรายงานเหตุระเบิดท่อส่งก๊าซที่ลูฮานสค์ 2 ครั้ง ซึ่งทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้นตามมา

ก่อนหน้าเหตุระเบิดที่โดเนตสค์ราวหนึ่งชั่วโมง ผู้นำสาธารณรัฐโดเนตสค์และลูฮานสค์ซึ่งเป็นกลุ่มฝักรัสเซียได้สั่งการให้มีการอพยพผู้หญิง เด็ก และผู้สูงอายุราว 7 แสนคนออกจากพื้นที่ ก่อนหน้าสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าจะเผชิญกับการบุกรุกของยูเครน ซึ่งทางการยูเครนปฏิเสธว่าไม่มีแผนการโจมตีอย่างที่มีการกล่าวหา

ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า รายงานข่าวเกี่ยวกับการอพยพในยูเครนตะวันออก และเหตุระเบิดรถยนต์ในเมืองโดเนตสค์ เป็นความพยายามที่จะปิดบังด้วยการโกหกและการบิดเบือนข้อมูลที่ว่า รัสเซียเป็นผู้ทำการรุกรานในความขัดแย้งที่มีอยู่

กระทรวงต่างประเทศสหรัฐระบุด้วยว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการเหยียดหยามและโหดร้ายที่จะใช้มนุษย์เป็นเบี้ย เพื่อทำให้โลกหันเหจากข้อเท็จจริงที่ว่า รัสเซียกำลังระดมกองกำลังเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตี

ขณะที่ เอเอฟพีอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา ระบุในวันศุกร์(18 ก.พ.)ว่า กองกำลังทหารรัสเซียที่ประจำการอยู่บริเวณแนวชายแดนติดดับยูเครนนั้นกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในตำแหน่งโจมตี

ภาพถ่ายจากดาวเทียมแมกซาร์ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ แต่เผยแพร่เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ กำลังพลรบและเต็นท์ทหารตั้งอยู่ในเมืองวาลิกีของรัสเซีย ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนทางตะวันออกของยูเครนไปเพียง 27 กม.เท่านั้น (เอเอฟพี)

โดยสหรัฐอเมริกา ซึ่งประเมินว่ารัสเซียตรึงกำลังพลประชิดชายแดนยูเครนมากกว่า 150,000 นาย ระบุว่า สังเกตเห็นความเคลื่อนไหวสำคัญของรัสเซียในพื้นที่ดังกล่าวมาตั้งแต่วันพุธ(16 ก.พ.)

เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมรายหนึ่งกล่าวว่า กำลังพลรัสเซียราว 40-50 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในคำแหน่งโจมตี โดยได้มีการสลายการรวมตัวจากจุดรวมพลทางยุทธวิธี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ติดชายแดนที่หน่วยทหารต่างๆตั้งขึ้นล่วงหน้าก่อนปฏิบัติการโจมตี

เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวอีกว่า รัสเซียมีกองพันทางยุทธวิธี 125 กองพัน ใกล้กับชายแดนยูเครน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติจะมีอยู่ที่ 60 กองพัน และเพิ่มขึ้นเป็น 80 กองพันเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ นอกจากนี้ยังมีการปะทะกันเพิ่มขึ้นระหว่างกองทัพยูเครนกับกองกำลังแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียที่เคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดนอยู่ในภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ซึ่งการออกมากล่าวอ้างถึงเหตุความรุนแรงต่างๆนาของฝ่ายรัสเซียในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการรณรงค์บั่นทอนเสถียรภาพในภูมิภาคของรัสเซียได้เริ่มขึ้นแล้ว