ทหารยุ่งเลือกตั้งซ่อม : “สาทิตย์-เทพไท” ยันเกิดขึ้นจริง แม้แม่ทัพภาค 4 ชี้สอบแล้วไม่มีอะไร

“เทพไท” เชื่อมีทหารจุ้นเลือกตั้งซ่อมจริง ดูได้จาก ลต.ซ่อมเขต 3 เมืองคอน “สาทิตย์” ยันอีกเสียง แต่ล่าสุดหนีออกนอกพื้นที่แล้วหลังเป็นข่าว จี้ ผบ.ทบ.สั่งสอบ มทภ.4 โต้กลับ ไม่มีอะไร  สั่งเด็ดขาดให้วางตัวเป็นกลาง

วันที่ 2 ม.ค.65 พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงกรณี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สั่งตรวจสอบข้อร้องเรียนของนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งประสานงานส่วนกลาง กรณีมีทหารกว่า 100 นาย นอกพื้นที่เข้าไปยังพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ชุมพร ในลักษณะกดดันการรณรงค์หาเสียงของพรรค โดยเฉพาะ เสธ ต. ว่า เรื่องดังกล่าวได้ตรวจสอบในพื้นที่แล้วไม่มีอะไร ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ทราบข่าวว่าจะลงมาในพื้นที่จังหวัดชุมพร ก็ยังไม่ได้ลงมา แต่อาจมีคนในพื้นที่ไปพูด ไปบอกอะไรอย่างไรทางพรรคเขาก็ต้องออกมาปรามก่อน

“ไม่มีในทัพภาคที่ 4 ผมสั่งเด็ดขาด ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทางการเมือง ให้วางตัวเป็นกลางทางการเมือง ตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งจริงๆ แล้วก็พรรคพวกกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหน เพราะฉะนั้นเราต้องยืนหยัดยืนยัน ในความเป็นกลางทางการเมือง โดยเรื่องนี้ได้รายงานไปทางกองทัพบกเรียบร้อยแล้ว” พล.ท.เกียงไกรกล่าว” พล.ท.เกรียงไกร กล่าว

ล่าสุด นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประสานงานส่วนกลาง ออกมาเปิดโปงว่ามีทหารกลุ่มหนึ่งเข้าไปแทรกแซงและกดดันในพื้นที่การเลือกตั้งซ่อม เขต 1 จังหวัดชุมพรนั้นว่า ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมีมูลความจริง เพราะมีการอ้างอิงถึง ชื่อนายทหาร “เสธ.ต” และทหารอีก จำนวน 100 นาย

พฤติกรรมเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาในการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งตนได้มีประสบการณ์ตรงในการเลือกตั้งมาแล้ว เพราะมีนายทหารนอกแถวบางกลุ่มลงพื้นที่เดินกำกับ ควบคุมการซื้อเสียง มีการกดดันผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และมีกลุ่มมือปืน นักเลงบางกลุ่ม เข้ากดดันหัวคะแนนฝ่ายตรงข้าม และมีการซื้อเสียงกันอย่างโจ่งแจ้ง โดยใช้กลไกรัฐ มีทั้งทหารและตำรวจ คอยอำนวยความสะดวกการซื้อเสียงอย่างเต็มที่

นายเทพไทกล่าวต่อว่า การที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตแก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีคำสั่งให้กองทัพภาค 4 เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วนั้น ต้องขอขอบคุณที่ ผบ.ทบ.มีความกระตือรือร้น เข้ามาแก้ปัญหาการเลือกตั้งซ่อมให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม และจัดการกับพวกทหารนอกแถวบางกลุ่ม ที่อิงอำนาจรัฐ ซึ่งจะทำให้ผลการเลือกตั้ง ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม กองทัพต้องจัดการให้เสร็จสิ้นก่อนมีการเลือกตั้งซ่อม เพราะหากการเลือกตั้งผ่านไปแล้ว ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่อยากจะร้องเรียนกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในภายหลัง เพราะอาจจะถูกข้อกล่าวหาว่าเป็นพวกขี้แพ้ชวนตีอีก

“ขอให้กองทัพเร่งตัดไฟ ตั้งแต่ต้นลม อย่าให้เป็นเหมือนการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช ในครั้งที่ผ่านมา” นายเทพไทกล่าว

