โฆษกรัฐบาล ถูกสอนมวย! ซัดประยุทธ์บริหามา 8 ปี ใช้ภาษีมากที่สุด แต่ชาวนาจนกว่าเดิม

“ดร.สุวดี” ไทยสร้างไทย สอนมวย “ธนกร” ชี้ ประยุทธ์บริหารประเทศมา 8 ปี ใช้เงินภาษีมากที่สุด แต่ชาวนากลับยากจนกว่าเดิม ย้ำทุกนโยบายทำได้จริง หากไม่เกิดรัฐประหาร

ดร.สุวดี พันธุ์พานิช รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีที่นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า หากนโยบายของคุณหญิงสุดารัตน์ดีจริง คงไม่เห็นชาวนาทุกข์ถึงวันนี้ว่า คุณธนกรต้องอย่าลืมว่าพลเอกประยุทธ์ บริหารประเทศมาเกือบ 8 ปี ใช้งบประมาณแผ่นดินอันมาจากเงินภาษีของประชาชนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่กลับไม่สามารถทำให้ชาวนาหลุดพ้นจากความยากจนได้ หนำซ้ำยังทำให้ชาวนายากจนมากขึ้นกว่าเดิม

จากสถานการณ์ราคาข้าวตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี ในขณะที่ต้นทุนการทำนาสูงขึ้นเป็นอย่างมาก จากการลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด พบว่าต้นทุนการผลิตข้าวของชาวนาอยู่ที่ 3,500 บาทต่อไร่ แต่ชาวนากลับขายข้าวได้เพียงตันละ 8,700 บาท ทำให้ชาวนาขาดทุนทันที 1,000 กว่าบาทต่อไร่ ซึ่งทำให้ชาวนาไม่สามารถลืมตาอ้าปากและหลุดพ้นจากความยากจนได้

สวนทางกับคำพูดของพลเอกประยุทธ์ ที่เคยกล่าวไว้เมื่อปี พ.ศ.2559 ว่าอีก 5 ปีข้างหน้าชาวนาจะรวยขึ้น แต่ 5 ปีผ่านไป ชาวนากลับขายข้าวได้ราคาตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ชาวนายากจนมากขึ้น มีหนี้สินล้นพ้นตัว นอกจากนี้นโยบายที่รัฐบาลหาเสียงไว้ว่าจะดูแลราคาข้าวหอมมะลิไม่ให้ต่ำกว่า 18,000 บาทต่อตัน และข้าวเจ้าไม่ให้ต่ำกว่า 12,000 บาทต่อตัน ก็ยังคงทำไม่ได้ตามที่หาเสียงไว้ ถึงแม้จะครบวาระของรัฐบาลแล้วก็ตาม ซึ่งเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน

สถานการณ์ข้าวที่ราคาตกต่ำเช่นนี้ ประกอบกับความไร้ประสิทธิภาพในการช่วยเหลือชาวนาของรัฐบาล จึงทำให้พรรค ไทยสร้างไทย โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ต้องนำเสนอทางออกให้กับประเทศ ให้ชาวนาหลุดพ้นจากความทุกข์ครั้งนี้ ด้วยการเยียวยาระยะสั้น โดยให้รัฐบาลจัดงบประมาณ 24,000 ล้านบาท เพื่อซื้อข้าวเปลือกประมาณ 2 ล้านตัน ในราคากิโลกรัมละ 12 บาท แล้วนำไปสีเพื่อแจกให้ครัวเรือนยากจนจำนวน 20 ล้านครัวเรือน ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดและน้ำท่วม ครัวเรือนละ 50 กิโลกรัม อีกทั้งยังมีมาตรการในระยะกลางและระยะยาว ที่จะทำให้ชาวนาทำน้อยแต่ได้ผลผลิตมาก ชาวนาหมดหนี้และมีรายไ้ด้ตลอดทั้งปีอีกด้วย

เพราะทุกนโยบายของพรรคไทยสร้างไทย สามารถทำได้จริง โดยสมัยที่คุณหญิงสุดารัตน์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ประสบความสำเร็จอย่างมากในการดูและและช่วยเหลือชาวนา รวมถึงสินค้าการเกษตรอื่นๆ ให้มีราคาสูง ชาวนาสามารถลืมตาอ้าปาก และหลุดพ้นจากความยากจนได้ แต่กลับถูกรัฐประหารไปเสียก่อน

ดังนั้น หากประเทศของเราไม่มีการรัฐประหาร มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เข้าใจความทุกข์ยากลำบากของพี่น้องประชาชนจริงๆ ชาวนาก็คงไม่ต้องทนทุกข์จนถึงทุกวันนี้ แต่หากเพราะเรามีรัฐประหารบ่อยครั้ง มีรัฐราชการและเผด็จการอำนาจนิยมที่คอยกดทับประชาชนอยูาตลอดเวลา จึงทำให้ประชาชนต้องเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสทุกหย่อมหญ้า ซึ่งพรรคไทยสร้างไทยมีอุดมการณ์และนโยบายอย่างชัดเจน ว่าเราจะกำจัดทั้ง 2 สิ่งนี้ให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทย และทำให้คนไทย “หายจน หมดหนี้ มีรายได้ตลอดทั้งปี”ให้สำเร็จ