เมื่อถามว่า ทางแม่ทัพภาค 4 ระบุว่า สั่งสอบแล้วไม่มีอะไร นายเทพไทกล่าวว่า ถ้าตรวจสอบเป็นการภายในก็เหมือนกับรูปหน้าปะจมูก ถ้า ผบ.ทบ.อยากรู้ความจริงก็ส่งคนมาฟังกับชาวบ้าน โดยฝังตัวในพื้นที่ชาวบ้านก็จะให้ความจริงเหมือนกับการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 นครศรีธรรมราช ที่ไม่มีใครกล้าพูด พอเลือกตั้งเสร็จความจริงก็ปรากฏ คนกล้าพูด แล้วข้อเท็จจริงก็จะผุดเหมือนดอกเห็ดหลังฝนตก ดังนั้นเรื่องนี้อย่าฟังความข้างเดียว ชาวบ้านจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด

ส่วนที่ แม่ทัพภาค 4 ระบุว่า ไม่ว่าพรรคไหนก็พวกเดียวกันทั้งนั้น นายเทพไทกล่าวว่า พวกเดียวกันทั้งนั้น แต่เวลาแข่งขันไม่ได้เกี่ยวกับว่าเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันใครมีอำนาจให้คุณให้โทษได้ แทรกแซงได้ คนนั้นก็ได้ประโยชน์ การจะมาอ้างว่าเป็นพวกเดียวกันก็ไม่จริง เวลาเลือกก็เลือกคนให้คุณให้โทษมากกว่า ฝ่ายแกนนำก็มีอำนาจมากที่สุด สามารถสั่งการได้มากที่สุด

ขณะที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ ผอ.เลือกตั้งซ่อม เขต 1 จ.ชุมพร กล่าวถึงกรณีที่แม่ทัพภาค 4 ระบุว่าสั่งสอบทหารเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งซ่อมว่าไม่มีอะไร ว่า สิ่งที่นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประสานงานส่วนกลางออกมาพูด เพราะเราได้ข้อมูลมาจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีทหารเข้ามาในพื้นที่ มีการเข้าไปพักในที่พักหลายแห่งใน จ.ชุมพร แต่เมื่อสังเกตดูลักษณะต่างๆ และสืบค้นข้อมูลแล้วก็มีลักษณะคล้ายทหารอย่างที่นายราเมศพูด จึงต้องขอให้ ผบ.ทบ.ตรวจสอบ เพราะทหารดังกล่าวอาจไม่ใช่จากกองทัพภาค 4 แต่เป็นทหารนอกพื้นที่

นายสาทิตย์กล่าวต่อว่า เมื่อเป็นข่าวออกไปก็ทราบจากชาวบ้านว่ามีการย้ายคนกลุ่มนี้ออกจากพื้นที่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เราก็ยังจับตามองต่อไป หาก ผบ.ทบ.ตรวจสอบ ก็จะทราบว่ามีกองทัพอื่นเข้ามาในภาคใต้ ในลักษณะเชิงลับหรือไม่ เพราะมาแบบนอกเครื่องแบบ หากตรวจสอบย้อนหลังไปก็จะทราบได้ไม่ยาก

“เรื่องนี้พูดมาหลายครั้งแล้วในการเลือกตั้งซ่อมว่ามีการใช้อำนาจรัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น การเลือกตั้งซ่อมที่ จ.นครศรีธรรมราช แทนนายเทพไท เสนพงศ์ ความจริงพวกเราหวังที่จะเห็นการเลือกตั้งมีความสุจริตเที่ยงธรรม แต่เมื่อใดทีมีการเอาอำนาจรัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง การเลือกตั้งก็ไม่สุจริตไปได้

“หาก ผบ.ทบ.เอาจริงเอาจัง แม้กองทัพภาค 4 ตรวจสอบแล้ว ก็ขอให้ฝ่ายอำนาจรัฐมีความเป็นกลาง และหวังว่า ผบ.ทบ.จะได้ยืนหยัดในแนวทางนี้ตลอดจนถึงวันลงคะแนน” นายสาทิตย์กล่าว